สธ.เตรียมปรับค่าตอบแทนตามพื้นที่กันดารใหม่ เอื้อ รพท.ห่างไกลควรได้เบี้ยกันดาร ส่วน รพช.เขตเมืองหมดสิทธิ์ ขณะที่เบี้ยตามภาระงานต้องคุ้มกับเงินเดือนด้วย มั่นใจเป็นธรรมทุกพื้นที่ คาดบังคับใช้ 1 มี.ค.2556
วันนี้ (29 ม.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์จ่ายค่าตอบแทนบุคลากรแบบใหม่ ว่า จากที่ สธ.ใช้หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคลากรตามหลักเกณฑ์ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 ฉบับที่ 5 และ 6 พ.ศ.2552 นั้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการจ่ายตามสภาพพื้นที่ที่มีความทุรกันดาร เพื่อชดเชยโอกาสที่ต้องสูญเสียไปในหลายด้านจากการอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้ สธ.อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนฉบับใหม่ โดยแบ่งการพิจารณาเป็น 2 ส่วน คือ 1.ตามสภาพพื้นที่ โดยจะมีการจัดแบ่งกลุ่มระดับพื้นที่กันดารใหม่ เบื้องต้นอาจจะจัดแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ปกติ, กันดาร 1, กันดาร 2 และเจริญ ส่วนแต่ละระดับจะได้รับค่าตอบแทนเท่าไรอยู่ระหว่างการพิจารณา
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า และ 2.ตามภาระงาน หรือ การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (Pay for Performance : P4P) แต่เนื่องจากบุคลากรมีเงินเดือนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมีการพิจารณาว่าการปฏิบัติงานระดับใดเหมาะสมกับเงินเดือนที่ได้รับ ส่วนการปฏิบัติงานที่เกินจากค่าเงินเดือน จึงจะนำมาใช้พิจารณาเพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนตามภาระงาน ดังนั้น แม้จะเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่กันดารระดับเดียวกัน แต่โรงพยาบาลหนึ่งมีภาระงานมากกว่าอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ค่าตอบแทนที่ได้รับก็จะไม่เท่ากัน การดำเนินการเช่นนี้เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับบุคลากรทุกพื้นที่ โดยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จะมีการประชุมหารือในเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนนำเสนอต่อ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2556
“พื้นที่ใดที่เคยเป็นพื้นที่กันดาร แต่ปัจจุบันอาจกลายเป็นพื้นที่เจริญหรือเขตเมืองแล้ว อาจจะไม่ได้รับค่าตอบแทนในส่วนกันดาร เนื่องจากไม่ได้สูญเสียโอกาสในด้านต่างๆ แต่จะได้รับจากส่วนที่เป็นการจ่ายตามภาระงาน ส่วนพื้นที่ที่มีความกันดารจริงจะพิจารณาให้ทั้งผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) และโรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ไม่ใช่ได้เฉพาะ รพช.เท่านั้น อย่างเช่น รพช.ในเขตปริมณฑลอาจจะไม่ได้ค่าตอบแทนตามพื้นที่ ขณะที่ รพท.ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนหรือเบตง จะได้รับค่าตอบแทนจากความกันดารของพื้นที่ เป็นต้น” ปลัด สธ.กล่าวและว่า แม้แต่โรงพยาบาลในจังหวัดเดียวกันก็อาจได้รับค่าตอบแทนจากพื้นที่กันดารต่างกัน เช่น จ.สงขลา รพ.บางกล่ำ ที่อยู่ใกล้ อ.หาดใหญ่ มาก จะได้รับจากส่วนกันดารน้อยกว่า รพ.สะบ้าย้อย การดำเนินการทั้งหมดต้องทำให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่ควรได้ก็ต้องลด ซึ่งต้องมีคนได้รับค่าตอบแทนจากส่วนความกันดารของพื้นที่ลดลงแต่จะได้รับเพิ่มในส่วนที่จ่ายตามภาระงานหากมีภาระงานมาก
วันนี้ (29 ม.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์จ่ายค่าตอบแทนบุคลากรแบบใหม่ ว่า จากที่ สธ.ใช้หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคลากรตามหลักเกณฑ์ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 ฉบับที่ 5 และ 6 พ.ศ.2552 นั้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการจ่ายตามสภาพพื้นที่ที่มีความทุรกันดาร เพื่อชดเชยโอกาสที่ต้องสูญเสียไปในหลายด้านจากการอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้ สธ.อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนฉบับใหม่ โดยแบ่งการพิจารณาเป็น 2 ส่วน คือ 1.ตามสภาพพื้นที่ โดยจะมีการจัดแบ่งกลุ่มระดับพื้นที่กันดารใหม่ เบื้องต้นอาจจะจัดแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ปกติ, กันดาร 1, กันดาร 2 และเจริญ ส่วนแต่ละระดับจะได้รับค่าตอบแทนเท่าไรอยู่ระหว่างการพิจารณา
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า และ 2.ตามภาระงาน หรือ การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (Pay for Performance : P4P) แต่เนื่องจากบุคลากรมีเงินเดือนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมีการพิจารณาว่าการปฏิบัติงานระดับใดเหมาะสมกับเงินเดือนที่ได้รับ ส่วนการปฏิบัติงานที่เกินจากค่าเงินเดือน จึงจะนำมาใช้พิจารณาเพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนตามภาระงาน ดังนั้น แม้จะเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่กันดารระดับเดียวกัน แต่โรงพยาบาลหนึ่งมีภาระงานมากกว่าอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ค่าตอบแทนที่ได้รับก็จะไม่เท่ากัน การดำเนินการเช่นนี้เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับบุคลากรทุกพื้นที่ โดยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จะมีการประชุมหารือในเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนนำเสนอต่อ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2556
“พื้นที่ใดที่เคยเป็นพื้นที่กันดาร แต่ปัจจุบันอาจกลายเป็นพื้นที่เจริญหรือเขตเมืองแล้ว อาจจะไม่ได้รับค่าตอบแทนในส่วนกันดาร เนื่องจากไม่ได้สูญเสียโอกาสในด้านต่างๆ แต่จะได้รับจากส่วนที่เป็นการจ่ายตามภาระงาน ส่วนพื้นที่ที่มีความกันดารจริงจะพิจารณาให้ทั้งผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) และโรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ไม่ใช่ได้เฉพาะ รพช.เท่านั้น อย่างเช่น รพช.ในเขตปริมณฑลอาจจะไม่ได้ค่าตอบแทนตามพื้นที่ ขณะที่ รพท.ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนหรือเบตง จะได้รับค่าตอบแทนจากความกันดารของพื้นที่ เป็นต้น” ปลัด สธ.กล่าวและว่า แม้แต่โรงพยาบาลในจังหวัดเดียวกันก็อาจได้รับค่าตอบแทนจากพื้นที่กันดารต่างกัน เช่น จ.สงขลา รพ.บางกล่ำ ที่อยู่ใกล้ อ.หาดใหญ่ มาก จะได้รับจากส่วนกันดารน้อยกว่า รพ.สะบ้าย้อย การดำเนินการทั้งหมดต้องทำให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่ควรได้ก็ต้องลด ซึ่งต้องมีคนได้รับค่าตอบแทนจากส่วนความกันดารของพื้นที่ลดลงแต่จะได้รับเพิ่มในส่วนที่จ่ายตามภาระงานหากมีภาระงานมาก