“สุขุมพันธุ์” โชว์วิสัยทัศน์ ม.นวมินทราธิราช “มุ่งสร้างคน เพื่อสร้างเมือง”
วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 14.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมงานแถลงวิสัยทัศน์และทิศทางเดินไปสู่อนาคตของมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารการุณยสภา คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ถือเป็นมหาวิทยาลัยท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งโดย กทม.ได้ตราเป็นพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พุทธศักราช 2553 และต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช” ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2554 เป็นต้นมา โดยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของ กทม.ทำงานในลักษณะ Co - Creation คือ ร่วมกันสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยวิธีบูรณาการด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านระบบงบประมาณ ด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมหาวิทยาลัย และเพื่อเป็นการสนับสนุนการบริหารงานกรุงเทพมหานคร ตลอดจนสามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของเมืองในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศได้
ทั้งนี้ การจัดตั้งมหาวิทยาลัยนวมินทราธราชนับเป็นความสำเร็จของ กทม.โดยมีภารกิจหลักในการสร้างคนเพื่อสร้างเมือง เริ่มแรกได้ผลิตบุคลากรทางการแพทย์และการพยาบาล ต่อมาได้กำหนดให้มีสถาบันพัฒนาเมืองเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นอย่างแท้จริง และด้วยเหตุที่กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่มีบุคลากรที่มีความรู้ และประสบการณ์เฉพาะทางหลากหลายสาขา จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรมและถ่ายทอดวิทยาการต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานให้แก่บัณฑิตได้เป็นอย่างดี ประกอบการกับการที่กรุงเทพมหานครในฐานะเมืองหลวงของประเทศ เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีการเจริญเติบโตและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เคยแก้ไขได้ในอดีต อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการแก้ไข เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนับจากนี้มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชจะทำหน้าที่ศึกษาและสังเคราะห์องค์ความรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้ได้วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด
ด้าน ดร.พิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มีเป้าหมายในการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจในความเป็นเมือง อาทิ แพทย์-พยาบาลที่มีความเข้าใจในเวชศาสตร์เขตเมือง โดยจะรับโอนสถาบันพัฒนาเมือง และวิทยาลัยชุมชนทั้ง 10 แห่งของ กทม.มาอยู่ภายใต้กำกับของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชสามารถเปิดสอนได้ทั้งในระดับประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญาตรี และระดับปริญญามหาบัณฑิต ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล และคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ โดยภายหลังจากที่รับโอนสถาบันพัฒนาเมืองจะเปิดสอนหลักสูตรมหาบัณฑิต คณะวิศวกรรมเมือง และสถาบันรัฐประศาสนศาสตร์เมืองต่อไป
วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 14.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมงานแถลงวิสัยทัศน์และทิศทางเดินไปสู่อนาคตของมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารการุณยสภา คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ถือเป็นมหาวิทยาลัยท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งโดย กทม.ได้ตราเป็นพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พุทธศักราช 2553 และต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช” ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2554 เป็นต้นมา โดยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของ กทม.ทำงานในลักษณะ Co - Creation คือ ร่วมกันสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยวิธีบูรณาการด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านระบบงบประมาณ ด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมหาวิทยาลัย และเพื่อเป็นการสนับสนุนการบริหารงานกรุงเทพมหานคร ตลอดจนสามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของเมืองในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศได้
ทั้งนี้ การจัดตั้งมหาวิทยาลัยนวมินทราธราชนับเป็นความสำเร็จของ กทม.โดยมีภารกิจหลักในการสร้างคนเพื่อสร้างเมือง เริ่มแรกได้ผลิตบุคลากรทางการแพทย์และการพยาบาล ต่อมาได้กำหนดให้มีสถาบันพัฒนาเมืองเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นอย่างแท้จริง และด้วยเหตุที่กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่มีบุคลากรที่มีความรู้ และประสบการณ์เฉพาะทางหลากหลายสาขา จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรมและถ่ายทอดวิทยาการต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานให้แก่บัณฑิตได้เป็นอย่างดี ประกอบการกับการที่กรุงเทพมหานครในฐานะเมืองหลวงของประเทศ เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีการเจริญเติบโตและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เคยแก้ไขได้ในอดีต อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการแก้ไข เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนับจากนี้มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชจะทำหน้าที่ศึกษาและสังเคราะห์องค์ความรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้ได้วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด
ด้าน ดร.พิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มีเป้าหมายในการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจในความเป็นเมือง อาทิ แพทย์-พยาบาลที่มีความเข้าใจในเวชศาสตร์เขตเมือง โดยจะรับโอนสถาบันพัฒนาเมือง และวิทยาลัยชุมชนทั้ง 10 แห่งของ กทม.มาอยู่ภายใต้กำกับของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชสามารถเปิดสอนได้ทั้งในระดับประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญาตรี และระดับปริญญามหาบัณฑิต ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล และคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ โดยภายหลังจากที่รับโอนสถาบันพัฒนาเมืองจะเปิดสอนหลักสูตรมหาบัณฑิต คณะวิศวกรรมเมือง และสถาบันรัฐประศาสนศาสตร์เมืองต่อไป