สธ.จับมือ สปสช.เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรเวชระเบียน ชี้ ช่วยจัดทำฐานข้อมูลการใช้บริการ และสร้างฐานข้อมูลสุขภาพได้ครอบคลุมทุกมิติ หลังพบโรงพยาบาลเอกชนขาดแคลนเป็นจำนวนมาก
นพ.นิทัศน์ รายยวา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในระบบบริการสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในสาขาเวชระเบียน เกี่ยวกับการให้รหัสทางการแพทย์ การจัดการเวชระเบียน ด้วยนำการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับงานเวชระเบียนให้สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงานด้านเวชระเบียนควบคู่กับการนำระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเข้ามาใช้เพื่อให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน จำเป็นต้องมีข้อมูลของผู้ใช้บริการให้ครอบคลุมรอบด้านและทันเวลา โดยข้อมูลสถิติและรายงานเหล่านี้จะต้องจัดส่งให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรประกาศนียบัตรเวชระเบียน หรือ วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาเวชระเบียน และเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถให้รหัสโรค รหัสผ่าตัด หัตถการและการจัดทำสถิติ รายงานข้อมูลได้เป็นอย่างดี
นพ.นิทัศน์ กล่าวอีกว่า ขณะที่โรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะโรงพยาบาลภาคเอกชนยังขาดแคลนบุคลากรกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศในปัจจุบันยังมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ส่งผลต่อการดำเนินการด้านระบบสุขภาพของประเทศ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดให้มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะมีบทบาทในการจัดฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านเวชระเบียน จัดทำหลักสูตรผู้ตรวจสอบเวชระเบียน และการพัฒนาอบรมต่อเนื่อง วิจัยประเมินผลการจัดอบรมหลักสูตร
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบเวชระเบียนของ สปสช.ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 พบว่า เวชระเบียนของหน่วยบริการมีความคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ดังผลการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2549-2554 พบความผิดพลาดร้อยละ 43, 65, 61, 87, 90 และ 91 ดังนั้นเพื่อให้หน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับของประเทศ มีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านเวชระเบียน มารับหน้าที่ในการบันทึก การจัดเก็บ การให้รหัสโรค รหัสผ่าตัด และหัตถการ รวมถึงการจัดทำสถิติ รายงานด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลโรค สาเหตุการเกิดโรคและการรักษาเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก สถาบันพระบรมราชชนก ร่วมกับ สปสช.ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในหน่วยบริการสาธารณสุข ขึ้น มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ก.ค.55-30 ก.ย.57 สปสช.สนับสนุนงบประมาณ 15 ล้านบาทในการดำเนินการ
นางบังอร ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขกาญจนาภิเษก กล่าวว่า วิทยาลัยได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาด้านงานด้านเวชระเบียน ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก การจัดเก็บ การให้รหัสโรค รหัสผ่าตัดและหัตถการ รวมถึงการจัดทำสถิติ รายงานด้านสุขภาพ ซึ่งต้องนำมาใช้ในการวางแผนการรักษา การควบคุม ป้องกันโรค ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพให้เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นโครงการอบรมระยะสั้นแบบต่อเนื่องเพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถและทักษะของผู้ปฏิบัติงานของหน่วยบริการด้านเวชระเบียนในสถานบริการสาธารณสุขที่ยังไม่มีคุณวุฒิด้านเวชระเบียน ได้มีคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถและทักษะสามารถปฏิบัติงานด้านเวชระเบียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อระบบข้อมูลสุขภาพของประเทศที่มีความครบถ้วน ถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าอบรมได้ที่ทางเว็บไซต์ของวิทยาลัย www.kmpht.ac.th หรือส่งไปรษณียบัตรมาที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ และสาธารณสุขกาญจนาภิเษก ถ.คลองขวาง-เจ้าเฟือง ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทยน้อย จ.นนทบุรี 11150 หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-5254149-50 ต่อ 1207
นพ.นิทัศน์ รายยวา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในระบบบริการสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในสาขาเวชระเบียน เกี่ยวกับการให้รหัสทางการแพทย์ การจัดการเวชระเบียน ด้วยนำการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับงานเวชระเบียนให้สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงานด้านเวชระเบียนควบคู่กับการนำระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเข้ามาใช้เพื่อให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน จำเป็นต้องมีข้อมูลของผู้ใช้บริการให้ครอบคลุมรอบด้านและทันเวลา โดยข้อมูลสถิติและรายงานเหล่านี้จะต้องจัดส่งให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรประกาศนียบัตรเวชระเบียน หรือ วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาเวชระเบียน และเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถให้รหัสโรค รหัสผ่าตัด หัตถการและการจัดทำสถิติ รายงานข้อมูลได้เป็นอย่างดี
นพ.นิทัศน์ กล่าวอีกว่า ขณะที่โรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะโรงพยาบาลภาคเอกชนยังขาดแคลนบุคลากรกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศในปัจจุบันยังมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ส่งผลต่อการดำเนินการด้านระบบสุขภาพของประเทศ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดให้มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะมีบทบาทในการจัดฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านเวชระเบียน จัดทำหลักสูตรผู้ตรวจสอบเวชระเบียน และการพัฒนาอบรมต่อเนื่อง วิจัยประเมินผลการจัดอบรมหลักสูตร
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบเวชระเบียนของ สปสช.ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 พบว่า เวชระเบียนของหน่วยบริการมีความคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ดังผลการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2549-2554 พบความผิดพลาดร้อยละ 43, 65, 61, 87, 90 และ 91 ดังนั้นเพื่อให้หน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับของประเทศ มีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านเวชระเบียน มารับหน้าที่ในการบันทึก การจัดเก็บ การให้รหัสโรค รหัสผ่าตัด และหัตถการ รวมถึงการจัดทำสถิติ รายงานด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลโรค สาเหตุการเกิดโรคและการรักษาเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก สถาบันพระบรมราชชนก ร่วมกับ สปสช.ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชระเบียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในหน่วยบริการสาธารณสุข ขึ้น มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ก.ค.55-30 ก.ย.57 สปสช.สนับสนุนงบประมาณ 15 ล้านบาทในการดำเนินการ
นางบังอร ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขกาญจนาภิเษก กล่าวว่า วิทยาลัยได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาด้านงานด้านเวชระเบียน ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก การจัดเก็บ การให้รหัสโรค รหัสผ่าตัดและหัตถการ รวมถึงการจัดทำสถิติ รายงานด้านสุขภาพ ซึ่งต้องนำมาใช้ในการวางแผนการรักษา การควบคุม ป้องกันโรค ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพให้เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นโครงการอบรมระยะสั้นแบบต่อเนื่องเพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถและทักษะของผู้ปฏิบัติงานของหน่วยบริการด้านเวชระเบียนในสถานบริการสาธารณสุขที่ยังไม่มีคุณวุฒิด้านเวชระเบียน ได้มีคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถและทักษะสามารถปฏิบัติงานด้านเวชระเบียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อระบบข้อมูลสุขภาพของประเทศที่มีความครบถ้วน ถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าอบรมได้ที่ทางเว็บไซต์ของวิทยาลัย www.kmpht.ac.th หรือส่งไปรษณียบัตรมาที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ และสาธารณสุขกาญจนาภิเษก ถ.คลองขวาง-เจ้าเฟือง ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทยน้อย จ.นนทบุรี 11150 หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-5254149-50 ต่อ 1207
