บอร์ด สปสช.อ้าง “อัตราเงินเฟ้อ-อัตราเพิ่มเงินเดือน-รัฐเน้นส่งเสริมป้องกันโรค” เล็งขอเพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2557 เป็น 2,955.91 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มจากปี 2556 อีกกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ชี้ เป็นการลงทุนระยะยาว พร้อมของบฯกองทุนย่อยรวมอีกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ด สปสช.ที่มีการพิจารณาวาระที่อนุกรรมการการเงินการคลัง เสนอของบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพปี 2557 หรืองบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับประชากร 49.097 ล้านคน ว่า บอร์ด สปสช.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ที่เสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2557 ดังนี้ 1.งบเหมาจ่ายรายหัว เสนอขอเป็น 2,955.91 บาทต่อคนต่อปี คิดเป็นงบประมาณ 156,766.83 ล้านบาท เพิ่มจากงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2556 ที่ได้รับ 2,755.60 บาทต่อคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 15,227.83 ล้านบาท
“ที่ของบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่ม เนื่องจากเมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการเพิ่มของเงินเดือน จึงต้องเสนอของบประมาณเพิ่มจากปี 2556 อีกประมาณ 5.6% หรือประมาณ 2,909 บาทต่อคนต่อปี แต่จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเน้นในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคทำให้ต้องใช้งบประมาณส่วนนี้เพิ่มอีกราว 45 บาทต่อคน จึงรวมให้มีการเสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวปี 2557 จำนวน 2,955.91 บาทต่อคนต่อปี” รมว.สาธารณสุข กล่าว และว่า การเพิ่มงบการส่งเสริมป้องกันโรค ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะทำให้ประชาชนป่วยน้อยลงในอนาคต และจำนวนที่เสนอเพิ่มขึ้นไม่ได้มาก ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้ม เนื่องจากปัจจุบันมีโรคอุบัติซ้ำเกิดขึ้นมาก เช่น คอตีบ ไอกรน ถ้าไม่ทำงานส่งเสริมป้องกันโรค อนาคตคนอาจป่วยมากขึ้น
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า 2.งบบริการสุขภาพผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ เสนอขอในอัตรา 2,950.81 ล้านบาท 3.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 5,233.73 ล้านบาท 4.งบบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการจัดสรรงบให้เฉพาะการให้บริการและควบคุมความรุนแรงของโรคให้กับผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงเท่านั้น ซึ่งในปี 2557 ได้เสนอขอในอัตรา 935.68 ล้านบาท 5.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 68.43 ล้านบาท 6.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 148.24 ล้านบาท 7.งบบริการสุขภาพเพื่อรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด เสนอขอในอัตรา 178.59 ล้านบาท และ 8.เพิ่มงบประมาณใหม่คือ งบบริการเพื่อประสิทธิภาพหน่วยบริการ สำหรับเป็นเงินชดเชยสถานพยาบาลที่ในปีที่ผ่านมาอาจจำเป็นต้องขาดทุนจากการที่ประชากรไม่มาก อยู่ในถิ่นทุรกันดารและบริหารจัดการไม่เหมาะสม เสนอขออัตรา 2,125.04 ล้านบาท
“เมื่อรวมงบประมาณทั้งหมดแล้วจะเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ประมาณ 10% แต่ในส่วนของงบเหมาจ่ายรายหัวที่ขอเพิ่มจากปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ ฯลฯ 5.6% นั้น อาจขอเพิ่มน้อยกว่าที่ตั้งไว้ เนื่องจากต้องพิจารณาหักลบกับเงินที่สถานพยาบาลจะมีเพิ่มขึ้นจากการไม่ต้องจ่ายค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว 7,500 คนที่จะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการและการบริหารจัดการค่ายาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ดีขึ้น ซึ่งน่าจะลดลงอีก 1-2% โดยอาจขอเพิ่มเพียง 2-3 % เท่านั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สปสช.จัดทำรายละเอียดก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้เสร็จสิ้นภายในสิ้น ม.ค.นี้” รมว.สาธารณสุข กล่าว
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ด สปสช.ที่มีการพิจารณาวาระที่อนุกรรมการการเงินการคลัง เสนอของบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพปี 2557 หรืองบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับประชากร 49.097 ล้านคน ว่า บอร์ด สปสช.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ที่เสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2557 ดังนี้ 1.งบเหมาจ่ายรายหัว เสนอขอเป็น 2,955.91 บาทต่อคนต่อปี คิดเป็นงบประมาณ 156,766.83 ล้านบาท เพิ่มจากงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2556 ที่ได้รับ 2,755.60 บาทต่อคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 15,227.83 ล้านบาท
“ที่ของบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่ม เนื่องจากเมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการเพิ่มของเงินเดือน จึงต้องเสนอของบประมาณเพิ่มจากปี 2556 อีกประมาณ 5.6% หรือประมาณ 2,909 บาทต่อคนต่อปี แต่จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเน้นในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคทำให้ต้องใช้งบประมาณส่วนนี้เพิ่มอีกราว 45 บาทต่อคน จึงรวมให้มีการเสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวปี 2557 จำนวน 2,955.91 บาทต่อคนต่อปี” รมว.สาธารณสุข กล่าว และว่า การเพิ่มงบการส่งเสริมป้องกันโรค ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะทำให้ประชาชนป่วยน้อยลงในอนาคต และจำนวนที่เสนอเพิ่มขึ้นไม่ได้มาก ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้ม เนื่องจากปัจจุบันมีโรคอุบัติซ้ำเกิดขึ้นมาก เช่น คอตีบ ไอกรน ถ้าไม่ทำงานส่งเสริมป้องกันโรค อนาคตคนอาจป่วยมากขึ้น
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า 2.งบบริการสุขภาพผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ เสนอขอในอัตรา 2,950.81 ล้านบาท 3.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 5,233.73 ล้านบาท 4.งบบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการจัดสรรงบให้เฉพาะการให้บริการและควบคุมความรุนแรงของโรคให้กับผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงเท่านั้น ซึ่งในปี 2557 ได้เสนอขอในอัตรา 935.68 ล้านบาท 5.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 68.43 ล้านบาท 6.งบบริการสุขภาพผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรัง เสนอขอในอัตรา 148.24 ล้านบาท 7.งบบริการสุขภาพเพื่อรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด เสนอขอในอัตรา 178.59 ล้านบาท และ 8.เพิ่มงบประมาณใหม่คือ งบบริการเพื่อประสิทธิภาพหน่วยบริการ สำหรับเป็นเงินชดเชยสถานพยาบาลที่ในปีที่ผ่านมาอาจจำเป็นต้องขาดทุนจากการที่ประชากรไม่มาก อยู่ในถิ่นทุรกันดารและบริหารจัดการไม่เหมาะสม เสนอขออัตรา 2,125.04 ล้านบาท
“เมื่อรวมงบประมาณทั้งหมดแล้วจะเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ประมาณ 10% แต่ในส่วนของงบเหมาจ่ายรายหัวที่ขอเพิ่มจากปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ ฯลฯ 5.6% นั้น อาจขอเพิ่มน้อยกว่าที่ตั้งไว้ เนื่องจากต้องพิจารณาหักลบกับเงินที่สถานพยาบาลจะมีเพิ่มขึ้นจากการไม่ต้องจ่ายค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว 7,500 คนที่จะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการและการบริหารจัดการค่ายาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ดีขึ้น ซึ่งน่าจะลดลงอีก 1-2% โดยอาจขอเพิ่มเพียง 2-3 % เท่านั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สปสช.จัดทำรายละเอียดก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้เสร็จสิ้นภายในสิ้น ม.ค.นี้” รมว.สาธารณสุข กล่าว
