สพฐ.ทำคู่มือสำหรับ ร.ร.นิติบุคคล 58 แห่ง พร้อมปลดล็อกปัญหาด้านการบริหารคนและเงินให้ ร.ร.โดยสามารถระดมทรัพยากรได้ทั้งปีรวมถึงช่วงรับ นร.ด้วย และไม่ต้องทำรายงานการใช้เงินถึง สพฐ.แต่ต้องโปร่งใสผ่านความเห็น กก.สถานศึกษา และเขตพื้นที่
นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สนผ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำคู่มือการดำเนินงาน สำหรับโรงเรียนนิติบุคคล ว่า คู่มือดังกล่าวจัดทำเพื่อเป็นแนวทางให้โรงเรียนที่มีความพร้อม และมีศักยภาพเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคล ใช้ดำเนินการบริหารงานภายในโรงเรียน เพื่อให้มีความอิสระและคล่องตัวอย่างแท้จริง โดยยึดแนวทางการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาตรา 39 ใน 4 งานหลัก คือ งานวิชาการ การบริหารงานบุคล การบริหารงบประมาณ และการบริหารงานทั่วไป อย่างไรก็ตาม ใน 4 งานหลักนี้มี 2 งานหลักๆ ที่ทำให้โรงเรียนไม่มีความอิสระในการบริหารจัดการ คือ การบริหารงบประมาณ และการบริหารบุคคล ซึ่งทาง สพฐ.ได้ปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าวแล้ว
“จะให้อิสระโรงเรียนใช้งบประมาณที่ได้มาจากการระดมทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ได้ แต่ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องรายงานมาที่สพฐ. แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และเขตพื้นที่การศึกษาก่อน โดยโรงเรียนสามารถระดมทรัพยากรได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงรับนักเรียนก็สามารถระดมได้ แต่ต้องไม่เป็นเงื่อนไขในการรับนักเรียน”นายรังสรรค์ กล่าว
ผอ.สนผ.สพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการเรียกเก็บเงินที่นอกเหนือจากเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ก็จะมีการกำหนดไว้ชัดเจนว่า สามารถเก็บได้ไม่เกินเพดานที่กำหนด โดยมี 21 รายการที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ อาทิ ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการสอน เพราะถือว่าอยู่ในเงินอุดหนุนรายหัวแล้ว ส่วนที่โรงเรียนสามารถเรียกเก็บได้ คือ ค่าบริการการศึกษาที่นอกเหนือจากเงินอุดหนุนรายหัว อาทิ หลักสูตร English Program หลักสูตร Mini English Program ค่าจ้างสอนครูต่างชาติ สำหรับหลักสูตร English Program เพดานอยู่ที่ ระดับก่อนประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น 35,000 บาท ต่อคนต่อเทอม หรือปีละไม่เกิน 70,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 40,000 บาทต่อคนต่อเทอม หรือปีละไม่เกิน 80,000 บาท หลักสูตร Mini English Program ระดับก่อนประถมศึกษา ถึงม.ต้น อยู่ที่ 17,500 บาทต่อคนต่อเทอม หรือ 35,000 บาทต่อปี ระดับม.ปลาย 20,000 บาทต่อคน ต่อเทอม หรือ 40,000 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องการบริหารงานบุคคลนั้น สพฐ.ให้โรงเรียนมีอิสระในการจ้างครู ที่มีความรู้ความสามารถมาสอนได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสามารถให้คุณให้โทษแก่ครูหรือบุคลากรที่ทำความดีความชอบได้ด้วย ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถนำคู่มือดังกล่าวให้ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า และหากนายชินภัทร เห็นชอบ สพฐ.จะเชิญตัวแทนโรงเรียนที่มีความพร้อมและศักยภาพที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นโรงเรียนนิติบุคคลทั้ง 58 โรงเรียน มาชี้แจงแนวทางการดำเนินงานในคู่มือดังกล่าว ภายในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคลได้ภายในปีการศึกษา 2556
นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สนผ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำคู่มือการดำเนินงาน สำหรับโรงเรียนนิติบุคคล ว่า คู่มือดังกล่าวจัดทำเพื่อเป็นแนวทางให้โรงเรียนที่มีความพร้อม และมีศักยภาพเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคล ใช้ดำเนินการบริหารงานภายในโรงเรียน เพื่อให้มีความอิสระและคล่องตัวอย่างแท้จริง โดยยึดแนวทางการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาตรา 39 ใน 4 งานหลัก คือ งานวิชาการ การบริหารงานบุคล การบริหารงบประมาณ และการบริหารงานทั่วไป อย่างไรก็ตาม ใน 4 งานหลักนี้มี 2 งานหลักๆ ที่ทำให้โรงเรียนไม่มีความอิสระในการบริหารจัดการ คือ การบริหารงบประมาณ และการบริหารบุคคล ซึ่งทาง สพฐ.ได้ปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าวแล้ว
“จะให้อิสระโรงเรียนใช้งบประมาณที่ได้มาจากการระดมทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ได้ แต่ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องรายงานมาที่สพฐ. แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และเขตพื้นที่การศึกษาก่อน โดยโรงเรียนสามารถระดมทรัพยากรได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงรับนักเรียนก็สามารถระดมได้ แต่ต้องไม่เป็นเงื่อนไขในการรับนักเรียน”นายรังสรรค์ กล่าว
ผอ.สนผ.สพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการเรียกเก็บเงินที่นอกเหนือจากเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ก็จะมีการกำหนดไว้ชัดเจนว่า สามารถเก็บได้ไม่เกินเพดานที่กำหนด โดยมี 21 รายการที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ อาทิ ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการสอน เพราะถือว่าอยู่ในเงินอุดหนุนรายหัวแล้ว ส่วนที่โรงเรียนสามารถเรียกเก็บได้ คือ ค่าบริการการศึกษาที่นอกเหนือจากเงินอุดหนุนรายหัว อาทิ หลักสูตร English Program หลักสูตร Mini English Program ค่าจ้างสอนครูต่างชาติ สำหรับหลักสูตร English Program เพดานอยู่ที่ ระดับก่อนประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น 35,000 บาท ต่อคนต่อเทอม หรือปีละไม่เกิน 70,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 40,000 บาทต่อคนต่อเทอม หรือปีละไม่เกิน 80,000 บาท หลักสูตร Mini English Program ระดับก่อนประถมศึกษา ถึงม.ต้น อยู่ที่ 17,500 บาทต่อคนต่อเทอม หรือ 35,000 บาทต่อปี ระดับม.ปลาย 20,000 บาทต่อคน ต่อเทอม หรือ 40,000 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องการบริหารงานบุคคลนั้น สพฐ.ให้โรงเรียนมีอิสระในการจ้างครู ที่มีความรู้ความสามารถมาสอนได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสามารถให้คุณให้โทษแก่ครูหรือบุคลากรที่ทำความดีความชอบได้ด้วย ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถนำคู่มือดังกล่าวให้ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า และหากนายชินภัทร เห็นชอบ สพฐ.จะเชิญตัวแทนโรงเรียนที่มีความพร้อมและศักยภาพที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นโรงเรียนนิติบุคคลทั้ง 58 โรงเรียน มาชี้แจงแนวทางการดำเนินงานในคู่มือดังกล่าว ภายในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคลได้ภายในปีการศึกษา 2556