xs
xsm
sm
md
lg

ยูเนสโก ชี้ ปมปัญหาการศึกษา เน้นวิชาการเลิศ ละเลยการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผอ.ยูเนสโก ชี้ ระบบการศึกษาทั่วโลกละเลยการสอนให้เด็กใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น มุ่งแต่ให้เด็กมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ยึดติดการแข่งขัน แนะไทยใช้ความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก ด้าน ปลัด ศธ.เล็งจับมือ วธ.เพิ่มหลักสูตรประวัติศาสตร์ เรียนรู้ศาสนา วัฒนธรรม ความเป็นมาของประเทศอาเซียน
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (องค์การยูเนสโก) ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และเครือข่ายเอเชียแปซิฟิกเพื่อการศึกษาและค่านิยมนานาชาติ (Asian-Pacific Network for Internationnal Education and Values,APNIEVE) เพียร์สัน ประเทศไทย และบริษัท เจพี มอร์แกน จัดการประชุมนานาชาติ UNESCO-APEID ครั้งที่ 16 ประเด็น หัวใจของการศึกษา:การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย.2555 โดยมี มร.กวาง โจ คิม ผู้อำนวยสำนักการศึกษาองค์การยูเนสโก ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาระบบการศึกษาทั่วโลก มุ่งพัฒนาการศึกษาที่ทำให้นักเรียน นักศึกษามุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ จนละเลยการพัฒนาเด็กเพื่อให้เด็กสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การศึกษาตอนนี้ยึดติดเรื่องการแข่งขัน ไม่ใส่ใจเรื่องของการใช้ชีวิต อยู่ร่วมกับผู้อื่น

เรื่องการศึกษากับการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ลงสู่ทางปฏิบัติ เพราะแต่ละประเทศล้วนมุ่งพัฒนาการศึกษาเพื่อให้เด็กเก่ง แข่งขันได้ แต่ไม่ได้สอนการใช้ชีวิตเรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งแนวทางที่จะพัฒนาการศึกษาเพื่อให้เด็กเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่เพียงการปรับหลักสูตร แต่ต้องมีกระบวนการที่จะลงลึกไปสู่การปฏิบัติ ลงลึกไปทุกแง่มุมของการศึกษา ทำอย่างไรให้เด็กเยาวชนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น อยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ ซึ่งในส่วนประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้ให้ความสำคัญการอยู่ร่วมกัน มีหลักสูตรที่สอนให้เด็กเรียนรู้ความรักสามัคคี สมานฉันท์ผสมผสานกับการอยู่ร่วมกัน โดยดูได้จากความหลากหลายทางศาสนาวัฒนธรรม ที่เด็กไทยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ ดังนั้น หากต้องการเพิ่มเติมทักษะการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ควรนำความหลากหลาย ความเป็นนานาชาติที่เกิดขึ้นในประเทศมาเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เด็กอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ” มร.กวางโจ คิม กล่าวและว่า การประชุมครั้งนี้ จึงเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิด เพื่อหาหนทางการทำงานร่วมกันระหว่างการเรียนรู้และการพัฒนาทางด้านสังคม และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับระบบการศึกษา ภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล เอกชน และชุมชน

ด้านนางพณิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. กล่าวว่าประเทศไทยมีการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีเด็กหลายศาสนาเรียนร่วมกันอยู่ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้ ศธ.จะนำผลสรุป แนวทางจากการหารือไปปรับพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอนเพื่อเน้นเรียนรู้ร่วมกันอย่างสันติมากขึ้น และเร็วๆ นี้ ศธ.จะหารือร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อปรับเพิ่มหลักสูตรด้านประวัติศาสตร์ ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศอาเซียน ทั้งในเรื่องของศาสนา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความเป็นอยู่ เพราะอนาคตทุกประเทศเชื่อมโยงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น