โฆษก กอ.รมน.ปัดส่ง จนท.ช่วยตรวจสอบห้องทำงาน “ศักดา” ชี้ ไม่ใช่หน้าที่

โฆษก กอ.รมน.ปัดส่ง จนท.ตรวจสอบการดักฟังห้องทำงาน “ศักดา” ยันไม่ใช่ภารกิจ กอ.รมน.ระบุ หากหน่วยงานราชการพบความผิดปกติต้องแจ้งตำรวจ ด้าน “สุชาติ” ระบุ ไม่พูดเรื่องนี้ พร้อมบอกสั้นๆ ไม่เห็น ยังไม่พิจารณาหนังสือขออำนาจตั้ง กก.สอบทุจริตอาชีวะ และสอบวินัยร้ายแรงที่ รมช.ศึกษาธิการ ส่งมา

วันนี้ (21 ส.ค.) พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงชี้แจงถึงกรณีที่ นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาระบุ ว่า ทาง กอ.รมน.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบห้องทำงาน เนื่องจากสงสัยว่ามีการติดตั้งเครื่องดังฟัง ว่า ในภารกิจงานหน้าที่ของ กอ.รมน.นั้น ไม่ได้มีหน้าที่ดำเนินการในเรื่องลักษณะดังกล่าว การตรวจเครื่องมือดักฟังเป็นภารกิจที่จะต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถในทางด้านเครื่องมือสื่อสารเป็นอย่างดี ซึ่งใน กอ.รมน.ไม่ได้มีหน่วยงานที่มีหน้าที่ที่ใช้เครื่องมือพิเศษเหล่านั้น ทั้งนี้ กอ.รมน.มีบทบาทหน้าที่ประสานงานการดูแลอำนวยการในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงทั้งประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“การตรวจสอบเครื่องมือดักฟังที่ห้องทำงานของ รมช.ศึกษาธิการ นั้น อาจจะเป็นความคาดเคลื่อนของผู้ให้ข่าวที่ไม่เข้าใจในภารกิจหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ที่ไปทำหน้าที่ตรวจสอบ อาจมีหวังดีว่าจะให้เป็นงานของ กอ.รมน.จึงขอชี้แจงว่า เราไม่ได้มีภารกิจหน้าที่ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งเท่าที่ทราบนั้นทราบว่า ได้มีการขอร้องไปทางสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยดำเนินการตรวจสอบ เพราะมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย และการพบสิ่งผิดปกติในสถานที่ราชการนั้นจะต้องไปดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจาก กอ.รมน.ทำงานด้านความมั่นคงระดับประเทศ ไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับบุคคลแต่อย่างใด รวมทั้งภายใน กอ.รมน.ไม่มีหน่วยงานที่ดำเนินการด้านเครื่องมือสื่อสารในลักษณะดังกล่าว และไม่สามารถทำได้ อาจเป็นความเข้าใจคาดเคลื่อนของผู้ที่ให้ข่าว” โฆษก กอ.รมน.กล่าว

ด้าน ศ.ดร.สุชาติ  ธาดาธำรงเวช  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายศักดา เปิดเผยว่ามีการส่งสัญญาณดักฟังที่ห้องทำงานส่วนตัว ว่า  ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ได้เห็นหนังสือที่ นายศักดา เสนอขออำนาจเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตกรณีการจัดซื้อจัดจ้าง ครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง หรือ เอสพี 2  เพิ่มเติมเป็น 10 ชุด และคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กอศ.แล้วหรือไม่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังไม่เห็น ดังนั้น จึงยังไม่สามารถพิจารณาอะไรได้

ขณะที่ น.ส.ศศิธารา  พิชัยชาญณรงค์  ปลัด ศธ.กล่าวว่า   เป็นเรื่องแปลกแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเกิดขึ้นครั้งแรก สมัย น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัฒน์  อดีต รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งใช้ห้องทำงานเดียวกันกับนายศักดา ก็เคยพูดถึงเรื่องการดักฟังสัญญาณโทรศัพท์และให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเช่นกัน รวมถึงให้มาตรวจสอบห้องทำงานของตัวเองสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ด้วย  แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดสังเกต  ก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมพอเป็นเรื่องอาชีวะแล้ว ต้องมีคนสงสัยห้องนี้

ถามว่า รมช.ศึกษาธิการ ตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเรื่องทุจริตจัดครุภัณฑ์อาชีวะนั้น น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรด้วย ก็เลยไม่รู้ว่า มันจะเกี่ยวกันหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นมาแล้ว รมช.ศึกษาธิการ ก็ไม่ได้สั่งการให้เข้มงวดอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม  จากการสอบถามเจ้าหน้าที่นั้น ทราบว่า โต๊ะทำงานของ รมช.ศธ.ตัวนี้ เป็นโต๊ะที่ทาง สอศ.จัดมาให้ ไม่ใช่โต๊ะเดิมของกระทรวง  แต่ตนยืนยันว่า การรักษาความปลอดภัยในกระทรวงนั้น ค่อนข้างเข้มงวด  ในช่วงกลางคืนนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่ยอมให้ใครขึ้นตึกโดยพลการ  แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่มีกุญแจของตึกในกระทรวงเลย ขณะที่การเข้าออกห้องทำงาน รมช.ศึกษาธิการ นั้นก็มีแต่เจ้าหน้าที่หน้าห้องทำงานของ รมช.ศึกษาธิการ เท่านั้นที่เข้าออกได้ 

“รู้สึกแปลกใจ ทำไมต้องมีโยงการแอบดักฟังโทรศัพท์ให้เชื่อมโยงกับประเด็นตรวจสอบทุจริตครุภัณฑ์อาชีวะด้วย  และทำไมต้องเป็นห้องนี้ทุกที ห้องทำงาน รมช.ศึกษาธิการ อีกหนึ่งห้องที่ว่างอยู่ไม่โดนตรวจสอบ หรือห้องทำงาน  รมว.ศึกษาธิการ ทำไมไม่โดนดักฟังบ้าง จึงเป็นเรื่องแปลกมาก และต้องถามว่าเห็นเครื่องดักฟังหรือไม่ ส่วนที่พยายามโยงเรื่องนี้กับการตรวจสอบทุจริตในอาชีวะนั้น ก็คงต้องโยง เพราะเห็นพูดถึงอยู่แต่เรื่องเดียว ซึ่งจริงๆ แล้ว รู้สึกเป็นห่วงคนอาชีวะ เพราะมีคนเก่งจำนวนมาก รวมถึงมีศักยภาพหลายด้านที่สามารถโชว์ในระดับเวทีนานาชาติได้  แต่น่าเสียดายอย่างมากที่ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา อาชีวศึกษาถูกโชว์แต่ในเรื่องไม่ดี ก็เสียใจอย่างมาก เพราะมีคนเข้าใจไข้วเขวไม่เกิน 10 คน แต่คนอีกหลายร้อยคนเป็นคนดีจนทำให้การใช้งบประมาณไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และรู้สึกเห็นใจ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการ กอศ.และเพื่อนๆ อาชีวะทุกคนอย่างมาก แต่ถามว่าดิฉันจะไปติดต่ออะไรกับใครในอาชีวะหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่ได้ติดต่อ เพราะงานที่รับผิดชอบอยู่ก็หนักมากแล้ว” น.ส.ศศิธารา กล่าว