พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จเปิดการประชุม พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (10 ก.ย.) พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 7 ประจำปี 2555 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2555
จัดโดยคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับแก้วกัลยาสิกขาลัย สถาบันพระบรมราชชนก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายชมรมจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุข จากทั่วประเทศ มีบุคลากรทั่วประเทศร่วมประชุมประมาณ 1,500 คน โดยมี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต คณะกรรมการผู้จัดงาน ผู้บริหาร และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ
นายวิทยา กราบทูลรายงานว่า การจัดประชุมครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของการสนับสนุนให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี เป็นผู้ให้บริการประชาชนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์มีความสุขจากการให้ มองสภาพปัญหาสังคมด้วยใจที่มีสติพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ในปีนี้เน้นหัวข้อ “รวมพลังสามัคคีทำดีเพื่อแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีพระดำรัสในการเปิดประชุม ว่า การที่บุคคลจะสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตได้นั้น มิใช่จะอาศัยวิชาความรู้ที่ศึกษาเล่าเรียนมาเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมเป็นเครื่องสนับสนุนส่งเสริมด้วย เนื่องจากคุณธรรมจริยธรรมนี้ เป็นหลักคำสอนอันเป็นข้อประพฤติปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท จึงเป็นที่น่าชื่นชมที่กระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีการประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยปลูกจิตศรัทธาและสำนึกในคุณธรรมจริยธรรมให้แก่บุคลากรสาธารณสุข อันจะทำให้องค์กรมีวัฒนธรรมที่ดีมีศักยภาพยิ่งขึ้นในการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพ
ในการนี้ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ทรงประทานโล่รางวัลแก่บุคคลผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ปภัสสร เจียมบุญศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม กระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์ สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก ประทานโล่รางวัลคนดีศรีสาธารณสุข จำนวน 56 ราย และโล่รางวัลหน่วยงานที่มีผลการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น จำนวน 73 หน่วยงาน
อนึ่ง ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีชมรมจริยธรรมทั่วประเทศกว่า 886 ชมรม ในส่วนของประชาชน ได้จัดทำโครงการจิตอาสาในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กๆ เพื่อดึงวัฒนธรรมสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อห่วงใยกัน มาดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยในโรงพยาบาล ตามศักยภาพและความชอบที่จะช่วยได้ เช่น ช่วยพับผ้า เล่นดนตรีช่วยคลายเครียด เยี่ยมผู้ป่วยสูงอายุ ดูแลกลุ่มเบาหวานที่มาตรวจในโรงพยาบาล เล่านิทานเด็ก การเปิดพื้นที่ทำนาปลอดสารพิษในรั้วโรงพยาบาล เป็นกุศโลบายการสร้างเยาวชนคน
รุ่นหลังสืบทอดวัฒนธรรมไทย เป็นผู้มีความเมตตา มีจิตใจอ่อนโยนและมีความเสียสละ ช่วยเหลือสังคมต่อไป
วันนี้ (10 ก.ย.) พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 7 ประจำปี 2555 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2555
จัดโดยคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับแก้วกัลยาสิกขาลัย สถาบันพระบรมราชชนก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายชมรมจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุข จากทั่วประเทศ มีบุคลากรทั่วประเทศร่วมประชุมประมาณ 1,500 คน โดยมี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต คณะกรรมการผู้จัดงาน ผู้บริหาร และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ
นายวิทยา กราบทูลรายงานว่า การจัดประชุมครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของการสนับสนุนให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี เป็นผู้ให้บริการประชาชนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์มีความสุขจากการให้ มองสภาพปัญหาสังคมด้วยใจที่มีสติพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ในปีนี้เน้นหัวข้อ “รวมพลังสามัคคีทำดีเพื่อแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีพระดำรัสในการเปิดประชุม ว่า การที่บุคคลจะสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตได้นั้น มิใช่จะอาศัยวิชาความรู้ที่ศึกษาเล่าเรียนมาเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมเป็นเครื่องสนับสนุนส่งเสริมด้วย เนื่องจากคุณธรรมจริยธรรมนี้ เป็นหลักคำสอนอันเป็นข้อประพฤติปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท จึงเป็นที่น่าชื่นชมที่กระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีการประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยปลูกจิตศรัทธาและสำนึกในคุณธรรมจริยธรรมให้แก่บุคลากรสาธารณสุข อันจะทำให้องค์กรมีวัฒนธรรมที่ดีมีศักยภาพยิ่งขึ้นในการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพ
ในการนี้ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ทรงประทานโล่รางวัลแก่บุคคลผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ปภัสสร เจียมบุญศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม กระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์ สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก ประทานโล่รางวัลคนดีศรีสาธารณสุข จำนวน 56 ราย และโล่รางวัลหน่วยงานที่มีผลการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น จำนวน 73 หน่วยงาน
อนึ่ง ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีชมรมจริยธรรมทั่วประเทศกว่า 886 ชมรม ในส่วนของประชาชน ได้จัดทำโครงการจิตอาสาในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กๆ เพื่อดึงวัฒนธรรมสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อห่วงใยกัน มาดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยในโรงพยาบาล ตามศักยภาพและความชอบที่จะช่วยได้ เช่น ช่วยพับผ้า เล่นดนตรีช่วยคลายเครียด เยี่ยมผู้ป่วยสูงอายุ ดูแลกลุ่มเบาหวานที่มาตรวจในโรงพยาบาล เล่านิทานเด็ก การเปิดพื้นที่ทำนาปลอดสารพิษในรั้วโรงพยาบาล เป็นกุศโลบายการสร้างเยาวชนคน
รุ่นหลังสืบทอดวัฒนธรรมไทย เป็นผู้มีความเมตตา มีจิตใจอ่อนโยนและมีความเสียสละ ช่วยเหลือสังคมต่อไป
