พิษน้ำท่วมทำโรงงานผลิตน้ำเกลือรายใหญ่สะดุด กำลังการผลิตลดลง กระทบโรงพยาบาล-ศูนย์ล้างไตส่วนภูมิภาคขาดแคลนถุงน้ำเกลือหนัก อย.-อภ.เร่งแก้ปัญหาจับมือ 3 บริษัทผลิตน้ำเกลือเป็นตัวแทนจำหน่าย คาด สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์นี้
วันนี้ (7 ก.ย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า สถานการณ์ถุงน้ำเกลือขาดตลาดในขณะนี้ สาเหตุหลักเกิดจากโรงงาน GHP ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำเกลือรายใหญ่ และสามารถผลิตน้ำเกลือป้อนตลาดถุงน้ำเกลือได้มากถึง 25-30% นั้น กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงจากเหตุการณ์ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ทำให้กำลังการผลิตลดลง และสามารถจำหน่ายได้เฉพาะกลุ่มศูนย์ล้างไต ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าประจำเท่านั้น ทำให้ลูกค้ารายย่อยอื่นๆอาทิ โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคต่างๆ ได้รับผลกระทบในการสั่งซื้อถุงน้ำเกลือ ทั้งนี้ คาดว่าโรงงานผลิตน้ำเกลือแห่งนี้จะสามารถกลับมาผลิตได้เหมือนเดิมภายในสิ้นปีนี้
“ขอยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการโก่ง หรือการขึ้นราคาน้ำเกลือแต่อย่างใด แต่เกิดจากการผลิตน้ำเกลือของโรงงานหลักนั้น ผลิตได้น้อยลง ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงฟื้นฟูให้สามารถกลับมาผลิตได้ 100% แต่ยังต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเช่นเดิม” เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในขณะนี้ อย.และองค์การเภสัชกรรม(อภ.)ได้รับความร่วมมือจาก 3 บริษัทผู้ผลิตน้ำเกลือ ได้แก่ A.N.B. Laboratories, Thai Otsuka และ Thai Nakorn Patanaซึ่งทั้ง 3 บริษัทจะส่งมอบถุงน้ำเกลือประมาณ 5-6 หมื่นถุงให้แก่ อภ.เป็นตัวแทนจำหน่ายภายในช่วงสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า จะสามารถจำหน่ายถุงน้ำเกลือให้แก่ศูนย์ล้างไตและโรงพยาบาลต่างๆ ได้หมดภายในวันจันทร์ที่ 10 ก.ย.นี้ หากศูนย์ล้างไตหรือโรงพยาบาลใดที่ขาดแคลนถุงน้ำเกลือก็สามารถติดต่อมาที่ อภ.ได้ นอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทจะเพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนถุงน้ำเกลือจะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโรคไตประสบปัญหาขาดแคลนน้ำยาหรือน้ำเกลือ สำหรับฟอกเลือด โดยทั้งประเทศมีทั้งหมด 30,000 ราย เป็นผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 10,000 ราย ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำยาฟอกเลือดถึงเดือนละ 1 ล้านถุง แต่ปัจจุบันมีโรงงานที่ป้อนน้ำเกลือรายหลักๆ คือ บริษัท GHP แต่ประสบปัญหาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม เนื่องจากโรงงานผลิตอยู่ภายในนวนคร จนขณะนี้ยังฟื้นตัวไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โรงงานที่เหลืออีก 3 แห่ง คือ บริษัท A.N.B. Laboratories หรือบริษัท อำนวยเภสัชฯ บริษัทไทย โอนิซูกะ ( Thai Otsuka) และ บริษัท ไทยนครพัฒนา (Thai Nakorn Patana) ก็ประสบปัญหากำลังผลิต ไม่สามารถผลิตได้ทัน เนื่องจากอยู่ระหว่างขยายกำลังผลิต มีการปรับปรุงเครื่อง ประกอบกับเครื่องที่ใช้มีปัญหาอยู่บ้าง ทำให้ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดขาดแคลนน้ำเกลือขึ้น
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า โรงงานที่ผลิตน้ำเกลือล้างไตในไทยขณะนี้มี 4 บริษัท กำลังการผลิตได้ปีละประมาณ 120 ล้านถุง โดยมี 1 บริษัทที่ถูกน้ำท่วมในปี 2554 ซึ่งขณะนี้เริ่มเปิดเดินเครื่องได้แล้ว แต่กำลังการผลิตยังไม่ครบ 100 เปอร์เซนต์ จึงทำให้ขาดสภาพคล่องได้ เบื้องต้น อภ. ได้สั่งนำเข้าจาก 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมกว่า 1 ล้านถุง ขนส่งทางเรือใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์-1 เดือน ซึ่งขณะนี้เรือกำลังทยอยเข้ามาและจะเข้ามาเรื่อยๆ เช่น วันที่ 13 กันยายน 2555 จะมา 22,800 ถุง วันที่ 17 -18 กันยายน 2555 จำนวน 600,000 ถุง เป็นต้น โดย จะเร่งกระจายให้หน่วยฟอกไตเทียมที่ขาดแคลน และจะให้ครบภายใน 3 วัน
วันนี้ (7 ก.ย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า สถานการณ์ถุงน้ำเกลือขาดตลาดในขณะนี้ สาเหตุหลักเกิดจากโรงงาน GHP ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำเกลือรายใหญ่ และสามารถผลิตน้ำเกลือป้อนตลาดถุงน้ำเกลือได้มากถึง 25-30% นั้น กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงจากเหตุการณ์ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ทำให้กำลังการผลิตลดลง และสามารถจำหน่ายได้เฉพาะกลุ่มศูนย์ล้างไต ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าประจำเท่านั้น ทำให้ลูกค้ารายย่อยอื่นๆอาทิ โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคต่างๆ ได้รับผลกระทบในการสั่งซื้อถุงน้ำเกลือ ทั้งนี้ คาดว่าโรงงานผลิตน้ำเกลือแห่งนี้จะสามารถกลับมาผลิตได้เหมือนเดิมภายในสิ้นปีนี้
“ขอยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการโก่ง หรือการขึ้นราคาน้ำเกลือแต่อย่างใด แต่เกิดจากการผลิตน้ำเกลือของโรงงานหลักนั้น ผลิตได้น้อยลง ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงฟื้นฟูให้สามารถกลับมาผลิตได้ 100% แต่ยังต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเช่นเดิม” เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในขณะนี้ อย.และองค์การเภสัชกรรม(อภ.)ได้รับความร่วมมือจาก 3 บริษัทผู้ผลิตน้ำเกลือ ได้แก่ A.N.B. Laboratories, Thai Otsuka และ Thai Nakorn Patanaซึ่งทั้ง 3 บริษัทจะส่งมอบถุงน้ำเกลือประมาณ 5-6 หมื่นถุงให้แก่ อภ.เป็นตัวแทนจำหน่ายภายในช่วงสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า จะสามารถจำหน่ายถุงน้ำเกลือให้แก่ศูนย์ล้างไตและโรงพยาบาลต่างๆ ได้หมดภายในวันจันทร์ที่ 10 ก.ย.นี้ หากศูนย์ล้างไตหรือโรงพยาบาลใดที่ขาดแคลนถุงน้ำเกลือก็สามารถติดต่อมาที่ อภ.ได้ นอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทจะเพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนถุงน้ำเกลือจะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโรคไตประสบปัญหาขาดแคลนน้ำยาหรือน้ำเกลือ สำหรับฟอกเลือด โดยทั้งประเทศมีทั้งหมด 30,000 ราย เป็นผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 10,000 ราย ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำยาฟอกเลือดถึงเดือนละ 1 ล้านถุง แต่ปัจจุบันมีโรงงานที่ป้อนน้ำเกลือรายหลักๆ คือ บริษัท GHP แต่ประสบปัญหาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม เนื่องจากโรงงานผลิตอยู่ภายในนวนคร จนขณะนี้ยังฟื้นตัวไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โรงงานที่เหลืออีก 3 แห่ง คือ บริษัท A.N.B. Laboratories หรือบริษัท อำนวยเภสัชฯ บริษัทไทย โอนิซูกะ ( Thai Otsuka) และ บริษัท ไทยนครพัฒนา (Thai Nakorn Patana) ก็ประสบปัญหากำลังผลิต ไม่สามารถผลิตได้ทัน เนื่องจากอยู่ระหว่างขยายกำลังผลิต มีการปรับปรุงเครื่อง ประกอบกับเครื่องที่ใช้มีปัญหาอยู่บ้าง ทำให้ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดขาดแคลนน้ำเกลือขึ้น
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า โรงงานที่ผลิตน้ำเกลือล้างไตในไทยขณะนี้มี 4 บริษัท กำลังการผลิตได้ปีละประมาณ 120 ล้านถุง โดยมี 1 บริษัทที่ถูกน้ำท่วมในปี 2554 ซึ่งขณะนี้เริ่มเปิดเดินเครื่องได้แล้ว แต่กำลังการผลิตยังไม่ครบ 100 เปอร์เซนต์ จึงทำให้ขาดสภาพคล่องได้ เบื้องต้น อภ. ได้สั่งนำเข้าจาก 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมกว่า 1 ล้านถุง ขนส่งทางเรือใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์-1 เดือน ซึ่งขณะนี้เรือกำลังทยอยเข้ามาและจะเข้ามาเรื่อยๆ เช่น วันที่ 13 กันยายน 2555 จะมา 22,800 ถุง วันที่ 17 -18 กันยายน 2555 จำนวน 600,000 ถุง เป็นต้น โดย จะเร่งกระจายให้หน่วยฟอกไตเทียมที่ขาดแคลน และจะให้ครบภายใน 3 วัน