ไทยมีตลาดสดผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 1,302 แห่ง “หมอชลน่าน” ฟุ้งเป็นประเทศต้นแบบด้านตลาดสดในกลุ่มอาเซียน เตรียมพัฒนาตลาดนัดให้ได้มาตรฐาน หลังปี 53 พบสารเคมีเพียบ
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต จ.ปทุมธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมโครงการพัฒนาตลาดทั่วไทย ก้าวไกลสู่การเป็นต้นแบบในประชาคมอาเซียน ว่า สธ.ดำเนินงานตลาดสด น่าซื้อ ตั้งแต่ปี 2545 ทำให้ในปี 2555 ประเทศไทยมีตลาดประเภทที่ 1 (ตลาดที่มีโครงสร้าง) ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ จำนวน 1,302 แห่ง แบ่งเป็นระดับดี 1,074 แห่ง และระดับดีมาก 228 แห่ง สำหรับการรักษามาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ กรมอนามัยยังคงเฝ้าระวังและสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องทุกปี และมอบโล่รางวัลเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้กับตลาดสดที่สามารถรักษาคุณภาพระดับดีมากหรือระดับ 5 ดาว ติดต่อกัน 5 ปีขึ้นไป พร้อมทั้งยกระดับให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลาดสด และทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศต้นแบบด้านตลาดสด มีประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนเข้ามาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดท้ายขายของ หรือ “ตลาดนัด” สธ.ได้กำหนดให้เป็นตลาดประเภทที่ 2 (ตลาดที่ไม่มีโครงสร้างอาคาร) ถือเป็นกิจการที่ต้องควบคุมกำกับโดยราชการส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ภายใต้กฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของตลาด พ.ศ.2551 ซึ่งมีการขายสินค้าประเภทอาหารทั้งอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ หากไม่มีการควบคุมหรือการจัดการที่ดี อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ สธ.จึงต้องเร่งควบคุมและพัฒนาตลาดนัด เพื่อเป็นการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ภายใต้โครงการ “ตลาดนัด น่าซื้อ” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552
นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ร่วมมือกับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศเพื่อจัดเก็บข้อมูลด้านการจัดการและสุขลักษณะการออกใบอนุญาตของตลาดนัดและนำมาวางแผนเพื่อพัฒนาคุณภาพตลาดนัดให้ได้มาตรฐาน และจากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพอาหารที่จำหน่ายในตลาดนัดเมื่อปี 2553 พบว่า มีการปนเปื้อนของสารเคมีและจุลินทรีย์ ร้อยละ 16.3 และ 37.5 ตามลำดับ โดยสารเคมีที่ตรวจสอบพบสูงสุด คือ สารฟอกขาว รองลงมา คือสารกันรา ฟอร์มาลิน และสารบอแรกซ์ตามลำดับ หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และหากสะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดโรคไตอักเสบ ไตวายหรือโรคมะเร็งได้
“เมื่อปี 2555 กรมอนามัย ได้ดำเนินงานโครงการตลาดนัด น่าซื้อ ภายใต้เป้าหมาย “1 จังหวัด 1 ตลาดนัดต้นแบบ” ทำให้มีตลาดนัดผ่านเกณฑ์มาตรฐานและสามารถเป็นต้นแบบได้จำนวน 30 แห่ง และยังคงพัฒนาตลาดนัดที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ฯให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้มอบนโยบายโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้กับภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดสดไทยให้ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการป้องกันโรคและรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว