xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจพบ ปชช.พอใจการทำงาน กทม.มากขึ้น แนะเร่งแก้จราจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กทม.เผยผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในการบริหารงานของ กทม.อยู่ในระดับพึงพอใจค่อนข้างมาก ขณะที่ประชาชนยังคงต้องการให้ กทม.แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอันดับแรก

นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ที่มีต่อการบริหารงานตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2555 ซึ่งได้ทำการสำรวจเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงระหว่างวันที่ 25 ก.ค. - 10 ส.ค.2555 หลังจากได้ทำการสำรวจครั้งแรกไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ.2555 โดยทำการสอบถามจากชาวกรุงเทพฯ จำนวน 10,243 คน จากทุกเขตกระจายตามประเภทที่อยู่อาศัย ได้แก่ หมู่บ้านจัดสรร/บ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ ตึกแถว/อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม/แฟลต และชุมชนแออัด ปรากฏว่า ชาวกรุงเทพฯ มีความพึงพอใจต่อการบริหารงานตามนโยบายของกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับ “พึงพอใจค่อนข้างมาก” ซึ่งมีความพึงพอใจโดยรวมเฉลี่ยเท่ากับ 3.01 จาก 4.00 คิดเป็นร้อยละ 75.25 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งแรกเมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่มีความพึงพอใจโดยรวมคิดเฉลี่ยเป็นร้อยละ 73.50

สำหรับบริการ/โครงการที่ชาวกรุงเทพฯ พึงพอใจมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.การปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้รู้จักประหยัด อดออม และอยู่อย่างพอเพียง 2.การส่งเสริมให้พ่อแม่ได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการการเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพโดยจัดโครงการ “ห้องเรียนพ่อแม่” 3.การส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ มีนิสัยรักการอ่าน โดยร่วมกับสำนักพิมพ์จาก 78 แห่ง 4. การพัฒนาโรงเรียนในสังกัด กทม.ให้มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับเครือข่าย เช่น ร.รสาธิต มศว ประสานมิตร และปทุมวัน ร.ร.สาธิตเกษตรฯ ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนให้เป็นที่ยอมรับ ตลอดจนการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ห้องสมุดเคลื่อนที่ และพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครให้มีศูนย์เรียนรู้นอกห้องเรียน และ 5.การจัดหลักสูตร “โตไปไม่โกง” เป็นการปลูกฝังคุณลักษณะด้านความซื่อสัตย์แก่ผู้เรียน ซึ่งมีความจำเป็นต่อสังคมในปัจจุบัน โดย 5 เขต ที่ประชาชนพึงพอใจต่อการบริหารงานตามนโยบายของ กทม.เรียงตามลำดับ คือ เขตวังทองหลาง เขตคันนายาว เขตทุ่งครุ เขตปทุมวัน และเขตคลองเตย

โครงการที่ชาวกรุงเทพฯ เห็นผลงานเป็นรูปธรรมมากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ อันดับที่ 1 การส่งเสริมและปรับปรุงลานกีฬาให้เป็นศูนย์กีฬาชุมชนที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์ อันดับที่ 2 การพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่โดยดูแลรักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง อันดับที่ 3 การจัดหลักสูตร “โตไปไม่โกง” เป็นการปลูกฝังคุณลักษณะด้านความซื่อสัตย์แก่ผู้เรียน ซึ่งมีความจำเป็นต่อสังคมในปัจจุบัน อันดับที่ 4 การปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้รู้จักประหยัด อดออม และอยู่อย่างพอเพียง และอันดับที่ 5 การติดตั้งสัญญาณไฟจราจรคนข้ามถนนอัจฉริยะและการติดตั้งไฟนับถอยหลังตามแยกมีส่วนช่วยในการจัดการจราจร และการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน การปลุกกระแสเยาวชนให้ห่างไกลแอลกอฮอล์และยาเสพติด การดูแลผู้สูงอายุและคนพิการโดยการจ่ายเบี้ยยังชีพและเบี้ยความพิการ

ส่วนปัญหาที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องการให้ กทม.แก้ไขมากที่สุดเรียงตามลำดับ 5 ลำดับแรก คือ ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาขยะ กลิ่นเหม็น การเก็บขยะไม่ทั่วถึง ปัญหาการพนัน และยาเสพติด ปัญหาเรื่องขโมย อาชญากรรม การเตือนภัย การทะเลาะวิวาท และปัญหาเรื่องน้ำท่วมและการจัดการ

นอกจากนี้ ชาวกรุงเทพฯ ยังมีข้อเสนอแนะในการเตรียมการป้องกันและบรรเทาน้ำท่วมในปีนี้ มากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ ควรมีการขุดลอกคูคลองทุกแห่งเพื่อเป็นทางระบายน้ำ ควรมีการสร้างแนวป้องกันน้ำ คันกั้นน้ำ และเขื่อน เพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันสถานที่ที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ทางประวัติศาสตร์ฯ และซ่อมประตูระบายน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ควรเตรียมความพร้อม และวางแผนป้องกันน้ำท่วมไว้ล่วงหน้านานๆ ควรสร้างอุโมงค์ยักษ์ วางท่อระบายน้ำ เพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้การระบายน้ำเร็วขึ้น และควรจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำ และพัฒนาระบบการจัดการน้ำของกทม. อย่างเป็นรูปธรรมและสามารถส่งสัญญาณเตือนภัยน้ำท่วมแก่ชาวกรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา

และยังเห็นว่า กทม.ควรมีการปรับปรุงเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพฯให้น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำความสะอาดสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะการกำจัดขยะ หนู และแมลงสาบ ปรับปรุงถนนและระบบการจราจรเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวง ทำร้าย และก่ออาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และเพิ่มจำนวนตำรวจท่องเที่ยวให้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น