ม็อบโผล่รุมทึ้งรัฐต้นสัปดาห์ “ครูอาชีวะ” รวมตัวหน้าทำเนียบ ร้องนายกฯ ดันครูอัตราจ้างบรรจุเป็นข้าราชการ หลังถูก “สงป.-สศช.” ตั้งแง่กรอบกำลัง พนง.ข้าราชการ อีกด้านม็อบชาวไร่อ้อยบุกกระทรวงอุตสาหกรรม จี้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเพิ่มเงินค่าอ้อยขั้นต้นอีก 250 บาทต่อตัน หลังราคาผลผลิตตกต่ำ พร้อมขอจัดสรรเงินกู้จากกองทุนที่เคยเรียกเก็บกิโลกรัมละ 5 บาท
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มตัวแทนครูอัตราจ้าง และลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประมาณ 300 ราย นำโดยนายทองหล่อ รินน้อย ตัวแทนครูอัตราจ้าง จ.ขอนแก่น เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีผลักดันเปลี่ยนสถานภาพครูอัตราจ้างเป็นข้าราชการและลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานข้าราชการ
ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ นำเสนอเรื่องขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสภาพครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเป็นอัตราข้าราชการสายผู้สอนจำนวน 8,595 อัตรา และพนักงานราชการสายสนับสนุนจำนวน 11,403 อัตรา ซึ่งที่ประชุม ครม.มีมติไม่อนุมัติกรอบกำลังพนักงานราชการ เนื่องจากสำนักงบประมาณและสำนักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติตั้งข้อสังเกตว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาขอจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาจะไม่ขอเพิ่มอัตรากำลัง และกรอบอัตรากำลังจะเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณให้แก่รัฐบาล
แต่จากสภาพความเป็นจริง วิทยาลัยในสังกัดคณะกรรมการอาชีวศึกษาทุกแห่งขาดแคลนครูผู้สอน และขาดแคลนกำลังคนสายสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ที่อาจเกิดความเสียหายต่อทางราชการและคุณภาพในการจัดการเรียนการสอนได้ กลุ่มตัวแทนครูอัตราจ้างฯจึงขอความอนุเคราะห์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการสนับสนุนผลักดันการเปลี่ยนสถานภาพครูอัตราจ้างเป็นข้าราชการและลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานข้าราชการ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครูอัตราจ้างและลูกจ้างชั่วคราว
ด้านนายพันธุ์ศักดิ์ เจริญ ผู้ช่วยเลขานุการปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่องพร้อมชี้แจงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการส่งให้สำนักคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พิจารณาแล้ว ซึ่งทาง ก.พ.มี่การให้ตั้งคณะกรรมการโดยให้มีตัวแทนจากครูอัตราจ้าง และลูกจ้างชั่วคราวเข้าร่วมหารือด้วย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาตัวบุคคล
ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งต่อนายกฯให้ทราบภายในวันนี้ และยืนยันว่าจะเร่งผลักดันครูอัตราจ้าง และลูกจ้างประมาณ 1.9 หมื่นรายทั่งวประเทศ เป็นข้าราชการและพนักงานราชการให้เร็วที่สุด
อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 ตัวแทนชาวไร่อ้อยทั่วประเทศมาชุมนุมที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดยขอให้เพิ่มเงินค่าอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 ในอัตรา 250 บาทต่อตันอ้อย จากราคาอ้อยปัจจุบันอยู่ที่ 950 บาทต่อตันอ้อย รวมแล้วจะเป็น 1,200 บาทต่อตันอ้อย
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา พิจารณาตัวเลขเงินช่วยเหลืออยู่ที่ 161 บาทต่อตันอ้อย ส่งผลให้ชาวไร่อ้อยไม่พอใจ เพราะว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ได้คำนวณต้นทุนการผลิตอ้อย แต่ว่าเป็นการคำนวณราคาเฉลี่ย ซึ่งหากรัฐบาลไม่เพิ่มเงินค่าอ้อยให้ อาจจะส่งผลให้ประมาณอ้อยขาดตลาด และกระทบต่อราคาน้ำตาลทรายในประเทศ ซึ่งอาจจะต้องปรับขึ้นกิโลกรัมละ 5-8 บาท
ขณะเดียวกัน ตัวแทนชาวไร่อ้อยยังเสนอให้จัดสรรเงินกู้แก่ชาวไร่ จากเงินกองทุนชาวไร่อ้อยและน้ำตาลทราย ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเรียกเก็บจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งมีเงินอยู่ถึง 12,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนอีกด้วย
นอกจากนี้ ตัวแทนชาวไร่อ้อยตั้งสังเกตว่า นายสมศักดิ์ สุวัฒิกะ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายคนใหม่ และนายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย มีความไม่ชอบมาพากล โดยมีการบิดเบือนตัวเลขช่วยเหลือชาวไร่อ้อยต่ำกว่าความเป็นจริง จึงเรียกร้องให้ 2 คนนี้ออกไปจากวงการอ้อยและน้ำตาลทรายโดยเร็ว
ล่าสุด นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะนำข้อเรียกร้องของเกษตรกรมาพิจารณา โดยเอาต้นทุนที่แท้จริงของราคาอ้อย ณ ปัจจุบันมาดูว่า สามารถปรับขึ้นราคาอ้อยตามที่เรียกร้องได้หรือไม่ ซึ่งจะมีการหารือกับแกนนำในช่วงบ่ายนี้เพื่อหาข้อยุติ
ขณะที่กลุ่มชาวไร่อ้อยกล่าวว่า จะรอฟังผลประชุมของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายในช่วงบ่าย ซึ่งมีนายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน
