คกก.มอส.จี้ผู้รับใบอนุญาตฯ คืนเงินมหาวิทยาลัยภายใน 30 วัน หลังพบหลักฐานได้รับเงินจาก นศ.แล้ว 50 ล้านบาท พร้อมสั่งงดรับ นศ.ปีการศึกษา 2555 เหตุพบโปสเตอร์ประกาศรับสมัคร นศ.ใหม่ที่ศูนย์นอกที่ตั้ง จ.ชัยนาท ส่วนในที่ตั้งให้ชะลอไว้ก่อน
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการควบคุม มอส.ที่มี นายสมนึก พิมลเสถียร เป็นประธาน ได้พิจารณาอนุมัติผู้สำเร็จปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตร (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู จำนวน 23 คน และปริญญาตรีสาขาต่างๆ จำนวน 22 คน ทั้งนี้ ยังคงได้รับรายงานกรณีนักศึกษาจำนวนหนึ่งไม่สามารถจบการศึกษาได้ เนื่องจากขาดหลักฐานการชำระเงินให้กับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งทางผู้บริหารของ มอส.ได้แจ้งต่อคณะกรรมการควบคุมฯ ว่า ขณะนี้พบหลักฐานการเงิน ที่บ่งชี้ว่า ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยได้รับเงินจากนักศึกษาไปแล้ว จำนวนกว่า 50 ล้านบาท ดังนั้น คณะกรรมการควบคุมฯ จึงมีมติให้ฝ่ายบริหารทำหนังสือทวงถามเงินจำนวนนี้ และให้นำมาคืนให้กับมหาวิทยาลัยภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะเสนอ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ยกเลิกการควบคุมและเพิกถอนใบอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ดร.ฉันทวิทย์ สุตาชานนท์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มอส.ได้รายงานสภาวะการเงินของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่คณะกรรมการควบคุมฯ เข้าควบคุมการดำเนินงานของ มอส.ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 - มีนาคม 2555 พบมหาวิทยาลัยมีรายได้รวม 140 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 114 ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าอยู่ในภาวะที่รายได้มากกว่ารายจ่าย ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร มอส.ยังแจ้งการพบแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ (โปสเตอร์) รับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2555 ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์จัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง จ.ชัยภูมิ ซึ่งยืนยันได้ว่า การเปิดรับดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการโดยผู้บริหารชุดปัจจุบัน
รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ประกาศว่า มอส.งดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2555 ทั้งหมด โดยในส่วนของนักศึกษาบัณฑิตศึกษาทุกหลักสูตร และการศึกษานอกสถานที่ตั้งให้งดรับทั้งหมด ส่วนการรับนักศึกษาเพื่อศึกษาในสถานที่ตั้งนั้น ให้ชะลอไว้ก่อนจนกว่าจะมีความเหมาะสม เพื่อให้เวลาฝ่ายบริหารในการแก้ปัญหาที่คั่งค้างทั้งในส่วนนักศึกษา ป.บัณฑิต และปริญญาโท ทั้งนี้ หากพบภายหลัง ว่า มีการแอบอ้างรับนักศึกษาใหม่ จะถือเป็นการกระทำโดยหลอกลวงทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฯ ทำหนังสือถึง รมว.ศึกษาธิการ ขอให้ยกเลิกการควบคุมฯ รวมถึงทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร้องเรียนกระบวนการสรรหาอธิการบดี มอส.ว่า มีความล่าช้านั้น ที่ประชุมได้รับทราบแล้วและได้รับแจ้งด้วยว่า รมว.ศึกษาธิการ ให้คณะกรรมการควบคุมฯทำหน้าที่ต่อไป ขณะที่การสรรหาอธิการนั้น ก็ได้เร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการควบคุม มอส.ที่มี นายสมนึก พิมลเสถียร เป็นประธาน ได้พิจารณาอนุมัติผู้สำเร็จปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตร (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู จำนวน 23 คน และปริญญาตรีสาขาต่างๆ จำนวน 22 คน ทั้งนี้ ยังคงได้รับรายงานกรณีนักศึกษาจำนวนหนึ่งไม่สามารถจบการศึกษาได้ เนื่องจากขาดหลักฐานการชำระเงินให้กับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งทางผู้บริหารของ มอส.ได้แจ้งต่อคณะกรรมการควบคุมฯ ว่า ขณะนี้พบหลักฐานการเงิน ที่บ่งชี้ว่า ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยได้รับเงินจากนักศึกษาไปแล้ว จำนวนกว่า 50 ล้านบาท ดังนั้น คณะกรรมการควบคุมฯ จึงมีมติให้ฝ่ายบริหารทำหนังสือทวงถามเงินจำนวนนี้ และให้นำมาคืนให้กับมหาวิทยาลัยภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะเสนอ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ยกเลิกการควบคุมและเพิกถอนใบอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ดร.ฉันทวิทย์ สุตาชานนท์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มอส.ได้รายงานสภาวะการเงินของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่คณะกรรมการควบคุมฯ เข้าควบคุมการดำเนินงานของ มอส.ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 - มีนาคม 2555 พบมหาวิทยาลัยมีรายได้รวม 140 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 114 ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าอยู่ในภาวะที่รายได้มากกว่ารายจ่าย ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร มอส.ยังแจ้งการพบแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ (โปสเตอร์) รับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2555 ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์จัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง จ.ชัยภูมิ ซึ่งยืนยันได้ว่า การเปิดรับดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการโดยผู้บริหารชุดปัจจุบัน
รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ประกาศว่า มอส.งดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2555 ทั้งหมด โดยในส่วนของนักศึกษาบัณฑิตศึกษาทุกหลักสูตร และการศึกษานอกสถานที่ตั้งให้งดรับทั้งหมด ส่วนการรับนักศึกษาเพื่อศึกษาในสถานที่ตั้งนั้น ให้ชะลอไว้ก่อนจนกว่าจะมีความเหมาะสม เพื่อให้เวลาฝ่ายบริหารในการแก้ปัญหาที่คั่งค้างทั้งในส่วนนักศึกษา ป.บัณฑิต และปริญญาโท ทั้งนี้ หากพบภายหลัง ว่า มีการแอบอ้างรับนักศึกษาใหม่ จะถือเป็นการกระทำโดยหลอกลวงทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฯ ทำหนังสือถึง รมว.ศึกษาธิการ ขอให้ยกเลิกการควบคุมฯ รวมถึงทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร้องเรียนกระบวนการสรรหาอธิการบดี มอส.ว่า มีความล่าช้านั้น ที่ประชุมได้รับทราบแล้วและได้รับแจ้งด้วยว่า รมว.ศึกษาธิการ ให้คณะกรรมการควบคุมฯทำหน้าที่ต่อไป ขณะที่การสรรหาอธิการนั้น ก็ได้เร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
