ส.แพทย์ผิวหนังฯ บริการตอบปัญหาผิวหนังผ่านอีเมล

สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จัดแพทย์อาสาตอบคำถามปัญหาสุขภาพผิวพรรณผ่านระบบอีเมล หวังให้ข้อมูลที่กระจ่างชัด ถูกต้อง ไม่ตกเป็นเหยื่อสถานบริการ ยกเคสนิยมฉีดผิวขาวเสี่ยงมะเร็งผิวหนังมากกว่าผิวคล้ำ ย้ำงดตอบการขอชื่อยา ค่ายา ค่าเลเซอร์ หรือแนะนำแพทย์ผิวหนัง ลั่นเป็นเพียงความคิดเห็นแพทย์ ไม่ใช่การรักษา สงวนสิทธิ์นำไปอ้างอิงทางกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมตอบคำถามด้านสุขภาพและผิวพรรณความงามและโรคผิวหนังชนิดต่างๆ ให้แก่ประชาชนผู้สนใจทั่วไปผ่านระบบอีเมล โดยจะมีแพทย์อาสาซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ ให้บริการตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาผิวหนัง ทั้งนี้ ในเว็บไซต์ของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย www.dst.or.th/html/index.php ได้ระบุเงื่อนไขในการตอบคำถามผ่านอีเมล์ด้วยว่า สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย มีความยินดีให้บริการตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาทางผิวหนัง ในระบบอีเมล (ไม่ใช่ Web Board) แก่ประชาชนทุกท่านโดยมีเงื่อนไข ดังนี้

1.กรุณาส่งคำถามมาได้ที่ email: question@dst.or.th 2.สมาคมฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลือกตอบคำถามบางคำถามตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผล ตัวอย่างคำถามที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น ขอชื่อยาเพื่อจะไปซื้อยาเองโดยไม่พบแพทย์, ค่ายา ค่าเลเซอร์ ราคาเท่าไร, ให้ไปพบแพทย์ผิวหนังท่านไหน เป็นต้น 3.เนื่องจากคำถามที่ได้รับอาจมีข้อมูลที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง หรือ คำถามไม่ชัดเจน หรือ รูปภาพ ประกอบไม่ชัดเจน ดังนั้นคำตอบ จึงตอบตามข้อมูลที่ได้รับและไม่สามารถนำไปใช้เทียบเคียงกับคำตอบจากแพทย์ท่านอื่นได้ 4.แพทย์อาสาของสมาคมฯ เป็นผู้ให้บริการคำปรึกษาแก่ผู้มาขอรับบริการ มิใช่เป็นการรักษาพยาบาลและเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาเท่านั้น ไม่มีผลผูกพันต่อที่ทำงาน หรือ โรงพยาบาลที่สังกัด หรือสมาคมฯ แต่อย่างใด และทางสมาคมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการนำคำปรึกษาไปใช้อ้างอิงทางกฎหมาย และ 5.กรุณาใช้ภาษาสุภาพ

พล.ต.นพ.กฤษฎา ดวงอุไร นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนที่อยากได้ความกระจ่างชัดเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพผิวพรรณต่างๆ อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการประกอบวิชาชีพเวชกรรมทางด้านผิวหนังให้แพร่หลาย กว้างขวาง และถูกต้องตามหลักวิชาการ อย่างการที่คนนิยมไปฉีดผิวให้ขาวขึ้นเพราะคิดว่าดีหรือสวยนั้นก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังสูงกว่าคนผิวคล้ำ เพราะความสามารถในการป้องกันแสงแดดเสียไป อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่มีรายงานผลทางการแพทย์ที่แน่ชัด