เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “ทับทิมสยาม” ส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงอัญมณีสีแดงเลือดนก อันเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาของประเทศไทย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเมื่อช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมานั้น คำนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฉายาของอัญมณีสีแดงเท่านั้น แต่คำนี้ยังได้นำมาใช้เป็นชื่อของผลไม้แดนปักษ์ใต้แห่งลุ่มน้ำปากพนังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจนได้ตั้งชื่อนี้ขึ้นมานั้นก็คือ "ส้มโอทับทิมสยาม" อันเป็นความภาคภูมิใจของชาวลุ่มน้ำปากพนัง แห่ง จ.นครศรีธรรมราช
ส้มโอทับทิมสยาม มีลักษณะโดดเด่นด้วยเนื้อส้มโอที่มีสีแดงสดใสและ เข้มคล้ายกับสีทับทิมมีรสชาติหวาน ขนาดผลกำลังดีไม่ใหญ่จนเกินไป ปัจจุบันถือเป็นส้มโอรสชาติเยี่ยมที่ดังไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนา
สำหรับต้นกำเนิดของส้มโอทับทิมสยามนั้น อัมพร สวัสดิ์สุข เจ้าของไร่สวัสดิ์สุข ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เล่าว่า เมื่อก่อนนี้ส้มโอทับทิมสยามนั้นเป็นส้มโอพันธ์ดั้งเดิมของจังหวัดปัตตานี ที่มีชื่อว่า “เขียวมรกต” แต่ด้วยส้มโอเขียวมรกตนั้นถึงจะมีเนื้อสีแดงสวยงามน่ากินแต่รสชาตินั้นขมเเต่ลักษณะลูกเล็กกำลังพอดีและมีเปลือกสีเขียวสวยงามตามชื่อเขียวมรกต จึงเป็นที่น่าเสียดายในคุณลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นของส้มโอพันธุ์นี้
อัมพร เล่าต่อว่า หลังจากนั้นได้มีการใช้วิธีปรับปรุงพันธุ์และได้ริเริ่มนำมาทดลองปลูกยังไร่ของตน ซึ่งอยู่ในเขตลุ่มน้ำปากพนัง โดยได้นำพันธุ์ส้มโอเขียวมรกตมาปลูกที่ไร่เมื่อ 9 ปีก่อน และพอส้มโอเริ่มให้ผลผลิตจึงได้ทดลองชิมและจำหน่าย ซึ่งได้เกิดความน่าแปลกใจก็คือรสขมของพันธุ์ดั้งเดิมนั้นได้หายไปกลายเป็นรสหวานแทน ขณะที่สีเนื้อของส้มโอก็ยังเป็นสีแดงสดใสอยู่อย่างเดิม ส่วนลักษณะของผลและเปลือกก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
ด้วยรสชาติใหม่ที่อร่อยหวานถูกปากของคนในพื้นที่ ทำให้มีการเปลี่ยนชื่อจากพันธุ์ส้มโอเขียวมรกตเป็นพันธุ์ “ทับทิมสยาม” ตามสีสันอันแดงสดใสของเนื้อส้มโอ โดยหลังจากนั้นได้นำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด และเป็นที่นิยมในเวลาต่อมา นับเป็นอีกหนึ่งผลไม้อันโดดเด่นของลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
อัมพร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังส้มโอทับทิมสยามให้รสชาติที่แปลกใหม่ต่างไปจากพันธุ์ดั้งเดิมคือเขียวมรกต เขาจึงได้ค้นหาสาเหตุ โดยให้ทางกรมพัฒนาที่ดินเข้ามาทำการสำรวจและวิจัย จนพบว่าเหตุที่รสชาติเปลี่ยนไปจากดั้งเดิมที่มีรสขมเปลี่ยนมาเป็นรสหวาน ก็เพราะพื้นที่ในการปลูกนั้นคือลุ่มน้ำปากพนังอันเป็นที่ราบลุ่มป่าชายเลนเป็นดินเหนียวมีน้ำขัง และเป็นดินที่มีเปลือกหอยปะปนอยู่เพราะใกล้กับทะเลซึ่งมีแร่ธาตุที่สำคัญนั้นก็คือธาตุแคลเซียม เมื่อต้นส้มโอได้รับสารอาหารเหล่านี้ ผลผลิตที่ออกมาจะให้รสชาติหวานต่างไปจากเดิม
นอกจากนี้ทางกรมพัฒนาที่ดินยังได้ระบุอีกว่า หากจะปลูกให้ได้รสชาติแบบนี้ ก็ต้องปลูกที่พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเพียงที่เดียว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้กลายเป็นสินค้า OTOP ของชาวปากพนัง และจัดอยู่ในระดับห้าดาวของจังหวัดนครศรีธรรมราช
และด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นทั้งเรื่องรสชาติ ของเนื้อที่แดงสดชวนกิน และขนาดของผลที่มีขนาดพอเหมาะ ผิวเปลือกสวย ส้มโอทับทิมสยามได้กลายมาเป็นหนึ่งผลไม้อันโดดเด่นของลุ่มน้ำปากพนัง อีกทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของชาวปากพนังอีกด้วย
อย่างไรก็ดีเนื่องจากในปัจจุบันนั้นส้มโอทับทิมสยามได้เป็นที่ต้องการและเป็นที่นิยมของทางตลาด จึงได้มีการจัดส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ ไต้หวันซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ รองลงมาคือญี่ปุ่นเหตุผลที่ชอบคือผลของส้มโอนั้นมีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มากและมีสีเปลือกและเนื้อที่สวยจึงเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้และทางจังหวัดนครศรีธรรมราชยังได้ทำการติดต่อเพื่อจะจัดจำหน่ายไปยังประเทศจีนในอนาคตอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากลองลิ้มชิมรสส้มโอทับทิมสยาม ส้มโอพันธุ์นี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ ราคาในตอนนี้นั้นหากซื้อในพื้นที่ราคาประมาณ 200 บาทต่อลูก ซึ่งการกินส้มโอนั้นถือว่ามีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย เพราะมีวิตามินซีสูงและมีวิตามินเกลือแร่มากมายเช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม กรดอินทรีย์ โมโนเทอร์ปีน และการกินส้มโอก็ยังเป็นการช่วยล้างสารพิษได้ด้วย
และนี้่ก็คือเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ“ส้มโอทับทิมยาม” ที่เป็นดังทับทิมเม็ดงามของลุ่มน้ำปากพนัง แห่ง จ.นครศรีธรรมราช