“สุชาติ” เซ็นเสนอครูพันธุ์ใหม่เข้า ครม.แล้ว เปลี่ยนชื่อเป็น “ครูมืออาชีพ” พร้อมปรับสัดส่วนประกันมีงานทำ 30% บรรจุในตำแหน่งครูผู้ช่วย สพฐ.และไม่มีทุนการศึกษาฟรี ระบุ มีงบจำกัด แต่จะให้เด็กที่สมัครเรียนได้สิทธิ์กู้ กรอ.
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการครูพันธุ์ใหม่ ว่า ขณะนี้ได้ลงนามในหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ และคณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการชุดใหม่ โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “โครงการครูมืออาชีพ” และมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยได้กำหนดสัดส่วนเพื่อประกันงานรองรับไว้โดยจะกำหนดให้ 35% แบ่งเป็น 30% จากโครงการครูมืออาชีพและ 5% จากทุนการศึกษาโครงการอื่นๆ เช่น โครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) เป็นต้น อีก 25% เป็นครูอัตราจ้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ 40% ให้มาจากการสอบบรรจุแข่งขันทั่วไป ซึ่งขณะนี้ สพฐ.มีอัตราบรรจุแต่ละปีอยู่ที่ 5,000 อัตราแต่ก็ต้องเอาอัตราเหล่านี้ไปบรรจุส่วนอื่นๆ ด้วยเพราะฉะนั้นถ้าบรรจุครูมืออาชีพ 30% ก็คิดเป็น 1,500 คนและบรรจุในตำแหน่งครูผู้ช่วย
“ซึ่งเราต้องเปิดโอกาสและให้ความเป็นธรรมแก่ครูอื่นๆ ด้วยส่วนการให้ทุนการศึกษาฟรีนั้น ผมมองว่า ไม่มีความจำเป็น และเราก็มีงบประมาณจำกัด และถึงให้ทุนไปทุนก็จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ที่ครู ดังนั้น ก็สร้างความเป็นธรรมให้แก่เด็ก อีกทั้งต่อไปเราก็มีกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ให้เด็กสามารถกู้ยืมได้อยู่แล้ว ซึ่งจะให้สิทธิ์แก่เด็กที่สมัครเรียนมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์หลักสูตรดังกล่าวระยะเวลา 5 ปีได้กู้ยืมพอเรียนจบมีรายได้ตามเกณฑ์ที่ กรอ.ก็ค่อยใช้เงินคืนได้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าของกองทุน กรอ.นั้น ทราบว่า นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดเสนอ ครม.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการปรับชื่อเป็นการให้ทุนการศึกษา เมื่อเรียนจบมีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ 16,000 บาท ก็ให้ใช้คืน โดยจะใช้กับผู้กู้ระดับอุดมศึกษา และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ซึ่งหากครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาทจะให้กู้ค่าครองชีพด้วย แต่ส่วนระดับมัธยมศึกษาลงไปก็ยังให้กู้ระบบ กยศ.ไปก่อนและเมื่อการทำกฎหมายต่างๆ เรียบร้อยก็จะรวมเป็นระบบ กรอ.แบบเดียวทั้งหมด
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการครูพันธุ์ใหม่ ว่า ขณะนี้ได้ลงนามในหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ และคณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการชุดใหม่ โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “โครงการครูมืออาชีพ” และมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยได้กำหนดสัดส่วนเพื่อประกันงานรองรับไว้โดยจะกำหนดให้ 35% แบ่งเป็น 30% จากโครงการครูมืออาชีพและ 5% จากทุนการศึกษาโครงการอื่นๆ เช่น โครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) เป็นต้น อีก 25% เป็นครูอัตราจ้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ 40% ให้มาจากการสอบบรรจุแข่งขันทั่วไป ซึ่งขณะนี้ สพฐ.มีอัตราบรรจุแต่ละปีอยู่ที่ 5,000 อัตราแต่ก็ต้องเอาอัตราเหล่านี้ไปบรรจุส่วนอื่นๆ ด้วยเพราะฉะนั้นถ้าบรรจุครูมืออาชีพ 30% ก็คิดเป็น 1,500 คนและบรรจุในตำแหน่งครูผู้ช่วย
“ซึ่งเราต้องเปิดโอกาสและให้ความเป็นธรรมแก่ครูอื่นๆ ด้วยส่วนการให้ทุนการศึกษาฟรีนั้น ผมมองว่า ไม่มีความจำเป็น และเราก็มีงบประมาณจำกัด และถึงให้ทุนไปทุนก็จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ที่ครู ดังนั้น ก็สร้างความเป็นธรรมให้แก่เด็ก อีกทั้งต่อไปเราก็มีกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ให้เด็กสามารถกู้ยืมได้อยู่แล้ว ซึ่งจะให้สิทธิ์แก่เด็กที่สมัครเรียนมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์หลักสูตรดังกล่าวระยะเวลา 5 ปีได้กู้ยืมพอเรียนจบมีรายได้ตามเกณฑ์ที่ กรอ.ก็ค่อยใช้เงินคืนได้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าของกองทุน กรอ.นั้น ทราบว่า นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดเสนอ ครม.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการปรับชื่อเป็นการให้ทุนการศึกษา เมื่อเรียนจบมีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ 16,000 บาท ก็ให้ใช้คืน โดยจะใช้กับผู้กู้ระดับอุดมศึกษา และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ซึ่งหากครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาทจะให้กู้ค่าครองชีพด้วย แต่ส่วนระดับมัธยมศึกษาลงไปก็ยังให้กู้ระบบ กยศ.ไปก่อนและเมื่อการทำกฎหมายต่างๆ เรียบร้อยก็จะรวมเป็นระบบ กรอ.แบบเดียวทั้งหมด