สธ.คาดปี 55 ดันบรรจุ ขรก.ได้หมื่นอัตรา ปี 56-57 ได้อีก 7-8 พันอัตรา ด้าน “นายกฯปู” เรียกกลุ่มพยาบาลลูกจ้างชั่วคราว 3 ธ.ค.นี้ เข้าฟังคำชี้แจง ยันไม่ทิ้งแน่นอน แต่ทุกอย่างต้องมีระบบ ส่วนชมรมแพทย์ชนบทหนุนบรรจุพยาบาลทั้ง 17,000 คน เล็งส่งหนังสือถึง รพ.ชุมชน ให้เตรียมรับมือพยาบาลหยุดงาน เกรงกระทบผู้ป่วย
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกันของ สธ.และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ ว่า ในปี 2555 จะบรรจุให้ได้กว่า 10,000 อัตรา จากเดิมที่สามารถบรรจุได้เพียง 4,000 อัตรา ซึ่งไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหากำลังคน สธ.ทั้งระบบได้ และปี 2556-2557 จะบรรจุให้ได้ปีละ 7,500-8,000 อัตรา โดยข้อสรุปดังกล่าวจะต้องนำเสนอต่อ คณะกรรมการปรับปรุงกำลังคนภาครัฐ และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยคาดว่าจะสรุปได้ก่อนกลางเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อแก้ปัญหาให้กับบุคลากรสธ.
“นายกรัฐมนตรีจะเปิดโอกาสให้เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เพื่อชี้แจงว่ารัฐบาล และ สธ.ไม่ได้ทอดทิ้งและละเลยการแก้ปัญหา แต่ทุกอย่างมีระบบระเบียบ จำเป็นต้องทำความเข้าใจ ซึ่ง สธ.พยายามแก้ปัญหาโดยการบรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) ก่อน เพื่อบรรเทาปัญหาก่อนที่จะบรรจุเป็นข้าราชการต่อไป” รองปลัด สธ.กล่าว
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดสรรการบรรจุจะมีการทำงานร่วมกันของวิชาชีพ 21 สายงาน แต่คาดว่ากลุ่มพยาบาลจะมีสัดส่วนได้รับการบรรจุมากที่สุด เพราะมีจำนวนตกค้างมาก โดยในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงกำลังคนภาครัฐอีกครั้ง เพื่อสรุปการทำงานและนำไปสู่ข้อยุติให้เร็วที่สุด โดยเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขให้จบได้ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ การที่กลุ่มเครือข่ายวิชาชีพฯ จะหยุดงานเพื่อประท้วงนั้น เชื่อว่ามีเพียงบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ซึ่งก็ต้องอธิบายกันต่อไปและคุยกันด้วยเหตุผล เพราะการหยุดงานของบุคลากรทางการแพทย์ย่อมกระทบต่อผู้ป่วย
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า ชมรมฯสนับสนุนข้อเรียกร้องการบรรจุเป็นข้าราชการของพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวทั้ง 17,000 คนทันที เพราะนอกจากเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจและป้องกันการไหลไปสู่ รพ.เอกชน แล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเงินบำรุงของโรงพยาบาล ซึ่งมีแนวโน้มลดลงจนเกิดภาวะวิกฤตเงินบำรุงในอีกไม่ช้าด้วย โดย รมว.สาธารณสุขจะต้องแสดงศักยภาพทำให้สำเร็จทันที เพราะการเอาอัตราว่างของข้าราชการจากการเกษียณปีละ 4,000 อัตรามาบรรจุให้พยาบาลและวิชาชีพสาธารณสุขสาขาอื่น เป็นการดำเนินการตามปกติของทุกปีที่ผ่านมา และการปรับเป็นพนักงาน กสธ.เป็นการผลักภาระให้ใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีเครือข่ายพยาบาลฯประกาศจะหยุดยาว เพื่อไม่ให้กระทบกับการบริการผู้ป่วยของโรงพยาบาล ทางชมรมแพทย์ชนบทจะมีหนังสือขอความร่วมมือให้ รพ.ชุมชนทุกแห่งสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในการหยุดงานของพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่จะเข้าร่วมติดตามข้อเรียกร้องที่ สธ.หรือทำเนียบรัฐบาล ด้วยการจัดตารางเวรปฏิบัติงานใหม่ ให้พยาบาลที่เป็นข้าราชการเข้ารับเวรบริการผู้ป่วยแทนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวในช่วงเวลาที่มีการหยุดงานดังกล่าว และให้เตรียมพร้อมหากมีการหยุดงานต่อเนื่องมากกว่า 3 วัน ตามที่เครือข่ายฯประกาศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการผู้ป่วย และไม่ให้ผู้ป่วยเดือดร้อน
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกันของ สธ.และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ ว่า ในปี 2555 จะบรรจุให้ได้กว่า 10,000 อัตรา จากเดิมที่สามารถบรรจุได้เพียง 4,000 อัตรา ซึ่งไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหากำลังคน สธ.ทั้งระบบได้ และปี 2556-2557 จะบรรจุให้ได้ปีละ 7,500-8,000 อัตรา โดยข้อสรุปดังกล่าวจะต้องนำเสนอต่อ คณะกรรมการปรับปรุงกำลังคนภาครัฐ และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยคาดว่าจะสรุปได้ก่อนกลางเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อแก้ปัญหาให้กับบุคลากรสธ.
“นายกรัฐมนตรีจะเปิดโอกาสให้เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เพื่อชี้แจงว่ารัฐบาล และ สธ.ไม่ได้ทอดทิ้งและละเลยการแก้ปัญหา แต่ทุกอย่างมีระบบระเบียบ จำเป็นต้องทำความเข้าใจ ซึ่ง สธ.พยายามแก้ปัญหาโดยการบรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) ก่อน เพื่อบรรเทาปัญหาก่อนที่จะบรรจุเป็นข้าราชการต่อไป” รองปลัด สธ.กล่าว
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดสรรการบรรจุจะมีการทำงานร่วมกันของวิชาชีพ 21 สายงาน แต่คาดว่ากลุ่มพยาบาลจะมีสัดส่วนได้รับการบรรจุมากที่สุด เพราะมีจำนวนตกค้างมาก โดยในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงกำลังคนภาครัฐอีกครั้ง เพื่อสรุปการทำงานและนำไปสู่ข้อยุติให้เร็วที่สุด โดยเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขให้จบได้ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ การที่กลุ่มเครือข่ายวิชาชีพฯ จะหยุดงานเพื่อประท้วงนั้น เชื่อว่ามีเพียงบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ซึ่งก็ต้องอธิบายกันต่อไปและคุยกันด้วยเหตุผล เพราะการหยุดงานของบุคลากรทางการแพทย์ย่อมกระทบต่อผู้ป่วย
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า ชมรมฯสนับสนุนข้อเรียกร้องการบรรจุเป็นข้าราชการของพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวทั้ง 17,000 คนทันที เพราะนอกจากเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจและป้องกันการไหลไปสู่ รพ.เอกชน แล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเงินบำรุงของโรงพยาบาล ซึ่งมีแนวโน้มลดลงจนเกิดภาวะวิกฤตเงินบำรุงในอีกไม่ช้าด้วย โดย รมว.สาธารณสุขจะต้องแสดงศักยภาพทำให้สำเร็จทันที เพราะการเอาอัตราว่างของข้าราชการจากการเกษียณปีละ 4,000 อัตรามาบรรจุให้พยาบาลและวิชาชีพสาธารณสุขสาขาอื่น เป็นการดำเนินการตามปกติของทุกปีที่ผ่านมา และการปรับเป็นพนักงาน กสธ.เป็นการผลักภาระให้ใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีเครือข่ายพยาบาลฯประกาศจะหยุดยาว เพื่อไม่ให้กระทบกับการบริการผู้ป่วยของโรงพยาบาล ทางชมรมแพทย์ชนบทจะมีหนังสือขอความร่วมมือให้ รพ.ชุมชนทุกแห่งสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในการหยุดงานของพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่จะเข้าร่วมติดตามข้อเรียกร้องที่ สธ.หรือทำเนียบรัฐบาล ด้วยการจัดตารางเวรปฏิบัติงานใหม่ ให้พยาบาลที่เป็นข้าราชการเข้ารับเวรบริการผู้ป่วยแทนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวในช่วงเวลาที่มีการหยุดงานดังกล่าว และให้เตรียมพร้อมหากมีการหยุดงานต่อเนื่องมากกว่า 3 วัน ตามที่เครือข่ายฯประกาศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการผู้ป่วย และไม่ให้ผู้ป่วยเดือดร้อน
