xs
xsm
sm
md
lg

ไอเดีย! ผลิต อสม.สู้ศึก “มะเร็งตับ-ท่อน้ำดี” ภาคอีสาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เดินหน้าผลิต อสม.เต็มสูบ สู้ศึกโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน เน้นตรวจคัดกรองและรณรงค์เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน พร้อมเปิดรักษาฟรีใน 15 รพ.เทิดพระเกียรติในหลวง พระราชินี

วันนี้ (24 ก.ย.) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดโครงการรณรงค์คนร้อยเอ็ดแท้กินแต่ปลาสุก และอบรมพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)เป็น อสม.เชี่ยวชาญการป้องกันและคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีของจังหวัดร้อยเอ็ด ตามยุทธศาสตร์กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี วาระคนอีสาน ว่า ขณะนี้โครงการลดป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ำดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความคืบหน้ามาก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม.โครงการนี้จะเน้นการตรวจคัดกรองหาผู้ป่วย การรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชาชนภาคอีสานและการผ่าตัดรักษาฟรีในโรงพยาบาล (รพ.) 15 แห่ง ในโครงการประชาร่วมใจสร้างสุขอนามัยห่างไกลมะเร็งท่อน้ำดีในตับร้ายเทิดไท้องค์ราชัน-มหาราชินี-พระบรมฯเพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ 60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2555 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ตั้งเป้าผ่าตัดจำนวน 224 ราย

นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญในการลดการเสียชีวิตของประชาชนจากโรคมะเร็งชนิดนี้ จะต้องค้นหาผู้ป่วยและรักษาให้เร็วที่สุด โดยกระทรวงสาธารณสุขจะอบรมอสม.ใน 20 จังหวัดภาคอีสานให้เป็น อสม.เชี่ยวชาญด้านคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี จังหวัดละ 1,700 คน เริ่มแห่งแรกที่ร้อยเอ็ด อสม.ที่ผ่านการอบรมแล้วจะออกค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงในหมู่บ้านต่างๆ จากนั้นจะส่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงพบเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจวินิจฉัยในขั้นสูงและรักษาอย่างรวดเร็ว การรักษาตั้งแต่เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลาม จะมีโอกาสหายขาดและรอดชีวิตสูง ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาผู้ป่วยมักมาพบแพทย์เมื่อเซลล์มะเร็งกระจายไปที่อื่นแล้ว ทำให้การรักษาไม่ได้ผล แต่ละปีคนอีสานจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีมากถึง 10,628 ราย เฉลี่ยวันละ 30 ราย

“ส่วนการป้องกันโรค จะเน้นหนักที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของประชาชนให้เลิกกินปลาร้าดิบ เลิกกินปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด แบบสุกๆ ดิบๆ เพราะปลาจำพวกนี้จะมีไข่พยาธิใบไม้ตับอยู่ตามเกล็ดปลา ส่วนในปลาร้าดิบจะมีสารก่อมะเร็ง โดยได้เสนอกระทรวงศึกษาธิการให้บรรจุเรื่องความรู้และการป้องกันโรคมะเร็งทั้ง 2 ชนิด ในหลักสูตรการเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ทั่วประเทศจะทำให้การป้องกันโรคได้ผลยิ่งขึ้น” รมช.สาธารณสุข กล่าว

ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ นายแพทย์ สสจ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีมี 5 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่เป็นชาวอีสานแต่กำเนิด ผู้ที่ตรวจพบไข่พยาธิใบไม้ตับในอุจจาระผู้ที่มีถิ่นฐานบ้านเรือนใกล้ริมแม่น้ำ ลำคลอง ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีประวัติมีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งตับหาก อสม.เชี่ยวชาญพบว่ามีความเสี่ยงจะเป็น จะส่งตัวไปตรวจอัลตราซาวนด์ และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลชุมชน เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยโรคโดยเร็ว และส่งผ่าตัดรักษาได้ทันเวลาใน รพ.15 แห่ง ได้แก่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รพ.ขอนแก่น รพ.อุดรธานี รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.สกลนคร รพ.ร้อยเอ็ด รพ.สุรินทร์ รพ.ราชวิถี รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช รพ.จุฬาภรณ์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และ รพ.หาดใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น