สำนักเลขาฯสังฆราช ชวนคนไทย ส่งเหรียญสุข สร้างบุญอุโบสถดิน รับมงคลปี 56 ถวายเป็นพระกุศล สมเด็จพระสังฆราช เผย มี 5 แบบ เจริญอายุ เจริญทรัพย์ เจริญสิริ เจริญกำลัง เจริญสุข ส่งความสุขให้คนที่เคารพรักเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีมะเส็ง
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แถลงข่าวเหรียญสุข ส่งความสุขปีใหม่ 2556 ถวายเป็นพระกุศลสร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมเชิญชวนคนไทยส่งเหรียญสุข สร้างบุญ สร้างมงคลรับปี 2556 ถวายพระกุศลสมเด็จพระสังฆราช พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคล ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 100 พรรษา ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และใกล้เทศกาลปีใหม่ 2556 หรือย่างเข้าปีมะเส็ง ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้จัดทำเหรียญสุข เพื่อให้ประชาชนชาวไทยส่งมอบเป็นของขวัญที่ระลึกให้แก่บุคคลที่รักและยังได้ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ใน 5 รูปแบบ ได้แก่ 1.เหรียญเงิน/ทอง อายุวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยอายุ 2.เหรียญเงิน/ทอง ธนวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยทรัพย์ 3.เหรียญเงิน/ทอง สิริวัฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสิริ 4.เหรียญเงิน/ทอง พลวฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยกำลัง และ 5.เหรียญเงิน/ทอง ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสุข
พระครูสังฆสิทธิกร กล่าวต่อไปว่า สำนักเลขานุการเปิดให้ร่วมบูชาเหรียญสุข จำนวน 2 แสนชุด ราคาชุดละ 299 บาท รายได้จะนำไปจัดสร้างโครงการ สร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่วัดที่ยังไม่มีอุโบสถ เพื่อน้อมถวายเป็นพระกุศล และเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสดังกล่าว โดยเน้นให้อุโบสถมีความแข็งแรง รวดเร็ว ดูแลรักษาง่าย ใช้วัสดุในพื้นที่ สะดวกต่อการบูรณะซ่อมแซม ประหยัด โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโบสถละไม่เกิน 2 ล้านบาท อันเป็นไปตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราช และสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนสามารถบูชาเหรียญสุข ได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารกรุงไทย โรงพยาบาลจุฬากรณ์ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สอบถามได้ที่ 0-2281-2831-2
หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศฯ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จัดสร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เลือกไว้แล้ว ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดป่าพุทธนิมิตสถิตสีมาราม บ้านห้วยยาง ต.เหล่าโพนค้อ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร วัดบุเจ้าคุณ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และวัดสิงห์ทอง บ้านหนองแซง ต.โพนงาม อ.กุดชุม จ.ยโสธร, ภาคใต้ วัดสันติวรคุณ บ้านสำนักขาม ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา, ภาคกลาง วัดตอยาง ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี และวัดพระธาตุโป่งนก ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี, ภาคเหนือ วัดป่านันทบุรีญาณสังวราราม บ้านผาตูบ ต.ผาสิงฆ์ อ.เมือง จ.น่าน และวัดป่าห้วยปางห้วยเม็งเฉลิมพระเกียรติ ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่, ภาคตะวันออก วัดทับทิมสยาม 01 บ้านทับทิมสยาม 01 ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด
ซึ่งโครงการนี้เป็นการต่อยอดโครงการโบสถ์ดินแห่งแรกที่ จ.สกลนคร ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่บัดนี้ จนถึง เดือนธันวาคม 2557 โดยจะใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 10 ล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และจากโครงการจัดทำเหรียญ “พระพุทธศรีสุวัฒนบดี” ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้ง องค์กร หน่วยงาน ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาก็บริจาคสามารถเข้าร่วมสมทบทุนกับโครงการดังกล่าวได้ ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แถลงข่าวเหรียญสุข ส่งความสุขปีใหม่ 2556 ถวายเป็นพระกุศลสร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมเชิญชวนคนไทยส่งเหรียญสุข สร้างบุญ สร้างมงคลรับปี 2556 ถวายพระกุศลสมเด็จพระสังฆราช พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคล ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 100 พรรษา ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และใกล้เทศกาลปีใหม่ 2556 หรือย่างเข้าปีมะเส็ง ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้จัดทำเหรียญสุข เพื่อให้ประชาชนชาวไทยส่งมอบเป็นของขวัญที่ระลึกให้แก่บุคคลที่รักและยังได้ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ใน 5 รูปแบบ ได้แก่ 1.เหรียญเงิน/ทอง อายุวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยอายุ 2.เหรียญเงิน/ทอง ธนวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยทรัพย์ 3.เหรียญเงิน/ทอง สิริวัฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสิริ 4.เหรียญเงิน/ทอง พลวฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยกำลัง และ 5.เหรียญเงิน/ทอง ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสุข
พระครูสังฆสิทธิกร กล่าวต่อไปว่า สำนักเลขานุการเปิดให้ร่วมบูชาเหรียญสุข จำนวน 2 แสนชุด ราคาชุดละ 299 บาท รายได้จะนำไปจัดสร้างโครงการ สร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่วัดที่ยังไม่มีอุโบสถ เพื่อน้อมถวายเป็นพระกุศล และเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสดังกล่าว โดยเน้นให้อุโบสถมีความแข็งแรง รวดเร็ว ดูแลรักษาง่าย ใช้วัสดุในพื้นที่ สะดวกต่อการบูรณะซ่อมแซม ประหยัด โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโบสถละไม่เกิน 2 ล้านบาท อันเป็นไปตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราช และสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนสามารถบูชาเหรียญสุข ได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารกรุงไทย โรงพยาบาลจุฬากรณ์ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สอบถามได้ที่ 0-2281-2831-2
หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศฯ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จัดสร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เลือกไว้แล้ว ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดป่าพุทธนิมิตสถิตสีมาราม บ้านห้วยยาง ต.เหล่าโพนค้อ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร วัดบุเจ้าคุณ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และวัดสิงห์ทอง บ้านหนองแซง ต.โพนงาม อ.กุดชุม จ.ยโสธร, ภาคใต้ วัดสันติวรคุณ บ้านสำนักขาม ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา, ภาคกลาง วัดตอยาง ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี และวัดพระธาตุโป่งนก ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี, ภาคเหนือ วัดป่านันทบุรีญาณสังวราราม บ้านผาตูบ ต.ผาสิงฆ์ อ.เมือง จ.น่าน และวัดป่าห้วยปางห้วยเม็งเฉลิมพระเกียรติ ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่, ภาคตะวันออก วัดทับทิมสยาม 01 บ้านทับทิมสยาม 01 ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด
ซึ่งโครงการนี้เป็นการต่อยอดโครงการโบสถ์ดินแห่งแรกที่ จ.สกลนคร ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่บัดนี้ จนถึง เดือนธันวาคม 2557 โดยจะใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 10 ล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และจากโครงการจัดทำเหรียญ “พระพุทธศรีสุวัฒนบดี” ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้ง องค์กร หน่วยงาน ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาก็บริจาคสามารถเข้าร่วมสมทบทุนกับโครงการดังกล่าวได้ ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร