ครูอัตราจ้าง-เจ้าหน้าที่ธุรการใน วท.สังกัด สอศ.บุก ศธ.ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นข้าราชการเพื่อความมั่นคง ลั่นก่อนเปิดเทอมต้องได้คำตอบชัดเจน ไม่งั้นจะบุกมาอีกและจะตามทวงทุกที่จังหวัดที่ “ยิ่งลักษณ์” ลงพื้นที่ ด้าน สอศ.เตรียมชงเรื่องเข้า ครม.ขออัตรากำลังเพิ่ม ระบุอาชีวะเจอภาวะขาดแคลนครูอย่างหนักโดยครูขาดกว่า 1.3 หมื่น และธุรการขาดกว่า 1.6 หมื่น
วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. กลุ่มครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จากทั่วประเทศเกือบ 2,000 คน เดินทางมาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รับครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการและพนักงานราชการในสังกัด สอศ.โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้ลงมารับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องด้วยตัวเอง
โดย นายชยพล บุตรทองดี ครูอัตราจ้างจากวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก กล่าวว่า กลุ่มครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว ต้องการให้ ศธ.ผลักดันเรื่องการบรรจุพวกตนซึ่งเป็นครูอัตราจ้างเป็นข้าราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย และบรรจุเจ้าหน้าที่ธุรการซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานราชการ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน และสร้างความมั่นใจในการทำงาน เพราะบางคนเป็นครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวมากว่า10 ปี จนใกล้จะเกษียณอายุราชการก็ยังไม่ได้รับการบรรจุ นอกจากนี้สัญญาจ้างยังทำปีต่อปีบางแห่งก็ทำแค่ 5 เดือน หรือ 9 เดือนและเลิกจ้างไปก็มี พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้ได้รับเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทตามมติ ครม.ด้วย
“ รมว.ศึกษาธิการได้รับปากที่จะช่วยผลักดันให้ก่อนที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ในเดือน พ.ค.นี้ แต่หากถึงเวลาแล้วยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน พวกเราจะทวงคำตอบอีกครั้งช่วงเปิดภาคเรียน และหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปจังหวัดไหน ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือทวงสัญญาทุกครั้งจนกว่าจะได้ความชัดเจน” นายชยพล กล่าว
ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนเห็นใจครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต เรื่องนี้ สอศ.เคยทำเรื่องเสนอขออัตรากำลังเพิ่มจากคณะรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้นคงต้องให้ สอศ.จัดทำข้อมูลและขอทบทวนไปยัง ครม.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามการบรรจุข้าราชการและพนักงานราชการคงต้องดูในภาพรวมด้วย
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิทยาลัยสังกัด สอศ.จ้างครูอัตราจ้าง ทั้งหมด 8,002 คน และลูกจ้างชั่วคราวอีกประมาณ 11,641 คน รวมประมาณ 20,000 คน ทั้งหมดนี้ ถูกจ้างชั่วคราวในรูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่จ้างระยะยาว จ้างรายปี รายเดือน หรือแม้กระทั่งจ้างรายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้ออกเงินและจำเป็นต้องบริหารจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ เกิดความประหยัดมากที่สุด จึงทำให้การจ้างครู พนักงานชั่วคราวมีความหลากหลาย ทั้งนี้ การจ้างครูอัตราจ้างและลูกจ้างนั้น เป็นผลมาจากภาวะขาดแคลนครูและบุคลากรอย่างหนักของ สอศ.ปัจจุบัน สอศ.มีข้าราชการครูทั้งหมด18,321 คน แต่หากคิดอัตราส่วนครูต่อนักเรียน1 : 20 แล้ว สอศ.ยังขาดครูถึง 13,710 คน ส่วนพนักงานธุรการมีแค่ 2,966 คน เฉลี่ยแล้ววิทยาลัยแต่ละแห่งมีแค่ 6 คน แต่ความต้องการที่แท้จริงนั้น ต้องจ้างเพิ่มอีกประมาณ 16,000 คน จะเห็นได้ว่า ถ้าวิทยาลัยไม่กั้นเงินค่าใช้จ่ายรายหัวและเงินบำรุงการศึกษาระดับ ปวส.ที่เก็บได้มาจ้างครู ธุรการเพิ่มขึ้น การเรียนการสอน งานธุรการของวิทยาลัยจะต้องเกิดปัญหาแน่นอน
เพราะฉะนั้น สอศ.ตระหนักถึงปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว และเคยเสนอ ครม.ขออัตรากำลังเพิ่ม แต่เรื่องถูกตีกลับมาให้ทบทวน ระหว่างนี้ จึงอยู่ระหว่างเร่งทำกรอบอัตรากำลังเสนอครม.อีกครั้ง ในส่วนของการกำหนดกรอบอัตรากำลังครูนั้น สอศ.คำนวณบนพื้นฐานภาระงานของครูโดยดูจากจำนวนชั่วโมงสอนของครู และคำนวณจากสัดส่วนจำนวนครูต่อนักเรียน และจำนวนนักเรียนต่อห้อง ซึ่งกำลัง สอศ.กำลังศึกษาว่า จำนวนนักเรียนต่อห้อง และจำนวนนักเรียนต่อครูที่เหมาะสมจะเป็นเท่าใด
“กรอบอัตรากำลังนี้จะเสร็จและเสนอ ครม.ก่อนเปิดภาคเรียน ส่วนจะได้กี่ตำแหน่งนั้นขึ้นอยู่กับ ครม.ทั้งนี้ เมื่อได้อัตรากำลังเพิ่มแล้ว ก็จะนำมาบรรจุครูและฝ่ายสนับสนุนการสอนหรือเจ้าหน้าที่ธุรการ โดยในการคัดเลือกนั้น จะให้ความสำคัญกับเรื่องประสบการณ์ทำงานด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับครูจ้างที่มีประสบการณ์ทำงานมาระยะหนึ่งและมีความสามารถ แต่ระหว่างที่เรื่องยังไม่เรียบร้อยนั้น จะมี สอศ.จะพยายามดูแลครูอัตราจ้างให้ดีที่สุด โดยจะมีการพูดคุยเรื่องนี้ในการประชุมผอ.วิทยาลัย สอศ.ทั่วประเทศ วันที่ 19 มี.ค.นี้ นอกจากนั้น สอศ.ยังได้สั่งระงับการรับครูอัตราจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวไว้แล้วตั้งแต่ต.ค. 2555 เพื่อรอให้กรอบอัตรากำลังใหม่มาและบรรจุครูอัตราจ้างเดิมก่อน” เลขาธิการ กอศ. กล่าว
วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. กลุ่มครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จากทั่วประเทศเกือบ 2,000 คน เดินทางมาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รับครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการและพนักงานราชการในสังกัด สอศ.โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้ลงมารับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องด้วยตัวเอง
โดย นายชยพล บุตรทองดี ครูอัตราจ้างจากวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก กล่าวว่า กลุ่มครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว ต้องการให้ ศธ.ผลักดันเรื่องการบรรจุพวกตนซึ่งเป็นครูอัตราจ้างเป็นข้าราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย และบรรจุเจ้าหน้าที่ธุรการซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานราชการ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน และสร้างความมั่นใจในการทำงาน เพราะบางคนเป็นครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวมากว่า10 ปี จนใกล้จะเกษียณอายุราชการก็ยังไม่ได้รับการบรรจุ นอกจากนี้สัญญาจ้างยังทำปีต่อปีบางแห่งก็ทำแค่ 5 เดือน หรือ 9 เดือนและเลิกจ้างไปก็มี พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้ได้รับเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทตามมติ ครม.ด้วย
“ รมว.ศึกษาธิการได้รับปากที่จะช่วยผลักดันให้ก่อนที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ในเดือน พ.ค.นี้ แต่หากถึงเวลาแล้วยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน พวกเราจะทวงคำตอบอีกครั้งช่วงเปิดภาคเรียน และหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปจังหวัดไหน ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือทวงสัญญาทุกครั้งจนกว่าจะได้ความชัดเจน” นายชยพล กล่าว
ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนเห็นใจครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราวที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต เรื่องนี้ สอศ.เคยทำเรื่องเสนอขออัตรากำลังเพิ่มจากคณะรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้นคงต้องให้ สอศ.จัดทำข้อมูลและขอทบทวนไปยัง ครม.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามการบรรจุข้าราชการและพนักงานราชการคงต้องดูในภาพรวมด้วย
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิทยาลัยสังกัด สอศ.จ้างครูอัตราจ้าง ทั้งหมด 8,002 คน และลูกจ้างชั่วคราวอีกประมาณ 11,641 คน รวมประมาณ 20,000 คน ทั้งหมดนี้ ถูกจ้างชั่วคราวในรูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่จ้างระยะยาว จ้างรายปี รายเดือน หรือแม้กระทั่งจ้างรายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้ออกเงินและจำเป็นต้องบริหารจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ เกิดความประหยัดมากที่สุด จึงทำให้การจ้างครู พนักงานชั่วคราวมีความหลากหลาย ทั้งนี้ การจ้างครูอัตราจ้างและลูกจ้างนั้น เป็นผลมาจากภาวะขาดแคลนครูและบุคลากรอย่างหนักของ สอศ.ปัจจุบัน สอศ.มีข้าราชการครูทั้งหมด18,321 คน แต่หากคิดอัตราส่วนครูต่อนักเรียน1 : 20 แล้ว สอศ.ยังขาดครูถึง 13,710 คน ส่วนพนักงานธุรการมีแค่ 2,966 คน เฉลี่ยแล้ววิทยาลัยแต่ละแห่งมีแค่ 6 คน แต่ความต้องการที่แท้จริงนั้น ต้องจ้างเพิ่มอีกประมาณ 16,000 คน จะเห็นได้ว่า ถ้าวิทยาลัยไม่กั้นเงินค่าใช้จ่ายรายหัวและเงินบำรุงการศึกษาระดับ ปวส.ที่เก็บได้มาจ้างครู ธุรการเพิ่มขึ้น การเรียนการสอน งานธุรการของวิทยาลัยจะต้องเกิดปัญหาแน่นอน
เพราะฉะนั้น สอศ.ตระหนักถึงปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว และเคยเสนอ ครม.ขออัตรากำลังเพิ่ม แต่เรื่องถูกตีกลับมาให้ทบทวน ระหว่างนี้ จึงอยู่ระหว่างเร่งทำกรอบอัตรากำลังเสนอครม.อีกครั้ง ในส่วนของการกำหนดกรอบอัตรากำลังครูนั้น สอศ.คำนวณบนพื้นฐานภาระงานของครูโดยดูจากจำนวนชั่วโมงสอนของครู และคำนวณจากสัดส่วนจำนวนครูต่อนักเรียน และจำนวนนักเรียนต่อห้อง ซึ่งกำลัง สอศ.กำลังศึกษาว่า จำนวนนักเรียนต่อห้อง และจำนวนนักเรียนต่อครูที่เหมาะสมจะเป็นเท่าใด
“กรอบอัตรากำลังนี้จะเสร็จและเสนอ ครม.ก่อนเปิดภาคเรียน ส่วนจะได้กี่ตำแหน่งนั้นขึ้นอยู่กับ ครม.ทั้งนี้ เมื่อได้อัตรากำลังเพิ่มแล้ว ก็จะนำมาบรรจุครูและฝ่ายสนับสนุนการสอนหรือเจ้าหน้าที่ธุรการ โดยในการคัดเลือกนั้น จะให้ความสำคัญกับเรื่องประสบการณ์ทำงานด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับครูจ้างที่มีประสบการณ์ทำงานมาระยะหนึ่งและมีความสามารถ แต่ระหว่างที่เรื่องยังไม่เรียบร้อยนั้น จะมี สอศ.จะพยายามดูแลครูอัตราจ้างให้ดีที่สุด โดยจะมีการพูดคุยเรื่องนี้ในการประชุมผอ.วิทยาลัย สอศ.ทั่วประเทศ วันที่ 19 มี.ค.นี้ นอกจากนั้น สอศ.ยังได้สั่งระงับการรับครูอัตราจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวไว้แล้วตั้งแต่ต.ค. 2555 เพื่อรอให้กรอบอัตรากำลังใหม่มาและบรรจุครูอัตราจ้างเดิมก่อน” เลขาธิการ กอศ. กล่าว
