บอร์ด กก.ขับเคลื่อนแท็บเล็ต ถกคุณสมบัติบริษัทยื่นประมูลแท็บเล็ตทั้งจากไทยและเทศ เหตุเปิดประมูลแบบสากลครั้งแรก “พวงเพ็ชร” เผยต้องเป็นบริษัทที่มีตัวตนชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ มีความมั่นคงทางธุรกิจ ลั่นไม่เอาบริษัทนายหน้าหรือโรงงานผลิต ส่วนการทำทีโออาร์จะประชุม 28 มี.ค.นี้ ด้าน “ชินภัทร” แจงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและสอบถามกลับในประเด็น ล้อมคอกไม่เกิดปัญหาภายหลัง ชี้บริษัทไทยและเทศมีสิทธิ์ยื่นประมูลได้เท่าเทียมกัน
วันนี้ (25 มี.ค.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือ แท็บเล็ต เปิดเผย ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าประมูลการจัดซื้อแท็บเล็ต เพราะเป็นครั้งแรกที่เปิดประมูลแบบสากล โดยให้บริษัททั้งในไทย และต่างประเทศสามารถเข้าร่วมประมูลได้ เพราะฉะนั้น คุณสมบัติของผู้เข้าประมูลทั้งสองส่วนจะต้องมีการกำหนดที่แตกต่างกันบ้าง แต่ภาพรวมจะเน้นว่าต้องเป็นบริษัทที่ทำเรื่องคอมพิวเตอร์ และเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องในการซื้อขายคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นบริษัทนายหน้าหรือโรงงานผลิตคอมพิวเตอร์มาเสนอตัวร่วมประมูล อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องการจัดทำทีโออาร์นั้น จะมีการปรึกษาในเรื่องขั้นตอนรายละเอียดกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 28 มี.ค.นี้
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า เพราะเป็นครั้งแรกที่ประกวดราคาแบบสากล ที่ประชุมจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และกำหนดระเบียบตลอดจนหลักเกณฑ์มารองรับการดำเนินการ โดยเฉพาะในขั้นตอนการกำหนดทีโออาร์และเรื่องคุณสมบัติของผู้ขาย ซึ่งในส่วนข้อกำหนดมาตรฐานที่กรมบัญชีกลางกำหนดมานั้นใช้เฉพาะผู้ขายในประเทศเป็นหลักเท่านั้น แต่ยังมีส่วนผู้ขายต่างประเทศด้วย ดังนั้น ที่ประชุมมีความเห็นในประเด็นดังกล่าว 2 ส่วนว่าควรทำแต่ฉบับภาษาไทยอย่างเดียว ขณะที่บางส่วนเห็นว่าควรทำภาคภาษาอังกฤษด้วยจึงต้องหารือกับกรมบัญชีกลางว่าจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
“คุณสมบัติของผู้ขายจะต้องระบุชัดเจนต้องแสดงถึงตัวตนว่าประกอบธุรกิจในเรื่องของแท็บเล็ต มีความมั่นคงในฐานะการเงินหรือธุรกิจ อีกทั้งจะต้องระบุให้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องภาษีทุกประเภทที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาษีนำเข้า ภาษีศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องที่ทางผู้ขายต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องทำให้เกิดความรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ทำให้การทำงานในขั้นตอนต่างๆ อาจจะขยับจากปฏิทินเดิมที่วางไว้ แต่จะพยายามจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556" นายชินภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในการยื่นขอประมูลนั้นไม่ว่าจะเป็นบริษัทของไทยหรือต่างประเทศมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน เช่น บริษัทหนึ่งจะยื่นประมูล 4 ภูมิภาคเลยก็ได้ เนื่องจากทางกรมบัญชีกลางระบุมาชัดเจนว่า จะกำหนดให้บริษัทหนึ่งยื่นประมูลกี่ภูมิภาคไม่ได้ ทำเช่นนั้นจะถือเป็นการล็อคการประมูล
วันนี้ (25 มี.ค.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือ แท็บเล็ต เปิดเผย ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าประมูลการจัดซื้อแท็บเล็ต เพราะเป็นครั้งแรกที่เปิดประมูลแบบสากล โดยให้บริษัททั้งในไทย และต่างประเทศสามารถเข้าร่วมประมูลได้ เพราะฉะนั้น คุณสมบัติของผู้เข้าประมูลทั้งสองส่วนจะต้องมีการกำหนดที่แตกต่างกันบ้าง แต่ภาพรวมจะเน้นว่าต้องเป็นบริษัทที่ทำเรื่องคอมพิวเตอร์ และเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องในการซื้อขายคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นบริษัทนายหน้าหรือโรงงานผลิตคอมพิวเตอร์มาเสนอตัวร่วมประมูล อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องการจัดทำทีโออาร์นั้น จะมีการปรึกษาในเรื่องขั้นตอนรายละเอียดกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 28 มี.ค.นี้
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า เพราะเป็นครั้งแรกที่ประกวดราคาแบบสากล ที่ประชุมจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และกำหนดระเบียบตลอดจนหลักเกณฑ์มารองรับการดำเนินการ โดยเฉพาะในขั้นตอนการกำหนดทีโออาร์และเรื่องคุณสมบัติของผู้ขาย ซึ่งในส่วนข้อกำหนดมาตรฐานที่กรมบัญชีกลางกำหนดมานั้นใช้เฉพาะผู้ขายในประเทศเป็นหลักเท่านั้น แต่ยังมีส่วนผู้ขายต่างประเทศด้วย ดังนั้น ที่ประชุมมีความเห็นในประเด็นดังกล่าว 2 ส่วนว่าควรทำแต่ฉบับภาษาไทยอย่างเดียว ขณะที่บางส่วนเห็นว่าควรทำภาคภาษาอังกฤษด้วยจึงต้องหารือกับกรมบัญชีกลางว่าจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
“คุณสมบัติของผู้ขายจะต้องระบุชัดเจนต้องแสดงถึงตัวตนว่าประกอบธุรกิจในเรื่องของแท็บเล็ต มีความมั่นคงในฐานะการเงินหรือธุรกิจ อีกทั้งจะต้องระบุให้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องภาษีทุกประเภทที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาษีนำเข้า ภาษีศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องที่ทางผู้ขายต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องทำให้เกิดความรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ทำให้การทำงานในขั้นตอนต่างๆ อาจจะขยับจากปฏิทินเดิมที่วางไว้ แต่จะพยายามจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556" นายชินภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในการยื่นขอประมูลนั้นไม่ว่าจะเป็นบริษัทของไทยหรือต่างประเทศมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน เช่น บริษัทหนึ่งจะยื่นประมูล 4 ภูมิภาคเลยก็ได้ เนื่องจากทางกรมบัญชีกลางระบุมาชัดเจนว่า จะกำหนดให้บริษัทหนึ่งยื่นประมูลกี่ภูมิภาคไม่ได้ ทำเช่นนั้นจะถือเป็นการล็อคการประมูล
