โดย...สานนท์ เจริญพันธุ์
“รางวัล” นับเป็นสัญลักษณ์ในความสำเร็จของคนทำงานของคนในทุกสาขาวิชาชีพ สำหรับวิชาชีพครู นั้นก็มีรางวัลมากมายที่มอบให้เพื่อให้แสดงถึงการยกย่องผู้กระทำความดี และคุณประโยชน์ในด้านการศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ อย่างไรก็ตาม สำหรับ “ครู” แล้วรางวัลเหล่านี้รางวัลเหล่านี้นอกจากจะเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจแล้วยัง เปรียบเสมือนเป็นแรงผลักดันและกำลังใจให้กับครูหลายๆ คนที่แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยหรือพบอุปสรรคในการทำงานเพียงใด ก็พร้อมที่จะทำเพื่อลูกศิษย์และการศึกษาของชาติ
และแม้ว่า “ครู” หลายคนจะได้รับรางวัลมากมาย แต่ในหลายปีมานั้นเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ก็ทำให้วงการศึกษา สูญเสีย “ครู” ไปจำนวนมาก เพราะฉะนั้นวันครู ประจำปี 2556 “รางวัล” ที่ครูอยากได้มากที่สุดในเวลานี้ คือ การอยากให้เพื่อนครูที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ได้รับการดูแลที่ดี และมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย
“คิดว่าตอนนี้รัฐบาลให้สวัสดิภาพเกี่ยวกับครูในเมืองใหญ่ๆ เยอะพอแล้ว แต่ที่สำคัญอยากให้ดูแลครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เยอะขึ้น” บางส่วนจากคำบอกเล่าของ นายบุญช่วย แป้นจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านกรวด จังหวัดลพบุรี ผู้ได้รับรางวัล “ครูดีไม่มีอบายมุข” ประจำปี 2555
นายบุญช่วย ยังบอกอีกว่า ตนสงสารครูเหล่านี้ เพราะครูในภาคอื่นๆมีความปลอดภัยและสอนกันดีอยู่แล้ว แต่ครูในภาคใต้ไม่ปลอดภัย หวาดระแวง จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการสอนของครูเหล่านี้ลดน้อยลง ตนจึงมีความเห็นใจครูภาคใต้มาก และเรื่องนักเรียนของ3จังหวัดชายแดนใต้ก็เช่นเดียวกัน เป็นห่วงในเรื่องของการเรียนที่มีการปิดโรงเรียนบ่อย และมีเหตุการณ์ไม่สงบทำให้เด็กไม่ได้เรียน ตรงนี้จึงน่าจะมีปัญหาต่อการเรียนเป็นอย่างมาก ตรงนี้จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด่วน
ด้านของ นางวิมล นาวะระ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของรางวัล “ครูดีไม่มีอบายมุข” ประจำปี 2555 ให้ความเห็นถึงเรื่องเด็กนักเรียนในปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการศึกษาว่า อยากให้ทางรัฐบาลมองเด็กนักเรียนลึกไปถึงพื้นฐานของการศึกษาจริงๆ ไม่ใช่เอาแค่วัตถุมาเป็นตัวล่อ อยากให้ปลูกฝังมาตั้งแต่ต้นการศึกษาของเด็กไทยมีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่พื้นฐานคุณธรรมและจริยธรรมของเด็กไทยกำลังถอยหลัง อยากให้รัฐบาลได้กลับไปทบทวนว่าจะทำยังไงถึงจะช่วยให้เด็กไทยได้ใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปกับคุณธรรม
“อยากให้ดูในเรื่องของสวัสดิการและขวัญกำลังใจของครูใน3จังหวัดชายแดนใต้เป็นพิเศษ รวมถึงครูในถิ่นทุรกันดารด้วย” นางวิมล ทิ้งท้ายถึงครูเพื่อนร่วมอาชีพจริงๆ แล้วรางวัลที่ครูเหล่านี้อยากจะได้รับอาจจะไม่ได้เป็นเกียรติยศ หรือชื่อเสียง นอกกายที่มอบให้กับครูดีในทุกๆ ปี แต่ครูเหล่านี้อาจจะอยากได้ความปลอดภัยของเพื่อนร่วมอาชีพ และการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนของเด็กไทยในปัจจุบันให้ดีขึ้นก็เป็นได้
“รางวัล” นับเป็นสัญลักษณ์ในความสำเร็จของคนทำงานของคนในทุกสาขาวิชาชีพ สำหรับวิชาชีพครู นั้นก็มีรางวัลมากมายที่มอบให้เพื่อให้แสดงถึงการยกย่องผู้กระทำความดี และคุณประโยชน์ในด้านการศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ อย่างไรก็ตาม สำหรับ “ครู” แล้วรางวัลเหล่านี้รางวัลเหล่านี้นอกจากจะเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจแล้วยัง เปรียบเสมือนเป็นแรงผลักดันและกำลังใจให้กับครูหลายๆ คนที่แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยหรือพบอุปสรรคในการทำงานเพียงใด ก็พร้อมที่จะทำเพื่อลูกศิษย์และการศึกษาของชาติ
และแม้ว่า “ครู” หลายคนจะได้รับรางวัลมากมาย แต่ในหลายปีมานั้นเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ก็ทำให้วงการศึกษา สูญเสีย “ครู” ไปจำนวนมาก เพราะฉะนั้นวันครู ประจำปี 2556 “รางวัล” ที่ครูอยากได้มากที่สุดในเวลานี้ คือ การอยากให้เพื่อนครูที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ได้รับการดูแลที่ดี และมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย
“คิดว่าตอนนี้รัฐบาลให้สวัสดิภาพเกี่ยวกับครูในเมืองใหญ่ๆ เยอะพอแล้ว แต่ที่สำคัญอยากให้ดูแลครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เยอะขึ้น” บางส่วนจากคำบอกเล่าของ นายบุญช่วย แป้นจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านกรวด จังหวัดลพบุรี ผู้ได้รับรางวัล “ครูดีไม่มีอบายมุข” ประจำปี 2555
นายบุญช่วย ยังบอกอีกว่า ตนสงสารครูเหล่านี้ เพราะครูในภาคอื่นๆมีความปลอดภัยและสอนกันดีอยู่แล้ว แต่ครูในภาคใต้ไม่ปลอดภัย หวาดระแวง จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการสอนของครูเหล่านี้ลดน้อยลง ตนจึงมีความเห็นใจครูภาคใต้มาก และเรื่องนักเรียนของ3จังหวัดชายแดนใต้ก็เช่นเดียวกัน เป็นห่วงในเรื่องของการเรียนที่มีการปิดโรงเรียนบ่อย และมีเหตุการณ์ไม่สงบทำให้เด็กไม่ได้เรียน ตรงนี้จึงน่าจะมีปัญหาต่อการเรียนเป็นอย่างมาก ตรงนี้จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด่วน
ด้านของ นางวิมล นาวะระ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของรางวัล “ครูดีไม่มีอบายมุข” ประจำปี 2555 ให้ความเห็นถึงเรื่องเด็กนักเรียนในปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการศึกษาว่า อยากให้ทางรัฐบาลมองเด็กนักเรียนลึกไปถึงพื้นฐานของการศึกษาจริงๆ ไม่ใช่เอาแค่วัตถุมาเป็นตัวล่อ อยากให้ปลูกฝังมาตั้งแต่ต้นการศึกษาของเด็กไทยมีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่พื้นฐานคุณธรรมและจริยธรรมของเด็กไทยกำลังถอยหลัง อยากให้รัฐบาลได้กลับไปทบทวนว่าจะทำยังไงถึงจะช่วยให้เด็กไทยได้ใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปกับคุณธรรม
“อยากให้ดูในเรื่องของสวัสดิการและขวัญกำลังใจของครูใน3จังหวัดชายแดนใต้เป็นพิเศษ รวมถึงครูในถิ่นทุรกันดารด้วย” นางวิมล ทิ้งท้ายถึงครูเพื่อนร่วมอาชีพจริงๆ แล้วรางวัลที่ครูเหล่านี้อยากจะได้รับอาจจะไม่ได้เป็นเกียรติยศ หรือชื่อเสียง นอกกายที่มอบให้กับครูดีในทุกๆ ปี แต่ครูเหล่านี้อาจจะอยากได้ความปลอดภัยของเพื่อนร่วมอาชีพ และการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนของเด็กไทยในปัจจุบันให้ดีขึ้นก็เป็นได้
