สปสช.เทงบ 15,000 ล้านบาท ดูแลสุขภาพคนไทย เน้นส่งเสริมป้องกันโรคพื้นฐาน 20 รายการ
ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปี 2556 นี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติจัดสรรงบประมาณร้อยละ 11 หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท สำหรับดูแลคนไทยทุกคน ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ โดย สปสช.ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่จะบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับบริการส่งเสริมป้องกันโรคพื้นฐาน 20 รายการ โดยเน้นกลุ่มวัยสตรีและผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม สำหรับการบริหารงบประมาณด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในปี 2556 มีหลักเกณฑ์การบริหารแบ่งออกเป็น 5 ประการ โดยประการแรก ส่วนที่จัดสรรเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น เป็นการจัดสรรไปที่ รพ.(หน่วยบริการ) ที่มีการให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นพื้นฐานตามชุดสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั้งเชิงรับและเชิงรุก ซึ่งที่ผ่านมาบริหารจัดการโดย สปสช.เขตและสปสช.สาขาจังหวัด (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณได้จัดแบบมีเงื่อนไข คือ จำนวนประชากร และผลลัพธ์การให้บริการ เป็นหลักสำคัญ
โฆษก สปสช.กล่าวว่า สำหรับการบริการในระบบเขต จังหวัด อำเภอ นั้น สปสช.ได้ตกลงร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข ที่จะใช้กลไกระดับเขตของทั้งสองฝ่าย ในการบริหารจัดการร่วมกัน กรณีหากเป็นการให้บริการส่งเสริมป้องกันโรคที่เป็นพื้นฐาน ในชุดสิทธิประโยชน์นั้นได้จัดสรรเม็ดเงินนี้เป็นจำนวนเงินมากที่สุดไปยังหน่วยบริการ (รพ.) เพื่อให้บริการทั้งเชิงรับและเชิงรุก
อย่างไรก็ตาม การบริการส่งเสริมป้องกันโรคระดับพื้นที่ สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณร่วมกับอปท.ในการจัดตั้งกองทุนสุขภาพระดับตำบล (อปท.) ในการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นซึ่งแต่ละที่มีความแตกต่างกัน และงบประมาณส่วนที่เหลือ จัดร่วมกันโดย สปสช.เขต และ สปสช.สาขาจังหวัด (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ร่วมกันเพื่อดำเนินการบริหารจัดการในส่วนที่เป็นบริการเน้นหนักตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและปัญหาของพื้นที่
ทันตแพทย์อรรถพร กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาสุขภาพที่มีความสำคัญระดับประเทศ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ซึ่งเป็นบริการที่เน้นหนักตามนโยบายรัฐบาล หรือแม้แต่งบประมาณจัดซื้อวัคซีนพื้นฐาน ตามโปรแกรมมาตรฐานที่กำหนด หรือวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ นั้น สปสช.ได้ดำเนินการร่วมกันกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเช่น กรมอนามัย กรมควบคุมโรค มาอย่างต่อเนื่อง
“คนไทยทุกคนได้รับการการส่งเสริมป้องกันโรคจากตามนโยบายรัฐบาลและในปี 2556 การจัดสรรตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดสรรไปยังหน่วยบริการโดยตรงตามความเห็นชอบร่วมกับระหว่าง สปสช.และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายสุขภาพดีที่นี่ หรือ “Good Health Start Here”ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานบอร์ด สปสช.” ทพ.อรรถพร กล่าว
ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปี 2556 นี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติจัดสรรงบประมาณร้อยละ 11 หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท สำหรับดูแลคนไทยทุกคน ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ โดย สปสช.ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่จะบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับบริการส่งเสริมป้องกันโรคพื้นฐาน 20 รายการ โดยเน้นกลุ่มวัยสตรีและผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม สำหรับการบริหารงบประมาณด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในปี 2556 มีหลักเกณฑ์การบริหารแบ่งออกเป็น 5 ประการ โดยประการแรก ส่วนที่จัดสรรเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น เป็นการจัดสรรไปที่ รพ.(หน่วยบริการ) ที่มีการให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นพื้นฐานตามชุดสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั้งเชิงรับและเชิงรุก ซึ่งที่ผ่านมาบริหารจัดการโดย สปสช.เขตและสปสช.สาขาจังหวัด (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณได้จัดแบบมีเงื่อนไข คือ จำนวนประชากร และผลลัพธ์การให้บริการ เป็นหลักสำคัญ
โฆษก สปสช.กล่าวว่า สำหรับการบริการในระบบเขต จังหวัด อำเภอ นั้น สปสช.ได้ตกลงร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข ที่จะใช้กลไกระดับเขตของทั้งสองฝ่าย ในการบริหารจัดการร่วมกัน กรณีหากเป็นการให้บริการส่งเสริมป้องกันโรคที่เป็นพื้นฐาน ในชุดสิทธิประโยชน์นั้นได้จัดสรรเม็ดเงินนี้เป็นจำนวนเงินมากที่สุดไปยังหน่วยบริการ (รพ.) เพื่อให้บริการทั้งเชิงรับและเชิงรุก
อย่างไรก็ตาม การบริการส่งเสริมป้องกันโรคระดับพื้นที่ สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณร่วมกับอปท.ในการจัดตั้งกองทุนสุขภาพระดับตำบล (อปท.) ในการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นซึ่งแต่ละที่มีความแตกต่างกัน และงบประมาณส่วนที่เหลือ จัดร่วมกันโดย สปสช.เขต และ สปสช.สาขาจังหวัด (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ร่วมกันเพื่อดำเนินการบริหารจัดการในส่วนที่เป็นบริการเน้นหนักตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและปัญหาของพื้นที่
ทันตแพทย์อรรถพร กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาสุขภาพที่มีความสำคัญระดับประเทศ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ซึ่งเป็นบริการที่เน้นหนักตามนโยบายรัฐบาล หรือแม้แต่งบประมาณจัดซื้อวัคซีนพื้นฐาน ตามโปรแกรมมาตรฐานที่กำหนด หรือวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ นั้น สปสช.ได้ดำเนินการร่วมกันกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเช่น กรมอนามัย กรมควบคุมโรค มาอย่างต่อเนื่อง
“คนไทยทุกคนได้รับการการส่งเสริมป้องกันโรคจากตามนโยบายรัฐบาลและในปี 2556 การจัดสรรตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดสรรไปยังหน่วยบริการโดยตรงตามความเห็นชอบร่วมกับระหว่าง สปสช.และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายสุขภาพดีที่นี่ หรือ “Good Health Start Here”ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานบอร์ด สปสช.” ทพ.อรรถพร กล่าว
