งบลงทุนปี 2557 ศธ.เน้นพัฒนาการศึกษา ขยายโอกาส และกระจายรายได้สู่ประชาชน ขณะที่ สำนักงบฯ เปิดช่องให้ ศธ.ให้ซื้อแท็บเล็ตแจก นร.ครบทุกชั้นปี ด้าน ศธ.รับลูกเตรียมไปทำรายละเอียด ขณะที่ “ชินภัทร” เตรียมจัดเวิร์คช็อปประเมินผลใช้แท็บเล็ตและฟังความเห็นในการจัดซื้อครบทุกชั้นปี
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อจัดทำงบประมาณปี 2557 มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ว่า ศธ.ได้ประชุมเพื่อเตรียมจัดตั้งงบประมาณปี 2557 ในส่วนงบลงทุน โดยมีสำนักงบประมาณ ได้มาชี้แจงกรอบการจัดทำด้วย โดยการประชุมได้มีการพูดคุยถึงการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ต ตามโครงการ One Tablet Pc Per Child และทางสำนักงบฯ ได้ชี้แจงว่าการตั้งงบประมาณแท็บเล็ต ประจำปี 2557 จะไม่ดูที่เม็ดเงินเป็นหลักแต่จะดูที่เป้าหมายและวิธีการในการบรรลุเป้าหมาย ถ้ามีวิธีการที่สามารถไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถตั้งงบประมาณจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2557 ได้ทั้ง 9 ชั้นปีที่เหลือโดยไม่จำเป็นต้องรอทยอยจัดซื้อเหมือนที่ผ่านมา ในส่วนจะหาเม็ดเงินมาจากไหนมาจัดซื้อนั้นสำนักงบฯ ชี้แจงว่า ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงบฯ เพราะฉะนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไปพิจารณาในรายละเอียดมา ในส่วนของสำนักงานปลัด ศธ.ที่ดูแลโรงเรียนเอกชนนั้นตนจะให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตให้โรงเรียนเอกชนครบทุกชั้นปีในปีงบประมาณ 2557
นอกจากนี้ ในส่วนของ สช.ที่จะของบลงทุนเพิ่ม คือ การปรับเพิ่มเงินเดือนให้ครูเอกชนเป็น 15,000 บาท การเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนปอเนาะ ได้แก่ โต๊ะครู จากเดิม 2,000 บาทเป็น 5,000 บาท และผู้ช่วยโต๊ะครู จาก 1,000 บาท เป็น 3,000 บาท ซึ่งจะเสนอทยอยปรับเพิ่มให้ ขณะเดียวกันจะเสนอของบลงทุนในการสร้องหอพักในวิทยาลัยเอกชนด้วย
นางพนิตา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ ศธ.นั้นงบลงทุนจะจัดสรรให้กับนโยบายสำคัญ 3 เรื่อง คือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การขยายโอกาสทางการศึกษา และการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ผ่านโครงการที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ เอสเอ็มอีชุมชน และกองทุนตั้งตัวได้ โดยในแต่ละนโยบายจะแตกออกมาเป็นแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ซึ่งทุกองค์กรหลักใน ศธ.จะต้องจัดทำตัวเลขงบประมาณของโครงการพัฒนาต่างๆ ให้เสร็จและส่งสำนักงบฯภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการนำคำขอจัดตั้งงบประมาณแต่ละกระทรวงขึ้นมาพิจารณาในเดือน ธ.ค.หากโครงการใดไม่ตรงกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจะต้องมีการปรับแก้ไข
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงบฯ ไม่ได้รับปากว่าจะจัดงบประมาณ 2557 สำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตครบทุกชั้นปี แต่ให้ขึ้นอยู่กับผลการประเมินโครงการ ซึ่ง สพฐ.จะไปเร่งจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลการใช้แท็บเล็ตพัฒนาการเรียนการสอน พร้อมรับฟังความคิดเห็นในกรณีที่จะจัดซื้อพร้อมกันทุกชั้นปี จากนั้นจึงค่อยนำผลข้อคิดเห็นที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการมาพิจารณาว่าจะขอตั้งงบประมาณปี 2557 สำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตครบทุกชั้นปีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการจัดซื้อแท็บเล็ตเพิ่มจำนวนขึ้นทุกๆ ปี เพราะรัฐบาลต้องการเร่งจัดสรรแท็บเล็ตให้นักเรียน เริ่มจากงบประมาณปี 2555 รัฐบาลจัดตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้น แต่พอปีงบประมาณ 2556 เพิ่มจัดซื้อแท็บเล็ตให้ ป.1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพราะฉะนั้น ปีงบประมาณ 2557 น่าจะจัดซื้อเพิ่มขึ้นอีกแต่ทั้งนี้ สพฐ.อาจจะเสนอตัวเลือกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ 1.จัดซื้อพร้อมกันทุกชั้นปี และ 2.จัดซื้อเป็นบางชั้นปี
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อจัดทำงบประมาณปี 2557 มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ว่า ศธ.ได้ประชุมเพื่อเตรียมจัดตั้งงบประมาณปี 2557 ในส่วนงบลงทุน โดยมีสำนักงบประมาณ ได้มาชี้แจงกรอบการจัดทำด้วย โดยการประชุมได้มีการพูดคุยถึงการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ต ตามโครงการ One Tablet Pc Per Child และทางสำนักงบฯ ได้ชี้แจงว่าการตั้งงบประมาณแท็บเล็ต ประจำปี 2557 จะไม่ดูที่เม็ดเงินเป็นหลักแต่จะดูที่เป้าหมายและวิธีการในการบรรลุเป้าหมาย ถ้ามีวิธีการที่สามารถไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถตั้งงบประมาณจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2557 ได้ทั้ง 9 ชั้นปีที่เหลือโดยไม่จำเป็นต้องรอทยอยจัดซื้อเหมือนที่ผ่านมา ในส่วนจะหาเม็ดเงินมาจากไหนมาจัดซื้อนั้นสำนักงบฯ ชี้แจงว่า ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงบฯ เพราะฉะนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไปพิจารณาในรายละเอียดมา ในส่วนของสำนักงานปลัด ศธ.ที่ดูแลโรงเรียนเอกชนนั้นตนจะให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตให้โรงเรียนเอกชนครบทุกชั้นปีในปีงบประมาณ 2557
นอกจากนี้ ในส่วนของ สช.ที่จะของบลงทุนเพิ่ม คือ การปรับเพิ่มเงินเดือนให้ครูเอกชนเป็น 15,000 บาท การเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนปอเนาะ ได้แก่ โต๊ะครู จากเดิม 2,000 บาทเป็น 5,000 บาท และผู้ช่วยโต๊ะครู จาก 1,000 บาท เป็น 3,000 บาท ซึ่งจะเสนอทยอยปรับเพิ่มให้ ขณะเดียวกันจะเสนอของบลงทุนในการสร้องหอพักในวิทยาลัยเอกชนด้วย
นางพนิตา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ ศธ.นั้นงบลงทุนจะจัดสรรให้กับนโยบายสำคัญ 3 เรื่อง คือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การขยายโอกาสทางการศึกษา และการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ผ่านโครงการที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ เอสเอ็มอีชุมชน และกองทุนตั้งตัวได้ โดยในแต่ละนโยบายจะแตกออกมาเป็นแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ซึ่งทุกองค์กรหลักใน ศธ.จะต้องจัดทำตัวเลขงบประมาณของโครงการพัฒนาต่างๆ ให้เสร็จและส่งสำนักงบฯภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการนำคำขอจัดตั้งงบประมาณแต่ละกระทรวงขึ้นมาพิจารณาในเดือน ธ.ค.หากโครงการใดไม่ตรงกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจะต้องมีการปรับแก้ไข
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงบฯ ไม่ได้รับปากว่าจะจัดงบประมาณ 2557 สำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตครบทุกชั้นปี แต่ให้ขึ้นอยู่กับผลการประเมินโครงการ ซึ่ง สพฐ.จะไปเร่งจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลการใช้แท็บเล็ตพัฒนาการเรียนการสอน พร้อมรับฟังความคิดเห็นในกรณีที่จะจัดซื้อพร้อมกันทุกชั้นปี จากนั้นจึงค่อยนำผลข้อคิดเห็นที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการมาพิจารณาว่าจะขอตั้งงบประมาณปี 2557 สำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตครบทุกชั้นปีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการจัดซื้อแท็บเล็ตเพิ่มจำนวนขึ้นทุกๆ ปี เพราะรัฐบาลต้องการเร่งจัดสรรแท็บเล็ตให้นักเรียน เริ่มจากงบประมาณปี 2555 รัฐบาลจัดตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้น แต่พอปีงบประมาณ 2556 เพิ่มจัดซื้อแท็บเล็ตให้ ป.1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพราะฉะนั้น ปีงบประมาณ 2557 น่าจะจัดซื้อเพิ่มขึ้นอีกแต่ทั้งนี้ สพฐ.อาจจะเสนอตัวเลือกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ 1.จัดซื้อพร้อมกันทุกชั้นปี และ 2.จัดซื้อเป็นบางชั้นปี
