โรคมะเร็งยังรั้งการตายอันดับ 1 ของไทย แพทย์เตือนอัตราป่วยมะเร็งลำไส้สูงขึ้น โดยเฉพาะคนเมือง เหตุชอบกินเนื้อสัตว์ประเภทปิ้งย่าง แนะใช้สมุนไพรรักษามะเร็งต้องศึกษาข้อมูลให้ดี หลังพบเห็ดหลินจือ-หญ้าปักกิ่ง ทำเม็ดเลือดขาวต่ำ
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานวันมะเร็งโลก ซึ่งจัดโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และสมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 4 ก.พ.ของทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก โดยในส่วนของประเทศไทยโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีแผนการป้องกันและควบคุมมะเร็งแห่งชาติมาตั้งแต่พ.ศ.2540 แล้ว และจากการจัดงานครั้งนี้จะมีการปรับแผนการป้องกันและควบคุมมะเร็งขึ้นมาใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันอีกแนวทางหนึ่งในการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง คือความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องทำให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่ามะเร็งบางชนิดสามารถป้องกันได้ คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งบางชนิดสามารถตรวจพบได้ในระยะแรกซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ คือ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สถานการณ์โรคมะเร็งในไทยนั้น พบว่า โรคมะเร็งลำไส้มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้อยู่ที่ร้อยละ 10 มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคนเมืองที่มักไม่ค่อยออกกำลังกาย นิยมรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ที่ไหม้เกรียม รับประทานผักน้อย ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ทั้งสิ้น
นพ.ภัทรพงศ์ พรโสภณ อายุรแพทย์โรคเลือดและมะเร็งวิทยา กลุ่มงานเคมีบำบัด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานผักเยอะๆ จะไม่ทำให้เซลล์มะเร็งโต ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะหากไม่รับประทานเนื้อสัตว์เลยอาจจะทำให้เกิดโรคโลหิตจางขึ้นมาด้วย ขณะเดียวกันการรับประทานเนื้อสัตว์ก็ควรระวัง ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ประเภทปิ้ง ย่างจนเกรียม เพราะไขมันในสัตว์ที่ถูกไหม้จนเกรียมจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ อีกความเชื่อที่พบมาก คือ การใช้สมุนไพรรักษามะเร็ง ตนไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้ แต่หากผู้ป่วยรายใดจะใช้ ขอให้ศึกษาอย่างละเอียด รวมถึงดูว่ามีงานวิจัยรองรับด้วยหรือไม่ เพราะสมุนไพรบางชนิดแม้ว่าจะมีสรรพคุณในการเพิ่มภูมิต้านทานโรค เช่น เห็ดหลินจือ หญ้าปักกิ่ง แต่เมื่อมีการนำไปใช้ร่วมกับการรักษาทางเคมีอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยได้ โดยจะทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยต่ำ และไม่สามารถให้ยาในการรักษาได้
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานวันมะเร็งโลก ซึ่งจัดโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และสมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 4 ก.พ.ของทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก โดยในส่วนของประเทศไทยโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีแผนการป้องกันและควบคุมมะเร็งแห่งชาติมาตั้งแต่พ.ศ.2540 แล้ว และจากการจัดงานครั้งนี้จะมีการปรับแผนการป้องกันและควบคุมมะเร็งขึ้นมาใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันอีกแนวทางหนึ่งในการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง คือความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องทำให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่ามะเร็งบางชนิดสามารถป้องกันได้ คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งบางชนิดสามารถตรวจพบได้ในระยะแรกซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ คือ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สถานการณ์โรคมะเร็งในไทยนั้น พบว่า โรคมะเร็งลำไส้มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้อยู่ที่ร้อยละ 10 มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคนเมืองที่มักไม่ค่อยออกกำลังกาย นิยมรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ที่ไหม้เกรียม รับประทานผักน้อย ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ทั้งสิ้น
นพ.ภัทรพงศ์ พรโสภณ อายุรแพทย์โรคเลือดและมะเร็งวิทยา กลุ่มงานเคมีบำบัด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานผักเยอะๆ จะไม่ทำให้เซลล์มะเร็งโต ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะหากไม่รับประทานเนื้อสัตว์เลยอาจจะทำให้เกิดโรคโลหิตจางขึ้นมาด้วย ขณะเดียวกันการรับประทานเนื้อสัตว์ก็ควรระวัง ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ประเภทปิ้ง ย่างจนเกรียม เพราะไขมันในสัตว์ที่ถูกไหม้จนเกรียมจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ อีกความเชื่อที่พบมาก คือ การใช้สมุนไพรรักษามะเร็ง ตนไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้ แต่หากผู้ป่วยรายใดจะใช้ ขอให้ศึกษาอย่างละเอียด รวมถึงดูว่ามีงานวิจัยรองรับด้วยหรือไม่ เพราะสมุนไพรบางชนิดแม้ว่าจะมีสรรพคุณในการเพิ่มภูมิต้านทานโรค เช่น เห็ดหลินจือ หญ้าปักกิ่ง แต่เมื่อมีการนำไปใช้ร่วมกับการรักษาทางเคมีอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยได้ โดยจะทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยต่ำ และไม่สามารถให้ยาในการรักษาได้