พัทลุง-พัทลุงเปิดตลาดเกษตรสีเขียว ชูจุดแข็งเมืองดิน-น้ำ-อากาศดี พัฒนาภาคการเกษตรผลิตอาหารคุณภาพและปลอดภัยสู้ศึก AEC เชื่อ 5 ปีจากนี้ธุรกิจภาคเกษตรปลอดสารพิษรุ่งเรือง ย้ำคนในอนาคตห่วงสุขภาพเป็นสำคัญ
ว่าที่ร้อยตรีสมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวในโอกาสงานเปิดตลาดนัดทางเลือกคนเมืองลุง หรือตลาดนัดสีเขียว ตามโครงการสร้างสุขสู่เมืองลุงน่าอยู่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. ณ สวนสาธารณะคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อเร็วๆนี้ ว่า การเปิดตลาดนัดทางเลือกทำให้เกิดตลาดการบริโภคของผู้คนในเมืองพัทลุง ซึ่งสอดคล้องกับโครงการยุทธศาสตร์ของจังหวัด เพราะวิสัยทัศน์ของพัทลุงเป็นเมืองเกษตรยั่งยืน เมืองวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ เป็นเมืองศิลปินและเมืองแห่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
การเปิดตลาดนัดสีเขียวที่เหมาะสมที่สุด คือการเริ่มต้นเปิดในใจของพี่น้องประชาชน เพื่อให้สามารถนำสินค้าทางการเกษตร ที่พี่น้องชาวพัทลุงเป็นผู้ปลูก ด้วยกระบวนการดูแลสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยเข้าสู่ตลาดได้
พัทลุงมีผลิตผลที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศ คือ ข้าวสังข์หยด เป็นข้าวพื้นบ้านของชาวพัทลุง ที่ปลูกตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และมีพืชผักสีเขียวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ให้เกิดการทำงานในเรื่องของพืชเกษตรอินทรีย์สีเขียวในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เกิดการกระตุ้น ให้มีการดูแลการผลิตและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนการบูรณาการโดยเอาพื้นที่เป็นตัวตั้งระดับจังหวัด สสส. กล่าวว่า การได้เข้ามามีส่วนในการสนับสนุนในเรื่องของการสร้างสุขฯ ซึ่งเป็นบทบาทของ สสส.ในการจุดประกายที่ดี เราอยากเห็นความสุขของคนเมืองพัทลุงเกิดขึ้นจากใจ
ดังนั้น ตลาดนัดทางเลือกหรือตลาดนัดสีเขียวนี้ ถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวพัทลุง ทั้งผู้ผลิตซึ่งมีความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภคที่สนใจในการดูแลสุขภาพ และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนทั้งสินค้าและองค์ความรู้ ฉะนั้น ตลาดนัดทางเลือกจึงเป็นมากกว่าตลาดนัดโดยทั่วไป แต่เป็นพื้นที่สาธารณะแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน โดยคาดหวังว่าพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อเสนอและนโยบายไปขับเคลื่อนต่อ เพื่อสร้างสุขสู่เมืองลุงน่าอยู่ให้เป็นรูปธรรมต่อไป
ด้านนายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ ผู้รับผิดชอบโครงการสร้างสุขเมืองลุงน่าอยู่ กล่าวว่า การเปิดตลาดนัดสีเขียวถือเป็นการประกาศศักยภาพของชาวพัทลุงที่แท้จริง เพราะพัทลุงเป็นเมืองที่มีดินดี น้ำดี อากาศดี และมีประชาชนที่เข้าใจการเกษตรดี ฉะนั้น การที่ภาคประชาชนภายใต้การนำของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส.ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้ทำกิจกรรมนี้ เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ในขณะที่ปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ก็ไม่อยากให้ตกใจ และดีใจกับการที่เราจะเป็นประชาคมอาเซียนมากนัก แต่สิ่งที่เราควรดีใจคือการปกป้องผืนดินในจังหวัดพัทลุง ปกป้องประเทศไทย ให้เป็นเมืองแห่งการเกษตร
“ผมเองมีความเชื่อว่าคนเรานั้นถ้าจะมีความมั่นคงที่แท้จริงต้องมีอาหารที่สมบูรณ์ มีอาหารที่มีคุณภาพ มีอาหารที่ปลอดภัย ฉะนั้น ประเทศไทยของเรามีความพร้อมที่จะผลิตอาหาร และผมก็ต้องการเห็นคุณภาพของคนในประเทศไทย คนในจังหวัดพัทลุงมีความพร้อมในการดูแลเรื่องอาหาร และเชื่อว่าธุรกิจทั้งหมดภายใน 5 ปีข้างหน้านั้น ธุรกิจเกี่ยวกับการกิน การบริโภค จะมีรายได้สูง และโดยเฉพาะธุรกิจของการเกษตรที่ปลอดสารพิษ เพราะคนในอนาคตจะกลัวสารพิษ กลัวในสิ่งที่จะทำให้สุขภาพร่างกายไม่ดี
ดังนั้น คนที่ทำการศึกษา ค้นคว้าก็จะรักสุขภาพร่างกายมากขึ้น วันนี้เราลุกขึ้นมาเพื่อจะทำเรื่องการเกษตรให้เข้มแข็ง นั่นคือทำให้เกษตรของเรานั้นปลอดสารพิษ ขณะเดียวกันนอกเหนือจากการผลิตแล้ว เราต้องทำให้กิจกรรมสหกรณ์ของการเกษตรพัทลุงแข็งแรงขึ้นคือทำให้เกิดผลกำไร อย่างน้อยโครงการไร่ละหนึ่งแสน สองแสน ต้องเกิดขึ้นในอนาคตจากการที่เขาทำเกษตรในสิ่งที่ดีงาม” นายโกสินทร์ กล่าว
ว่าที่ร้อยตรีสมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวในโอกาสงานเปิดตลาดนัดทางเลือกคนเมืองลุง หรือตลาดนัดสีเขียว ตามโครงการสร้างสุขสู่เมืองลุงน่าอยู่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. ณ สวนสาธารณะคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อเร็วๆนี้ ว่า การเปิดตลาดนัดทางเลือกทำให้เกิดตลาดการบริโภคของผู้คนในเมืองพัทลุง ซึ่งสอดคล้องกับโครงการยุทธศาสตร์ของจังหวัด เพราะวิสัยทัศน์ของพัทลุงเป็นเมืองเกษตรยั่งยืน เมืองวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ เป็นเมืองศิลปินและเมืองแห่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
การเปิดตลาดนัดสีเขียวที่เหมาะสมที่สุด คือการเริ่มต้นเปิดในใจของพี่น้องประชาชน เพื่อให้สามารถนำสินค้าทางการเกษตร ที่พี่น้องชาวพัทลุงเป็นผู้ปลูก ด้วยกระบวนการดูแลสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยเข้าสู่ตลาดได้
พัทลุงมีผลิตผลที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศ คือ ข้าวสังข์หยด เป็นข้าวพื้นบ้านของชาวพัทลุง ที่ปลูกตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และมีพืชผักสีเขียวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ให้เกิดการทำงานในเรื่องของพืชเกษตรอินทรีย์สีเขียวในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เกิดการกระตุ้น ให้มีการดูแลการผลิตและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนการบูรณาการโดยเอาพื้นที่เป็นตัวตั้งระดับจังหวัด สสส. กล่าวว่า การได้เข้ามามีส่วนในการสนับสนุนในเรื่องของการสร้างสุขฯ ซึ่งเป็นบทบาทของ สสส.ในการจุดประกายที่ดี เราอยากเห็นความสุขของคนเมืองพัทลุงเกิดขึ้นจากใจ
ดังนั้น ตลาดนัดทางเลือกหรือตลาดนัดสีเขียวนี้ ถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวพัทลุง ทั้งผู้ผลิตซึ่งมีความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภคที่สนใจในการดูแลสุขภาพ และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนทั้งสินค้าและองค์ความรู้ ฉะนั้น ตลาดนัดทางเลือกจึงเป็นมากกว่าตลาดนัดโดยทั่วไป แต่เป็นพื้นที่สาธารณะแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน โดยคาดหวังว่าพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อเสนอและนโยบายไปขับเคลื่อนต่อ เพื่อสร้างสุขสู่เมืองลุงน่าอยู่ให้เป็นรูปธรรมต่อไป
ด้านนายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ ผู้รับผิดชอบโครงการสร้างสุขเมืองลุงน่าอยู่ กล่าวว่า การเปิดตลาดนัดสีเขียวถือเป็นการประกาศศักยภาพของชาวพัทลุงที่แท้จริง เพราะพัทลุงเป็นเมืองที่มีดินดี น้ำดี อากาศดี และมีประชาชนที่เข้าใจการเกษตรดี ฉะนั้น การที่ภาคประชาชนภายใต้การนำของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส.ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้ทำกิจกรรมนี้ เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ในขณะที่ปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ก็ไม่อยากให้ตกใจ และดีใจกับการที่เราจะเป็นประชาคมอาเซียนมากนัก แต่สิ่งที่เราควรดีใจคือการปกป้องผืนดินในจังหวัดพัทลุง ปกป้องประเทศไทย ให้เป็นเมืองแห่งการเกษตร
“ผมเองมีความเชื่อว่าคนเรานั้นถ้าจะมีความมั่นคงที่แท้จริงต้องมีอาหารที่สมบูรณ์ มีอาหารที่มีคุณภาพ มีอาหารที่ปลอดภัย ฉะนั้น ประเทศไทยของเรามีความพร้อมที่จะผลิตอาหาร และผมก็ต้องการเห็นคุณภาพของคนในประเทศไทย คนในจังหวัดพัทลุงมีความพร้อมในการดูแลเรื่องอาหาร และเชื่อว่าธุรกิจทั้งหมดภายใน 5 ปีข้างหน้านั้น ธุรกิจเกี่ยวกับการกิน การบริโภค จะมีรายได้สูง และโดยเฉพาะธุรกิจของการเกษตรที่ปลอดสารพิษ เพราะคนในอนาคตจะกลัวสารพิษ กลัวในสิ่งที่จะทำให้สุขภาพร่างกายไม่ดี
ดังนั้น คนที่ทำการศึกษา ค้นคว้าก็จะรักสุขภาพร่างกายมากขึ้น วันนี้เราลุกขึ้นมาเพื่อจะทำเรื่องการเกษตรให้เข้มแข็ง นั่นคือทำให้เกษตรของเรานั้นปลอดสารพิษ ขณะเดียวกันนอกเหนือจากการผลิตแล้ว เราต้องทำให้กิจกรรมสหกรณ์ของการเกษตรพัทลุงแข็งแรงขึ้นคือทำให้เกิดผลกำไร อย่างน้อยโครงการไร่ละหนึ่งแสน สองแสน ต้องเกิดขึ้นในอนาคตจากการที่เขาทำเกษตรในสิ่งที่ดีงาม” นายโกสินทร์ กล่าว