เคาะแล้ว! วิธีการจัดซื้อแท็บเล็ต ป.1, ม.1 ปี 56 แยกซื้อ 4 กองใหญ่ เปิด อี-ออกชัน พร้อมกันในวันเดียวให้โอกาสทั้ง บ.ไทย และเทศ ร่วมประมูล พร้อมมอบ “โอฬาร” เป็นประธานจัดทำทีโออาร์ “พงศ์เทพ” มั่นใจได้ราคาไม่สูงกว่าปีผ่านมา ขณะที่ สพฐ.กำหนดสเปกเบื้องต้นแล้ว เตรียมประชาพิจารณ์ ตั้งราคากลาง 2,800 บาทต่อเครื่อง ทั้ง ป.1 และ ม.1
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพาต่อ 1 นักเรียน ครั้งที่ 9/2555 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดซื้อแท็บเล็ตประจำปี 2556 ซึ่งจะจัดซื้อทั้งหมดจำนวน 1.69 ล้านเครื่อง เพื่อจัดสรรให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของสถานศึกษาทุกสังกัด ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ (TOR) ในการจัดซื้อและมอบ นายโอฬาร ไชยประวัติ เป็นประธานคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ที่ประชุมเห็นชอบให้แยกการจัดซื้อแท็บเล็ตสำหรับ ป.1 และ ม.1 ออกจากกัน จากเดิมที่เคยกำหนดให้จัดซื้อรวมกัน แต่เพราะจำนวนแท็บเล็ตของนักเรียนแต่ละระดับชั้น มีจำนวนกว่า 8 แสนเครื่อง จึงให้แบ่งการจัดซื้อออกเป็นระดับชั้นๆ ละ 2 กอง รวมทั้งหมด 4 กอง และให้เปิดประมูลผ่านระบบ อี-ออกชัน (E-Auction) อย่างต่อเนื่องให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันเดียวกัน โดยเปิดโอกาสให้บริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมการประกวดราคาได้
“การแยกประมูลจัดซื้อเป็น 4 กองนั้น จะจูงใจให้บริษัทต่างๆ สนใจเข้าร่วมการประมูล ทำให้เกิดการแข่งขัน จนได้ราคาจัดซื้อที่ดีสุด ศธ.เองก็มีราคาอ้างอิงจากการจัดซื้อในปีนี้อยู่แล้ว อยู่ที่ 2,470 บาทต่อเครื่อง เพราะฉะนั้น การจัดซื้อในปี 2556 ควรจะได้ราคาที่ต่ำกว่านี้ ทั้งนี้ ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปทำปฏิทินในการดำเนินการมา แต่โดยสรุปการจัดซื้อต้องเสร็จสิ้นและแท็บเล็ตถึงมือนักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษา 2556” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ส่วนกรณีที่อาจมีการจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมกันให้ครบทุกชั้นปี โดยอาศัยเงินช่วยเหลือ หรือเงินกู้จากต่างประเทศนั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า บอร์ดชุดนี้ไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องดังกล่าว ต้องเป็นการพิจารณาระดับรัฐบาล และเชื่อว่า หากรัฐบาลจะจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมกันทุกชั้นปีจริง คงต้องไปดำเนินการในปี 2557 ไม่สามารถดำเนินการในปี 2556 ทัน ดังนั้น การจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2556 จะดำเนินการไปตามแผนและงบประมาณที่จัดตั้งไว้ก่อน โดยไม่รอ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นก่อนการจัดซื้อนั้น ก็สามารถสั่งยกเลิกการจัดซื้อแท็บเล็ต ป.1 และ ม.1 ไปก่อนเพื่อรอจัดซื้อพร้อมกันได้
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การจัดซื้อแท็บเล็ตจะแบ่งออกตามภาค และจังหวัด เพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง ทั้งนี้ สพฐ.จะไปประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกรมบัญชากลางในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดรายละเอียดในการจัดซื้อ ส่วนของ สพฐ.นั้น จะจัดซื้อทั้งหมด 1,231,704 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 574,826 เครื่อง และ ม.1 จำนวน 656,884 เครื่อง ภายใต้งบประมาณ 4,484 ล้านบาท ซึ่งรวมงบประมาณในการดำเนินการด้านอื่นๆ ด้วย
ด้านนายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ที่ปรึกษา สพฐ.ด้านเทคโนโลยีการสอน กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.ไว้กำหนดสเปกของแท็บเล็ตไว้เบื้องต้นแล้ว ราคากลางจะอยู่ที่ 2,800 บาทต่อเครื่อง เท่ากัน ทั้ง ป.1 และ ม.1 อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงขึ้นจากราคาในการจัดซื้อปี 55 เพราะสเปกสูงขึ้น อาทิเช่น เพิ่มกล้องหน้าและกล้องหลัง จากสเปกเดิมที่ไม่ได้กำหนดให้มีกล้องแต่ได้กล้องหน้าแถมมา ซึ่งคุณภาพยังไม่ดีนัก ทั้งนี้ การมีกล้องจะทำให้สะดวกต่อการสแกนบาร์โคดวิชาในการเรียนการสอนของครู นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มหน่วยความจำ (Ram) จากเดิม 512 MB เป็น 1 กิกะไบต์ และเพิ่มความเร็วจากเดิม 1.2 GHz เป็น 1.5 GHz เป็นต้น แต่ขนาดหน้าจอยังเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม สเปกดังกล่าวต้องนำออกประชาพิจารณาก่อน
อนึ่ง การจัดซื้อแท็บเล็ตจะจัดซื้อให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เป็นหลัก และมีสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ รวมอยู่ด้วยเล็กน้อย ตัวเลขในภาพรวมจะมีการจัดซื้อทั้งหมด 1,688,590 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 848,817 เครื่อง ม.1 จำนวน 839,773 เครื่อง โดยเป็นการจัดซื้อให้สถานศึกษาสังกัด สพฐ.1,231,704 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 574,826 เครื่อง และ ม.1 จำนวน 656,884 เครื่อง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 295,950 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 181,340 เครื่อง ม.1 จำนวน 114,616 เครื่อง สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 105,516 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 50,324 เครื่อง ม.1 จำนวน 55,192 เครื่อง และสังกัด กทม.จำนวน 55,419 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 42,333 เครื่อง ม.1 จำนวน 13,081 เครื่อง
ส่วนวงเงินงบประมาณนั้น ภาพรวม 6,196 ล้านบาท เป็นงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 933 ล้านบาท แยกเป็น อปท.464 ล้านบาท กทม.203 ล้านบาท และเมืองพัทยา 10 ล้านบาท, กระทรวงศึกษาธิการ 5,440 ล้านบาท แยกเป็น สพฐ.4,484 ล้านบาท สช.933 ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (โรงเรียนสาธิต) 27.9 ล้านบาท ส่วนสังกัดอื่นๆ มีงบประมาณ 72 ล้านบาท
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพาต่อ 1 นักเรียน ครั้งที่ 9/2555 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดซื้อแท็บเล็ตประจำปี 2556 ซึ่งจะจัดซื้อทั้งหมดจำนวน 1.69 ล้านเครื่อง เพื่อจัดสรรให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของสถานศึกษาทุกสังกัด ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ (TOR) ในการจัดซื้อและมอบ นายโอฬาร ไชยประวัติ เป็นประธานคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ที่ประชุมเห็นชอบให้แยกการจัดซื้อแท็บเล็ตสำหรับ ป.1 และ ม.1 ออกจากกัน จากเดิมที่เคยกำหนดให้จัดซื้อรวมกัน แต่เพราะจำนวนแท็บเล็ตของนักเรียนแต่ละระดับชั้น มีจำนวนกว่า 8 แสนเครื่อง จึงให้แบ่งการจัดซื้อออกเป็นระดับชั้นๆ ละ 2 กอง รวมทั้งหมด 4 กอง และให้เปิดประมูลผ่านระบบ อี-ออกชัน (E-Auction) อย่างต่อเนื่องให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันเดียวกัน โดยเปิดโอกาสให้บริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมการประกวดราคาได้
“การแยกประมูลจัดซื้อเป็น 4 กองนั้น จะจูงใจให้บริษัทต่างๆ สนใจเข้าร่วมการประมูล ทำให้เกิดการแข่งขัน จนได้ราคาจัดซื้อที่ดีสุด ศธ.เองก็มีราคาอ้างอิงจากการจัดซื้อในปีนี้อยู่แล้ว อยู่ที่ 2,470 บาทต่อเครื่อง เพราะฉะนั้น การจัดซื้อในปี 2556 ควรจะได้ราคาที่ต่ำกว่านี้ ทั้งนี้ ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปทำปฏิทินในการดำเนินการมา แต่โดยสรุปการจัดซื้อต้องเสร็จสิ้นและแท็บเล็ตถึงมือนักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษา 2556” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ส่วนกรณีที่อาจมีการจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมกันให้ครบทุกชั้นปี โดยอาศัยเงินช่วยเหลือ หรือเงินกู้จากต่างประเทศนั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า บอร์ดชุดนี้ไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องดังกล่าว ต้องเป็นการพิจารณาระดับรัฐบาล และเชื่อว่า หากรัฐบาลจะจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมกันทุกชั้นปีจริง คงต้องไปดำเนินการในปี 2557 ไม่สามารถดำเนินการในปี 2556 ทัน ดังนั้น การจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2556 จะดำเนินการไปตามแผนและงบประมาณที่จัดตั้งไว้ก่อน โดยไม่รอ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นก่อนการจัดซื้อนั้น ก็สามารถสั่งยกเลิกการจัดซื้อแท็บเล็ต ป.1 และ ม.1 ไปก่อนเพื่อรอจัดซื้อพร้อมกันได้
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การจัดซื้อแท็บเล็ตจะแบ่งออกตามภาค และจังหวัด เพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง ทั้งนี้ สพฐ.จะไปประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกรมบัญชากลางในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดรายละเอียดในการจัดซื้อ ส่วนของ สพฐ.นั้น จะจัดซื้อทั้งหมด 1,231,704 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 574,826 เครื่อง และ ม.1 จำนวน 656,884 เครื่อง ภายใต้งบประมาณ 4,484 ล้านบาท ซึ่งรวมงบประมาณในการดำเนินการด้านอื่นๆ ด้วย
ด้านนายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ที่ปรึกษา สพฐ.ด้านเทคโนโลยีการสอน กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.ไว้กำหนดสเปกของแท็บเล็ตไว้เบื้องต้นแล้ว ราคากลางจะอยู่ที่ 2,800 บาทต่อเครื่อง เท่ากัน ทั้ง ป.1 และ ม.1 อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงขึ้นจากราคาในการจัดซื้อปี 55 เพราะสเปกสูงขึ้น อาทิเช่น เพิ่มกล้องหน้าและกล้องหลัง จากสเปกเดิมที่ไม่ได้กำหนดให้มีกล้องแต่ได้กล้องหน้าแถมมา ซึ่งคุณภาพยังไม่ดีนัก ทั้งนี้ การมีกล้องจะทำให้สะดวกต่อการสแกนบาร์โคดวิชาในการเรียนการสอนของครู นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มหน่วยความจำ (Ram) จากเดิม 512 MB เป็น 1 กิกะไบต์ และเพิ่มความเร็วจากเดิม 1.2 GHz เป็น 1.5 GHz เป็นต้น แต่ขนาดหน้าจอยังเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม สเปกดังกล่าวต้องนำออกประชาพิจารณาก่อน
อนึ่ง การจัดซื้อแท็บเล็ตจะจัดซื้อให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เป็นหลัก และมีสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ รวมอยู่ด้วยเล็กน้อย ตัวเลขในภาพรวมจะมีการจัดซื้อทั้งหมด 1,688,590 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 848,817 เครื่อง ม.1 จำนวน 839,773 เครื่อง โดยเป็นการจัดซื้อให้สถานศึกษาสังกัด สพฐ.1,231,704 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 574,826 เครื่อง และ ม.1 จำนวน 656,884 เครื่อง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 295,950 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 181,340 เครื่อง ม.1 จำนวน 114,616 เครื่อง สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 105,516 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 50,324 เครื่อง ม.1 จำนวน 55,192 เครื่อง และสังกัด กทม.จำนวน 55,419 เครื่อง แยกเป็น ป.1 จำนวน 42,333 เครื่อง ม.1 จำนวน 13,081 เครื่อง
ส่วนวงเงินงบประมาณนั้น ภาพรวม 6,196 ล้านบาท เป็นงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 933 ล้านบาท แยกเป็น อปท.464 ล้านบาท กทม.203 ล้านบาท และเมืองพัทยา 10 ล้านบาท, กระทรวงศึกษาธิการ 5,440 ล้านบาท แยกเป็น สพฐ.4,484 ล้านบาท สช.933 ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (โรงเรียนสาธิต) 27.9 ล้านบาท ส่วนสังกัดอื่นๆ มีงบประมาณ 72 ล้านบาท
