ส่อแท้ง! คกก.กลั่นกรอง ครม.ตีกลับงบซื้อรถตู้ 6,500 คัน เคลื่อนย้าย นร.จาก ร.ร.เล็กมาเรียนรวมกัน ร.ร.ดีประจำตำบล ชี้ เป็นวิธีที่ยังไม่สะท้อนความจริง ด้าน สพฐ.เตรียมประชุมทางไกลคุยกับเขตพื้นที่ทบทวนแผนแก้ปัญหา ร.ร.เล็กอีกครั้ง
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรรกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) วางแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนครู ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพของ โรงเรียนขนาดเล็ก โดยวางแผนจะเคลื่อนย้ายนักเรียนจาก โรงเรียนขนาดเล็กมาเรียนใน โรงเรียนดีประจำตำแทน และได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของบประมาณซื้อรถตู้มาประจำ โรงเรียนดีประจำตำบลทั้ง 6,500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อใช้รับส่งนักเรียนจาก โรงเรียนขนาดเล็กมายังโรงเรียนดีประจำตำบล
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เขตพื้นที่การศึกษาไปสำรวจเส้นางการเดินทาง เพื่อวางแผนการเคลื่อนย้ายนักเรียนจากโรงเรียนขนาดเล็กไปยังโรงเรียนดีประจำตำบล เพราะเชื่อว่าโรงเรียนดังกล่าวจะสามารถเป็นศูนย์กลางในรองรับนักเรียนจากโรงเรียนข้างเคียงได้ทั้งหมด และโรงเรียนดังกล่าวมีความพร้อมทั้งเรื่องของเครื่องอำนวยความสะดวก ห้องสมุด และห้องทางด้านภาษา ทำให้นักเรียนได้เรียนกับครูที่ดี มีประสบการณ์
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.ได้พิจารณางบประมาณจัดซื้อรถตู้ที่ สพฐ.เสนอไปแล้วให้ความเห็นว่า รายละเอียดยังไม่มีความชัดเจนและไม่มีความมั่นใจว่า วิธีการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาการที่ดีที่สุดหรือไม่ จึงให้ สพฐ.นำกลับมาทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อนำเสนออีกครั้ง ดังนั้น สพฐ.จะให้เขตพื้นที่การศึกษาไปสำรวจที่ตั้งของโรงเรียนแต่ละแห่งอีกครั้ง เพื่อจัดทำแผนเคลื่อนย้ายนักเรียนที่มีความชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลให้มีการจัดซื้อรถตู้สำหรับขนส่งนักเรียนน้อยลงได้ ขณะเดียวกัน โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งหรือบางกลุ่มอาจไม่เหมาะสมสำหรับการขนย้ายนักเรียนมาเรียนในโรงเรียนดีประจำตำบล ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาแบอื่น หรือใช้โรงเรียนอื่นเป็นศูนย์กลางแทนโรงเรียนดีประจำตำบล
“การแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กมีความเห็นว่า อาจจะไม่ใช้วิธีการเดียวกันทั้งหมด แต่จะให้มีการสำรวจเพื่อทำแผนระดับพื้นที่ เพื่อดูว่าจะใช้รูปแบบการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับขนาดและจำนวนนักเรียนของแต่ละโรงเรียนอย่างไร และหากมีรถรับส่งเด็กแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้งบค่าพาหนะเดินทางให้กับนักเรียนจำนวนที่เหลืออีกกี่คน เพราะฉะนั้นเขตพื้นที่ใดที่ได้รับรถสำหรับรับ-ส่งนักเรียนและค่ายานพาหนะไปแล้ว ค่ายานพาหนะก็ควรจะลดลงตามไปด้วย ส่วนของอาคารเรียนที่ว่างเนื่องจากการเคลื่อนย้ายนักเรียน จะให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นำไปใช้ประโยชน์เป็นการบริหารงานทรัพยากรข้ามสังกัด โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง” เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม หากโรงเรียนที่เราตั้งเป้าหมายไว้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมาเรียนรวมกันได้ ก็จะให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนเดี่ยวต่อไป และหากกรณีโรงเรียนขนาดเล็กมากๆ มีครูผู้สอนไม่ครบชั้นเรียน เราก็จะนำช่องการศึกษา OBEC Channel มาช่วยพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างครูมาสอนเพิ่มเติม ซึ่งในวันที่ 29 ม.ค.นี้ จะมีการโทรประชุมเพื่อการศึกษาทางไกลเพื่อทำแนวทางการสำรวจเพื่อทำแผนระดับพื้นที่ ซึ่งจะนำเอาจังหวัดลพบุรี เขต 2 มาเป็นแบบอย่างด้วย
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรรกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) วางแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนครู ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพของ โรงเรียนขนาดเล็ก โดยวางแผนจะเคลื่อนย้ายนักเรียนจาก โรงเรียนขนาดเล็กมาเรียนใน โรงเรียนดีประจำตำแทน และได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของบประมาณซื้อรถตู้มาประจำ โรงเรียนดีประจำตำบลทั้ง 6,500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อใช้รับส่งนักเรียนจาก โรงเรียนขนาดเล็กมายังโรงเรียนดีประจำตำบล
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เขตพื้นที่การศึกษาไปสำรวจเส้นางการเดินทาง เพื่อวางแผนการเคลื่อนย้ายนักเรียนจากโรงเรียนขนาดเล็กไปยังโรงเรียนดีประจำตำบล เพราะเชื่อว่าโรงเรียนดังกล่าวจะสามารถเป็นศูนย์กลางในรองรับนักเรียนจากโรงเรียนข้างเคียงได้ทั้งหมด และโรงเรียนดังกล่าวมีความพร้อมทั้งเรื่องของเครื่องอำนวยความสะดวก ห้องสมุด และห้องทางด้านภาษา ทำให้นักเรียนได้เรียนกับครูที่ดี มีประสบการณ์
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.ได้พิจารณางบประมาณจัดซื้อรถตู้ที่ สพฐ.เสนอไปแล้วให้ความเห็นว่า รายละเอียดยังไม่มีความชัดเจนและไม่มีความมั่นใจว่า วิธีการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาการที่ดีที่สุดหรือไม่ จึงให้ สพฐ.นำกลับมาทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อนำเสนออีกครั้ง ดังนั้น สพฐ.จะให้เขตพื้นที่การศึกษาไปสำรวจที่ตั้งของโรงเรียนแต่ละแห่งอีกครั้ง เพื่อจัดทำแผนเคลื่อนย้ายนักเรียนที่มีความชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลให้มีการจัดซื้อรถตู้สำหรับขนส่งนักเรียนน้อยลงได้ ขณะเดียวกัน โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งหรือบางกลุ่มอาจไม่เหมาะสมสำหรับการขนย้ายนักเรียนมาเรียนในโรงเรียนดีประจำตำบล ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาแบอื่น หรือใช้โรงเรียนอื่นเป็นศูนย์กลางแทนโรงเรียนดีประจำตำบล
“การแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กมีความเห็นว่า อาจจะไม่ใช้วิธีการเดียวกันทั้งหมด แต่จะให้มีการสำรวจเพื่อทำแผนระดับพื้นที่ เพื่อดูว่าจะใช้รูปแบบการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับขนาดและจำนวนนักเรียนของแต่ละโรงเรียนอย่างไร และหากมีรถรับส่งเด็กแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้งบค่าพาหนะเดินทางให้กับนักเรียนจำนวนที่เหลืออีกกี่คน เพราะฉะนั้นเขตพื้นที่ใดที่ได้รับรถสำหรับรับ-ส่งนักเรียนและค่ายานพาหนะไปแล้ว ค่ายานพาหนะก็ควรจะลดลงตามไปด้วย ส่วนของอาคารเรียนที่ว่างเนื่องจากการเคลื่อนย้ายนักเรียน จะให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นำไปใช้ประโยชน์เป็นการบริหารงานทรัพยากรข้ามสังกัด โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง” เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม หากโรงเรียนที่เราตั้งเป้าหมายไว้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมาเรียนรวมกันได้ ก็จะให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนเดี่ยวต่อไป และหากกรณีโรงเรียนขนาดเล็กมากๆ มีครูผู้สอนไม่ครบชั้นเรียน เราก็จะนำช่องการศึกษา OBEC Channel มาช่วยพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างครูมาสอนเพิ่มเติม ซึ่งในวันที่ 29 ม.ค.นี้ จะมีการโทรประชุมเพื่อการศึกษาทางไกลเพื่อทำแนวทางการสำรวจเพื่อทำแผนระดับพื้นที่ ซึ่งจะนำเอาจังหวัดลพบุรี เขต 2 มาเป็นแบบอย่างด้วย
