นายกสมาคมพยาบาล 12 ประเทศ เตรียมถกปัญหาขาดแคลนพยาบาลรับอาเซียน ไทยหวั่น รพ.เอกชน ซื้อตัวพยาบาลคุณภาพ เหตุไม่ได้บรรจุ ขรก.ชี้ สธ.แก้ปัญหาไม่ถูกจุด สอนมวย “หมอประดิษฐ” ช่วยเยียวยาจิตใจพยาบาลก่อนคิดทำระบบใหม่
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวถึงการประชุมเสวนาเรื่องกำลังคนพยาบาลอาเซียน ที่จะมีนายกสมาคมพยาบาลจำนวน 12 ประเทศ เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.ว่า ขณะนี้ไทยเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมประมาณ 90% แล้ว โดยภายในงานจะมีการหารือในหัวข้อการขาดแคลนพยาบาล ซึ่งเป็นปัญหาหลัก โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเขตเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 เนื่องจากวิชาชีพพยาบาลเป็น 1 ใน 7 แรงงานฝีมือตามกรอบ Mutual Recognition Arrangement (MRA) ที่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้มีทั้งข้อดี คือ มีการไหลเข้าของพยาบาลจากต่างประเทศ ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพของไทยได้ แต่ข้อเสีย คือ จะมีการไหลออกของพยาบาลไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันในเรื่องของกำลังพยาบาล
รศ.ดร.จินตนา กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดขณะนี้ คือ พยาบาลในโรงพยาบาลรัฐที่มีประสบการณ์ อาจย้ายไปทำงานกับโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากได้ค่าตอบแทนสูงกว่า ทำงานน้อยกว่า และปัจจัยสำคัญ คือ การไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการบรรจุข้าราชการ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าในอนาคตโรงพยาบาลรัฐจะขาดพยาบาลที่มีประสบการณ์และฝีมือในการทำงาน เหลือเพียงพยาบาลจบใหม่เท่านั้นที่จะมาทำงานบริการประชาชน ทั้งที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีภายใน 10 ปี แต่ขณะนี้เรื่องบุคลากรที่จะให้บริการประชาชนกับมีปัญหา
“การที่ สธ.บอกว่าจะมีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวบางส่วนให้เป็นข้าราชการ ส่วนที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ จะปรับให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) นั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุดไม่มีความเป็นธรรม เพราะก่อนที่ สธ.จะทำการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น อยากให้ทาง สธ.ช่วยเยียวยาจิตใจของลูกจ้างชั่วคราวก่อนดีกว่าที่จะมาคิดทำระบบใหม่” รศ.ดร.จินตนา กล่าว
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวถึงการประชุมเสวนาเรื่องกำลังคนพยาบาลอาเซียน ที่จะมีนายกสมาคมพยาบาลจำนวน 12 ประเทศ เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.ว่า ขณะนี้ไทยเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมประมาณ 90% แล้ว โดยภายในงานจะมีการหารือในหัวข้อการขาดแคลนพยาบาล ซึ่งเป็นปัญหาหลัก โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเขตเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 เนื่องจากวิชาชีพพยาบาลเป็น 1 ใน 7 แรงงานฝีมือตามกรอบ Mutual Recognition Arrangement (MRA) ที่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้มีทั้งข้อดี คือ มีการไหลเข้าของพยาบาลจากต่างประเทศ ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพของไทยได้ แต่ข้อเสีย คือ จะมีการไหลออกของพยาบาลไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันในเรื่องของกำลังพยาบาล
รศ.ดร.จินตนา กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดขณะนี้ คือ พยาบาลในโรงพยาบาลรัฐที่มีประสบการณ์ อาจย้ายไปทำงานกับโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากได้ค่าตอบแทนสูงกว่า ทำงานน้อยกว่า และปัจจัยสำคัญ คือ การไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการบรรจุข้าราชการ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าในอนาคตโรงพยาบาลรัฐจะขาดพยาบาลที่มีประสบการณ์และฝีมือในการทำงาน เหลือเพียงพยาบาลจบใหม่เท่านั้นที่จะมาทำงานบริการประชาชน ทั้งที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีภายใน 10 ปี แต่ขณะนี้เรื่องบุคลากรที่จะให้บริการประชาชนกับมีปัญหา
“การที่ สธ.บอกว่าจะมีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวบางส่วนให้เป็นข้าราชการ ส่วนที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ จะปรับให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) นั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุดไม่มีความเป็นธรรม เพราะก่อนที่ สธ.จะทำการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น อยากให้ทาง สธ.ช่วยเยียวยาจิตใจของลูกจ้างชั่วคราวก่อนดีกว่าที่จะมาคิดทำระบบใหม่” รศ.ดร.จินตนา กล่าว
