“สุขุมพันธุ์” ยันอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 ทำงานเต็มที่ ชี้ จะแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งเมือง ต้องอุโมงค์ยักษ์ทั้งระบบ วอนคนไม่รู้จริงอย่าพูด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจการทำงานอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ หรืออุโมงค์ยักษ์พระราม 9-รามคำแหง ของอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 ว่า อุโมงค์แห่งนี้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยรับน้ำมาจากคลองลาดพร้าว และคลองแสนแสบ ทำหน้าที่ระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตบึงกุ่ม ห้วยขวาง ลาดพร้าว วังทองหลาง บางกะปิ จตุจักร มีนบุรี บางซื่อ สะพานสูง และ คันนายาว เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอุโมงค์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร ขณะนี้ได้เปิดเดินเครื่องสูบน้ำ 3 ตัว จากที่มี 4 ตัว สามารถระบายน้ำได้ 45 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ซึ่งเมื่อคืนนี้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร กทม.จึงได้เปิดเครื่องสูบน้ำทั้ง 4 เครื่อง เมื่อน้ำลดจึงได้เปิด 3 เครื่อง ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ใช้เพียงสามัญสำนึกก็พอ เพราะจากที่เห็นน้ำไหลเชี่ยวมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่่ามีอะไรที่ดึงน้ำอยู่ ซึ่งก็คือเครื่องสูบน้ำที่อยู่ปลายอุโมงค์ยักษ์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม พบขยะไหลมาตามน้ำวันละ 20 ตัน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ เนื่องจากมีตะแกรงกรองขยะก่อนจะระบายน้ำออกไป แต่อุโมงค์ยักษ์แห่งนี้ ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งเมืองได้ ต้องใช้ระบบอุโมงค์ยักษ์ทั้งระบบ เนื่องจากมีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) เท่านั้น ในขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ มีกว่า 1,600 ตร.กม.กทม.จึงมีแผนจะก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ ที่คลองบางซื่อ บึงหนองบอน และ ดอนเมือง เพื่อระบายน้ำออกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะทำให้การทำงานของอุโมงค์เต็มประสิทธิภาพทั้งระบบ และสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งพระนครได้เกือบหมด
“ผมขอฝากถึงผู้วิพากษวิจารณ์การทำงานของ กทม.ด้วยว่า อย่าเอาการเมืองเข้ามาแทรกแซง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการประจำทำงานด้านเทคนิค ที่ผ่านมา กทม.ได้ประสานงานกับกรมชลประทาน ขอให้เพิ่มเครื่องสูบน้ำที่บางปะกงและปากอ่าวไทย ซึ่งกรมชลฯ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนกองบังคับการตำรวจจราจร ก็ประสานงานจราจรด้วยดีเช่นกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงขอให้ยอมรับการทำงานของข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ด้วย พวกเขาทำงานกันอย่างเต็มที่ ในขณะที่คนอื่นได้นอนแต่พวกเขายังอยู่ตามผิวจราจร ติผมได้ด่าผมได้ แต่อย่ามาว่าพวกเขา ผมอดกลั้นมานานแล้ว กับคนที่อยู่แต่ในห้องแอร์ ไม่รู้ไม่เห็นอะไร แล้วเที่ยวมาว่าคนอื่น” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นักวิชาการแนะให้ กทม.พร่องน้ำในคลอง เพื่อรับมือฝนตกหนักปลายเดือนนี้ จนถึงต้นเดือนตุลาคมนั้น กทม.ไม่สามารถทำได้ เพราะเท่่ากับต้องปิดประตูระบายน้ำของตนเอง แล้วเร่งสูบน้ำออก แต่ กทม.ยังยังต้องเปิดประตูระบายน้ำเพื่อช่วยจังหวัดทางด้านบนระบายน้ำออกทะเล สำหรับการขยายท่อระบายน้ำนั้น พูดง่ายแต่ทำยาก ต้องใช้งบประมาณมหาศาล แต่เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องมีการพัฒนาแน่นอน อย่างไรก็ตามขนาดท่อที่รองรับปริมาณน้ำ 60 มิลลิเตตรที่ใช้อยู่นี้ ก็เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่หลายเมืองทั่วโลกใช้กัน