คกก.ควบคุม มอส.รับลูก รมว.ศึกษาฯ วางกรอบบริหารงานใหม่ชู 3 แนวทาง เตรียมเดินหน้าแจ้งความผู้รับใบอนุญาตไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา 50 ล้านบาท เผยอนุมัติปริญญาโทล็อตแรกแล้ว 18 ราย
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการควบคุมฯ ที่มี นายสมนึก พิมลเสถียร อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานกรณี ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรียกกรรมการควบคุมฯ พร้อมผู้รับใบอนุญาต เข้ารับนโยบาย โดยมอบให้เร่งแก้ปัญหาเกี่ยวกับ มอส.อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานเรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาที่อยู่ระหว่างการทวงคืนจากผู้รับใบอนุญาต จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทางฝ่ายผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการภายใน 30 วัน แต่ทางผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการและทำหนังสือแจ้งว่าไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการควบคุมฯ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายโดยจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเดือน ก.ค.นี้
สำหรับกรณีที่ฝ่ายผู้รับใบอนุญาตยื่นเรื่องต่อศาลปกครองขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฟ้องร้องคณะกรรมการควบคุมฯ กรณีแต่งตั้งอธิการบดี มอส.ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ตนในฐานะคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี มอส.ยืนยันต่อที่ประชุม ว่า ได้กลั่นกรองและตรวจสอบจนได้ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นไปตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมาย นายขจร จิตสุขุมมงคล นิติกร สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ไปทำคำชี้แจงต่อศาลต่อไป ส่วนก่อนหน้านี้ ที่ผู้รับใบอนุญาตฟ้องร้องต่อศาลปกครองขอนแก่นเพื่อขอคืนอำนาจการบริหารมหาวิทยาลัยนั้น ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นไต่สวนว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่
รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นว่า คณะกรรมการควบคุมฯ ได้บริหารมหาวิทยาลัยมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว จึงเตรียมพิจารณากำหนดทิศทางการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ โดยเบื้องต้นวางไว้ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.พิจารณาให้ผู้รับใบอนุญาตมีส่วนในการบริหารงานในลักษณะเดียวกับการคืนอำนาจการบริหาร แต่มีข้อแม้ว่าคณะกรรมการควบคุมฯ จะยังคอยกำกับดูแลและหากเห็นว่าผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถบริหารงานตามมาตรฐานที่กำหนดได้จะเสนอ กกอ.เพื่อส่งเรื่องให้ รมว.ศธ.พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต 2.ให้คณะกรรมการควบคุมฯ บริหารมหาวิทยาลัยพร้อมกับแก้ปัญหาที่มีอยู่ต่อไปในลักษณะที่เป็นอยู่เดิมอีกระยะหนึ่ง และ 3.พิจารณาสรุปผลการบริหารมหาวิทยาลัย หากเห็นว่าไม่เข้าข่ายที่จะควบคุมได้ต่อไปก็ให้เสนอ กกอ.เพื่อส่งเรื่องให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทันที ซึ่งคณะกรรมการควบคุมฯ จะได้สรุปแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการประชุมครั้งต่อไป
“ในครั้งนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติผู้สำเร็จปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตร (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู จำนวน 26 คน และปริญญาตรีสาขาต่างๆ อีก 16 คน และเป็นครั้งแรกที่อนุมัติผู้สำเร็จปริญญาโท สาขา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต รวม 18 คน”รศ.นพ.กำจร กล่าว
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการควบคุมฯ ที่มี นายสมนึก พิมลเสถียร อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานกรณี ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรียกกรรมการควบคุมฯ พร้อมผู้รับใบอนุญาต เข้ารับนโยบาย โดยมอบให้เร่งแก้ปัญหาเกี่ยวกับ มอส.อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานเรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาที่อยู่ระหว่างการทวงคืนจากผู้รับใบอนุญาต จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทางฝ่ายผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการภายใน 30 วัน แต่ทางผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการและทำหนังสือแจ้งว่าไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการควบคุมฯ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายโดยจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเดือน ก.ค.นี้
สำหรับกรณีที่ฝ่ายผู้รับใบอนุญาตยื่นเรื่องต่อศาลปกครองขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฟ้องร้องคณะกรรมการควบคุมฯ กรณีแต่งตั้งอธิการบดี มอส.ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ตนในฐานะคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี มอส.ยืนยันต่อที่ประชุม ว่า ได้กลั่นกรองและตรวจสอบจนได้ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นไปตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมาย นายขจร จิตสุขุมมงคล นิติกร สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ไปทำคำชี้แจงต่อศาลต่อไป ส่วนก่อนหน้านี้ ที่ผู้รับใบอนุญาตฟ้องร้องต่อศาลปกครองขอนแก่นเพื่อขอคืนอำนาจการบริหารมหาวิทยาลัยนั้น ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นไต่สวนว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่
รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นว่า คณะกรรมการควบคุมฯ ได้บริหารมหาวิทยาลัยมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว จึงเตรียมพิจารณากำหนดทิศทางการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ โดยเบื้องต้นวางไว้ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.พิจารณาให้ผู้รับใบอนุญาตมีส่วนในการบริหารงานในลักษณะเดียวกับการคืนอำนาจการบริหาร แต่มีข้อแม้ว่าคณะกรรมการควบคุมฯ จะยังคอยกำกับดูแลและหากเห็นว่าผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถบริหารงานตามมาตรฐานที่กำหนดได้จะเสนอ กกอ.เพื่อส่งเรื่องให้ รมว.ศธ.พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต 2.ให้คณะกรรมการควบคุมฯ บริหารมหาวิทยาลัยพร้อมกับแก้ปัญหาที่มีอยู่ต่อไปในลักษณะที่เป็นอยู่เดิมอีกระยะหนึ่ง และ 3.พิจารณาสรุปผลการบริหารมหาวิทยาลัย หากเห็นว่าไม่เข้าข่ายที่จะควบคุมได้ต่อไปก็ให้เสนอ กกอ.เพื่อส่งเรื่องให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทันที ซึ่งคณะกรรมการควบคุมฯ จะได้สรุปแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการประชุมครั้งต่อไป
“ในครั้งนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติผู้สำเร็จปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตร (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู จำนวน 26 คน และปริญญาตรีสาขาต่างๆ อีก 16 คน และเป็นครั้งแรกที่อนุมัติผู้สำเร็จปริญญาโท สาขา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต รวม 18 คน”รศ.นพ.กำจร กล่าว
