กรมควบคุมโรค ประกาศเตือน 7 โรคอันตรายฤดูหนาว พบปี 2554 ป่วยท้องร่วงเฉียบพลันมากสุดกว่า 3 แสนราย แนะทำให้คอและหูอุ่นอยู่เสมอ หากขาดแคลนเสื้อกันหนาว สามารถตัดถุงพลาสติกทำเสื้อกันหนาวใช้แทนได้
วันนี้ (31 ต.ค.) นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โรคที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาวมี 7 โรค ได้แก่ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส โรคมือ เท้า ปาก และโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา คร.เมื่อ ต.ค.-ธ.ค.2554 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยทั้ง 7 โรค ป่วยมากสุด คือ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน 311,415 ราย รองลงมา คือ โรคปอดบวม 46,174 ราย โรคไข้หวัดใหญ่ 10,621 ราย โรคสุกใส 8,884 ราย โรคมือ เท้า ปาก 4,114 ราย โรคหัด 1,110 ราย และโรคหัดเยอรมัน 129 ราย ตามลำดับ
“ขณะนี้ คร.ได้ทำประกาศแจ้งเตือนให้ระวังโรคจากภัยหนาวส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต เพื่อเตรียมภารกิจในการดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบภัยหนาว ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ของโรคในพื้นที่ประสบภัยหนาว 2.การควบคุมโรค ในกรณีถ้ามีการระบาดของโรคติดต่อ กรมควบคุมโรคมีทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) เข้าไปดำเนินการสอบสวน ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ และ 3.การสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ความรู้แก่ประชาชน โดยเน้นประชาชนใน 3 กลุ่มเสี่ยง คือ 1.กลุ่มเด็กที่มีอายุตํ่ากว่า 5 ปี 2.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และ 3.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต และโรคโลหิตจาง” รองอธิบดี คร.กล่าว
นพ.นพพร กล่าวอีกว่า การป้องกันตนเองจากภัยหนาว ประชาชนต้องสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย หากอากาศเย็นลงอย่างต่อเนื่องหรืออุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ควรสวมเสื้อผ้าหนาหรือหลายๆ ชั้น ผ้าพันคอ หมวก และถุงเท้า การทำให้คอและหูอุ่นเป็นการเก็บอุณหภูมิในร่างกาย สำหรับพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนเสื้อกันหนาว สามารถนำถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาตัดเป็นเสื้อกันหนาวอย่างง่ายได้ เนื่องจากพลาสติกมีคุณสมบัติกันลมและเก็บความร้อนจากร่างกายได้ โดยต้องสวมอยู่ระหว่างเสื้อผ้ากับเสื้อกันหนาว ที่สำคัญ ถุงพลาสติกต้องสะอาด ไม่เปียกน้ำ และมีความหนาพอสมควร หากบางมากอาจขาดได้ง่าย
วันนี้ (31 ต.ค.) นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โรคที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาวมี 7 โรค ได้แก่ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส โรคมือ เท้า ปาก และโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา คร.เมื่อ ต.ค.-ธ.ค.2554 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยทั้ง 7 โรค ป่วยมากสุด คือ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน 311,415 ราย รองลงมา คือ โรคปอดบวม 46,174 ราย โรคไข้หวัดใหญ่ 10,621 ราย โรคสุกใส 8,884 ราย โรคมือ เท้า ปาก 4,114 ราย โรคหัด 1,110 ราย และโรคหัดเยอรมัน 129 ราย ตามลำดับ
“ขณะนี้ คร.ได้ทำประกาศแจ้งเตือนให้ระวังโรคจากภัยหนาวส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต เพื่อเตรียมภารกิจในการดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบภัยหนาว ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ของโรคในพื้นที่ประสบภัยหนาว 2.การควบคุมโรค ในกรณีถ้ามีการระบาดของโรคติดต่อ กรมควบคุมโรคมีทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) เข้าไปดำเนินการสอบสวน ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ และ 3.การสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ความรู้แก่ประชาชน โดยเน้นประชาชนใน 3 กลุ่มเสี่ยง คือ 1.กลุ่มเด็กที่มีอายุตํ่ากว่า 5 ปี 2.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และ 3.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต และโรคโลหิตจาง” รองอธิบดี คร.กล่าว
นพ.นพพร กล่าวอีกว่า การป้องกันตนเองจากภัยหนาว ประชาชนต้องสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย หากอากาศเย็นลงอย่างต่อเนื่องหรืออุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ควรสวมเสื้อผ้าหนาหรือหลายๆ ชั้น ผ้าพันคอ หมวก และถุงเท้า การทำให้คอและหูอุ่นเป็นการเก็บอุณหภูมิในร่างกาย สำหรับพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนเสื้อกันหนาว สามารถนำถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาตัดเป็นเสื้อกันหนาวอย่างง่ายได้ เนื่องจากพลาสติกมีคุณสมบัติกันลมและเก็บความร้อนจากร่างกายได้ โดยต้องสวมอยู่ระหว่างเสื้อผ้ากับเสื้อกันหนาว ที่สำคัญ ถุงพลาสติกต้องสะอาด ไม่เปียกน้ำ และมีความหนาพอสมควร หากบางมากอาจขาดได้ง่าย
