“หมอประดิษฐ” ยัน ตั้งรองเลขาฯ สปสช.ไม่มีเอี่ยวการเมือง แต่ตั้งขึ้นเพื่อให้ช่วยกันทำงานที่มีภารกิจเพิ่มมากขึ้น ด้านเอ็นจีโอค้าน ยังไม่เห็นความสำคัญการเพิ่มตำแหน่ง จับตาดึงคนนอกมาบริหารหรือไม่ หวั่นแทรกแซงกองทุน
วันนี้ (4 ธ.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการตั้งรองเลขาธิการ สปสช.ขึ้นมาใหม่ 2 ตำแหน่ง ว่า เรื่องนี้ไม่มีการแทรกแซงทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการเสนอของฝ่ายบริหารและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เลือกขึ้นมา โดยสาเหตุของการตั้งมาจากทางสปสช.มีภาระงานที่เพิ่มขึ้น เช่น การทำเรื่องของเอดส์/ไต ต่อไปจะมีการเพิ่มเรื่องมะเร็งเข้ามาด้วย ดังนั้น การตั้งขึ้นมาก็เพื่อมาช่วยกันทำงาน ซึ่งขณะนี้มีการอนุมัติแล้วทั้ง 2 ตำแหน่ง คือ 1.ให้ดูแลเรื่องเคลียริงเฮาส์ และ 2.ดูแลการสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งก็จะเป็นไปตามกลไกทุกอย่าง เช่น ต้องมีอายุที่ไม่เกิน 60 ปี และไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนนอกหรือคนใน ซึ่งการแต่ตั้งไม่มีผลกระทบอะไรกับทางบอร์ด สปสช.เนื่องจากจำนวนบุคลากรใน สปสช.ก็ยังมี 870 คนเท่าเดิม ส่วนเรื่องที่มีการวอล์เอ้าออกนั้นตนคิดว่าคนที่เดินออกคงมีธุระ และเมื่อลงยกมือโหวต หรือไม่ประสงค์จะเลือกใครเสร็จ ก็เดินออกมาถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สัดส่วนภาคประชาชน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการพิจารณาวาระเร่งด่วนในการเพิ่มตำแหน่งรองเลขาธิการ สปสช.จากปัจจุบันมีอยู่ 3 คน เพิ่มอีก 2 คน รวมแล้วมีทั้งหมด 5 คน ซึ่งถือว่ามาก ที่สำคัญยังให้มีภารกิจสารพัด โดยเน้นเรื่องการเงินของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งการดูแล เคลียริงเฮาส์ สำหรับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ เช่น กรณีฉุกเฉิน และยังให้ดูแลนโยบายต่างประเทศ ซึ่งการเพิ่มตำแหน่งมองไม่เห็นว่ามีความสำคัญอย่างไร นอกเหนือจากมีการดึงคนภายนอกเข้ามาบริหารหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ต้องจับตามอง เพราะหากเป็นคนนอกก็อาจมีการแทรกแซงการบริหารกองทุนได้
“จริงๆ แล้วระหว่างการประชุม พวกเราก็คัดค้าน เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มตำแหน่งดังกล่าว และรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาก็ยังไม่มี แถมไม่มีหลักการการสรรหาอะไรที่ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ทางเครือข่ายประชาชนจำนวน 5 คน จึงใช้สิทธิขอวอล์กเอาต์ทันที” นายนิมิตร์ กล่าว
วันนี้ (4 ธ.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการตั้งรองเลขาธิการ สปสช.ขึ้นมาใหม่ 2 ตำแหน่ง ว่า เรื่องนี้ไม่มีการแทรกแซงทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการเสนอของฝ่ายบริหารและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เลือกขึ้นมา โดยสาเหตุของการตั้งมาจากทางสปสช.มีภาระงานที่เพิ่มขึ้น เช่น การทำเรื่องของเอดส์/ไต ต่อไปจะมีการเพิ่มเรื่องมะเร็งเข้ามาด้วย ดังนั้น การตั้งขึ้นมาก็เพื่อมาช่วยกันทำงาน ซึ่งขณะนี้มีการอนุมัติแล้วทั้ง 2 ตำแหน่ง คือ 1.ให้ดูแลเรื่องเคลียริงเฮาส์ และ 2.ดูแลการสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งก็จะเป็นไปตามกลไกทุกอย่าง เช่น ต้องมีอายุที่ไม่เกิน 60 ปี และไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนนอกหรือคนใน ซึ่งการแต่ตั้งไม่มีผลกระทบอะไรกับทางบอร์ด สปสช.เนื่องจากจำนวนบุคลากรใน สปสช.ก็ยังมี 870 คนเท่าเดิม ส่วนเรื่องที่มีการวอล์เอ้าออกนั้นตนคิดว่าคนที่เดินออกคงมีธุระ และเมื่อลงยกมือโหวต หรือไม่ประสงค์จะเลือกใครเสร็จ ก็เดินออกมาถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สัดส่วนภาคประชาชน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการพิจารณาวาระเร่งด่วนในการเพิ่มตำแหน่งรองเลขาธิการ สปสช.จากปัจจุบันมีอยู่ 3 คน เพิ่มอีก 2 คน รวมแล้วมีทั้งหมด 5 คน ซึ่งถือว่ามาก ที่สำคัญยังให้มีภารกิจสารพัด โดยเน้นเรื่องการเงินของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งการดูแล เคลียริงเฮาส์ สำหรับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ เช่น กรณีฉุกเฉิน และยังให้ดูแลนโยบายต่างประเทศ ซึ่งการเพิ่มตำแหน่งมองไม่เห็นว่ามีความสำคัญอย่างไร นอกเหนือจากมีการดึงคนภายนอกเข้ามาบริหารหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ต้องจับตามอง เพราะหากเป็นคนนอกก็อาจมีการแทรกแซงการบริหารกองทุนได้
“จริงๆ แล้วระหว่างการประชุม พวกเราก็คัดค้าน เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มตำแหน่งดังกล่าว และรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาก็ยังไม่มี แถมไม่มีหลักการการสรรหาอะไรที่ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ทางเครือข่ายประชาชนจำนวน 5 คน จึงใช้สิทธิขอวอล์กเอาต์ทันที” นายนิมิตร์ กล่าว
