ครม.ไฟเขียวในหลักการโครงการด้านการศึกษา ทั้งการเพิ่มเงินเดือนครูเอกชน เป็นเดือนละ 1.5 หมื่นบาท เดินหน้าโครงการผลิตครูมืออาชีพ พร้อมเห็นชอบฟื้น กรอ.ตามหลักการที่ ก.คลัง เสนอ ซึ่งจำกัดเพียงบางสาขาวิชา ส่วนที่เหลือให้กู้ กยศ.ต่อ ด้าน “สุชาติ” ยืนยัน ผลักดันต่อให้ฟื้น กรอ.ครบทั้งระบบ
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรกนั้น ครม.ได้ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอขอปรับเพิ่มเงินเดือน รวมค่าครองชีพชั่วคราว ครู ร.ร.เอกชน ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ให้ได้รับรายได้เดือนละ 15,000 บาท เพื่อให้สอดรับกับที่รัฐบาลปรับเงินเดือน รวมค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐที่จบปริญญาตรี เป็นเดือนละ 15,000 บาท มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน มีครู โรงเรียนเอกชน ที่จบปริญญาตรี จำนวน 87,680 คน ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยระหว่าง 10,428-13,535 บาท ซึ่ง ศธ.ได้เสนอขอปรับเงินเดือนแรกบรรจุของครูเอกชนเป็น 11,680 บาท ตรงส่วนนี้ใช้งบประมาณรองรับ 695 ล้านบาท สำหรับเดือน ม.ค.-ก.ย.55 รวม 9 เดือน พร้อมกันนี้ ศธ.ได้เสนอขอปรับค่าครองชีพให้ครูเอกชนที่ยังได้เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ด้วย ตรงส่วนนี้ต้องใช้งบประมาณ 2,401.58 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ครม.ให้ สช.ไปเกลี่ยงบประมาณของตัวเองมาใช้สำหรับเพิ่มเงินเดือนครู ร.ร.เอกชน ส่วนงบประมาณปรับเพิ่มค่าครองชีพนั้น ครม.อนุมัติงบประมาณให้แค่ 1,200 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1,200 ล้านบาทนั้น ให้ ร.ร.เอกชนร่วมรับผิดชอบ แต่งบประมาณ 1,200 ล้านบาทนี้ เป็นงบของปีงบประมาณ 2556
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ครม.ยังได้อนุมัติฟื้นกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ กรอ.ตามแนวทางที่กระทรวงการคลัง เสนอด้วย นั่นหมายความว่า จะมีการฟื้น กรอ.มาใช้กับบางสาขาวิชาที่สำคัญ เช่น สาขาขาดแคลน ที่เหลือให้กู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ต่อ ทั้งนี้ มติ ครม.ที่ออกมานั้นไม่กระทบต่อแผนงานของ ศธ.เพราะไม่ว่าจะเป็น กยศ.หรือ กรอ.นั้น นักศึกษาก็ยังมีสิทธิกู้เงินต่อไป แต่จะส่งผลกระทบต่อผู้กู้ เพราะการกู้ กยศ.นั้น จะทำเป็นสัญญาเงินกู้ที่กำหนดให้ใช้คืนหลังเรียนจบ 2 ปี มิฉะนั้น จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นการกู้ กรอ.จะทำเป็นสัญญาให้ทุนแบบใช้คืน ไม่มีการฟ้องร้อง อย่างไรก็ตาม ตนจะผลักดันต่อไปให้มีการฟื้น กรอ.ครบทั้งระบบ
นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอขอเปลี่ยนชื่อโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เป็น โครงการผลิตครูมืออาชีพ และเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนชื่อไปตามโครงการ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูมืออาชีพ มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เป็นรองประธาน และ คณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูมืออาชีพ มี น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ เป็นประธาน นางพรนิภา ลิมปพะยอม และ ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ เป็นรองประธานกรรมการ ซึ่งจากนี้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด จะต้องมาดูรายละเอียดของโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า จะเดินไปทิศทางใด ขณะเดียวกัน ต้องมาดูนักศึกษาปีที่ 4 หลักสูตรระดับปริญญาตรี 5 ปี รูปแบบประกันการมีงานทำ (ไม่มีทุนการศึกษา) ที่ได้คัดเลือกไว้ก่อนหน้าประมาณ 1,000 คน จะดำเนินการอย่างไรต่อไป