เปิดผลสำรวจเด็กบ้านกาญจนาฯ พบน้ำเมาทำชีวิตพัง ปลื้ม!! 99.1% พร้อมใจเลิกเหล้าเป็นของขวัญให้แม่ หวังภาครัฐแก้ปัญหาแอลกอฮอล์ตรงจุด ขณะที่ “อธิบดีกรมพินิจ” ชี้ คดีวัยโจ๋ 60% ทำผิดเพราะเหล้า แนะใช้โอกาสวันแม่เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายละครรณรงค์ DDD มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก จัดเสวนา “ผมจะเลิกเหล้า...เพื่อแม่” เนื่องในวันแม่แห่งชาติปี 2555 ภายในงานมีการแสดงละคร “เมื่อลูกก้าวพลาดกับความรักของแม่”, เยาวชนบ้านกาญจนาฯประกาศที่จะเลิกเหล้าเป็นของขวัญต่อหน้าแม่ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 50 คน
นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ในภาพรวมปัญหาคดีเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มลดลง ปี 2553 มีเยาวชนทำความผิด 44,057 ราย ปี 2554 มี 35,049 ราย และในจำนวนคดีที่เกิดขึ้นเกินกว่า 50% เยาวชนจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนลงมือ และมักทำความผิดที่รุนแรงกว่าเยาวชนที่ไม่ดื่ม นอกจากนี้ คดีที่เกิดขึ้น 60% มีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงคดีของเด็กแว้น 31% ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลในสถานพินิจและศูนย์ฝึกฯ พบว่า อายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มจะอยู่ที่ 14 ปี ซึ่งถือว่าต่ำมาก แต่ที่น่าตกใจกว่า นั้นคือ มีเยาวชนที่รู้จักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันแล้วในวัยเพียง 5 ขวบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย ที่กำลังจะบ่งบอกอนาคตและทิศทางของสังคมไทย ทั้งนี้ เชื่อว่า กิจกรรมเลิกเหล้าเพื่อแม่จะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กระตุ้นเตือนให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความรักของแม่ให้มาก และควรใช้โอกาสวันแม่ในการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันเยาวชนไม่ให้เดินทางผิดโดยมีแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุ
นายเอ (นามสมมติ) เยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและประสบการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนชายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญนาภิเษก 130 ราย อายุ 15 ปีขึ้นไป สำรวจระหว่างวันที่ 7-8 ส.ค.2555 พบว่า กว่า 87% เคยดื่มเหล้า และ 73.2% มองว่า เหล้าเป็นปัจจัยกระตุ้นในการทำผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน เยาวชน 94.8% ยังระบุว่า การดื่มเหล้าส่งผลกระทบต่อแม่ และที่น่ายินดี คือ เกือบทั้งหมด หรือ 99.1% ตัดสินใจ และพร้อมจะเลิกเหล้าเพื่อแม่ เนื่องจากต้องการมอบเป็นของขวัญกับแม่ อยากให้แม่หายห่วง และครอบครัวมีความสุข เมื่อถามถึงมาตรการของภาครัฐในการป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เยาวชนชี้ว่า ควรเร่งลงมือทำ เอาจริงเอาจังในการควบคุม และหน่วยงานที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงศึกษา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
นายเอ (นามสมมติ) เล่าถึงชีวิตที่ผิดพลาดของตน ว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาครอบครัว พ่อดื่มเหล้าหนักมากและทะเลาะกับแม่บ่อยครั้ง ทำร้ายร่างกายตนและแม่ จึงทำให้ครอบครัวแตกแยก หลังจากนั้น ตนก็ดื่มหนักขึ้น และมักจะมีเรื่องทุบตีทำร้ายแฟนสาวอยู่เป็นประจำ ในที่สุดก็หลงผิดเข้าสู่วงจรยาเสพติด ซึ่งชีวิตทุกวันนี้ก็มีแต่แม่ที่คอยให้กำลังใจ และก็สัญญาว่าหลังจากพ้นโทษจะปรับปรุงตัวใหม่ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี เป็นคนดีของสังคม และเป็นลูกที่ดี แบ่งเบาภาระของแม่เพราะทุกวันนี้แม่ต้องเหนื่อยมาก แม่ทำงานหนักทุกวัน แต่ตนยังไม่สามารถช่วยอะไรแม่ได้เลย
ด้าน นายบี (นามสมมติ) เยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สะท้อนถึงช่วงชีวิตที่เคยก้าวพลาด และพร้อมที่จะเลิกเหล้าเพื่อแม่ กล่าวว่า ตนมาจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่เคยเห็นหน้าแม่ตั้งแต่เกิด แม่มีครอบครัวใหม่ทิ้งให้ตนอยู่กับย่า ในช่วงที่เรียน ม.1 เริ่มดื่มเหล้า เข้ากลุ่มกับเพื่อนทำสิ่งผิดกฎหมายคึกคะนอง ทำแล้วเหมือนให้เพื่อนยอมรับ นายแน่นายเจ๋ง ไม่สนใจใคร จนในวันหนึ่งหลังจากวงเหล้า เพื่อนๆ ก็พากันรุมโทรมผู้หญิง ซึ่งเป็นคนที่ผมชวนเธอมา แต่ด้วยความเมาผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร แถมยังยุส่ง แม้ว่าผมจะไม่ได้มีอะไรกับเธอเหมือนคนอื่น แต่ผมก็ต้องโดนข้อหารุมโทรม ทำให้ต้องสูญเสียอิสรภาพ ในวัยเพียง 16 ปี สุดท้ายต้องมาอยู่ที่บ้านกาญจนาภิเษก จนถึงทุกวันนี้ และที่นี่เองทำให้ผมคิดได้และคิดเป็น ในเรื่องความถูกหรือความผิด ใจเขาใจเรา การเคารพและให้เกียรติผู้อื่น ความเท่าเทียมหญิงชาย และอีกหลายๆ อย่าง วันนี้ผมกำลังชดใช้กับที่ทำลงไป และมุ่งมั่นที่จะเป็นคนดี นำเรื่องราวชีวิตที่ก้าวพลาดเป็นบทเรียนให้คนรุ่นหลัง และผมมั่นใจว่า ถ้าวันนั้นผมมีสติ ทุกอย่างจะไม่ลงเอยแบบนั้น
“เป็นเวลาเกือบ 7 ปี แล้วที่ตนต้องสูญเสียอนาคต เพียงเพราะความเมา ขาดความยับยั้งชั่งใจ แต่ในวันที่ก้าวเข้าสู่การคุมขัง กลับพบเรื่องดีๆ ในชีวิต เพราะแม่กลับมาหา ซึ่งตอนนั้นมองว่า แม่คือคนที่แปลกหน้า ทำไมต้องทิ้งเราไป แต่พอได้กอดแม่ครั้งแรกในชีวิตที่รอคอยมา 20 ปี ความรู้สึกที่ไม่ดีที่เคยมีต่อแม่เหมือนมันทลายกำแพงความอคติลงไปทันที รู้สึกได้ว่าแม่หรือทุกคนมีเหตุผลที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป และเมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรม “เลิกเหล้าเพื่อแม่” ก็รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ดี เพราะเหล้าเป็นสาเหตุต่างๆ ที่นำพาให้ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ และการเลิกเหล้าเพื่อแม่เป็นสิ่งหนึ่งที่ตนจะทำเพื่อแม่ ทำให้กับคนที่เรารักและเราควรทำตั้งแต่ที่เขายังอยู่ดีกว่าจะทำความดีตอนที่ไม่มีแม่อยู่แล้ว” นายบี กล่าว
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายละครรณรงค์ DDD มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก จัดเสวนา “ผมจะเลิกเหล้า...เพื่อแม่” เนื่องในวันแม่แห่งชาติปี 2555 ภายในงานมีการแสดงละคร “เมื่อลูกก้าวพลาดกับความรักของแม่”, เยาวชนบ้านกาญจนาฯประกาศที่จะเลิกเหล้าเป็นของขวัญต่อหน้าแม่ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 50 คน
นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ในภาพรวมปัญหาคดีเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มลดลง ปี 2553 มีเยาวชนทำความผิด 44,057 ราย ปี 2554 มี 35,049 ราย และในจำนวนคดีที่เกิดขึ้นเกินกว่า 50% เยาวชนจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนลงมือ และมักทำความผิดที่รุนแรงกว่าเยาวชนที่ไม่ดื่ม นอกจากนี้ คดีที่เกิดขึ้น 60% มีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงคดีของเด็กแว้น 31% ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลในสถานพินิจและศูนย์ฝึกฯ พบว่า อายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มจะอยู่ที่ 14 ปี ซึ่งถือว่าต่ำมาก แต่ที่น่าตกใจกว่า นั้นคือ มีเยาวชนที่รู้จักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันแล้วในวัยเพียง 5 ขวบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย ที่กำลังจะบ่งบอกอนาคตและทิศทางของสังคมไทย ทั้งนี้ เชื่อว่า กิจกรรมเลิกเหล้าเพื่อแม่จะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กระตุ้นเตือนให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความรักของแม่ให้มาก และควรใช้โอกาสวันแม่ในการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันเยาวชนไม่ให้เดินทางผิดโดยมีแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุ
นายเอ (นามสมมติ) เยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและประสบการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนชายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญนาภิเษก 130 ราย อายุ 15 ปีขึ้นไป สำรวจระหว่างวันที่ 7-8 ส.ค.2555 พบว่า กว่า 87% เคยดื่มเหล้า และ 73.2% มองว่า เหล้าเป็นปัจจัยกระตุ้นในการทำผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน เยาวชน 94.8% ยังระบุว่า การดื่มเหล้าส่งผลกระทบต่อแม่ และที่น่ายินดี คือ เกือบทั้งหมด หรือ 99.1% ตัดสินใจ และพร้อมจะเลิกเหล้าเพื่อแม่ เนื่องจากต้องการมอบเป็นของขวัญกับแม่ อยากให้แม่หายห่วง และครอบครัวมีความสุข เมื่อถามถึงมาตรการของภาครัฐในการป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เยาวชนชี้ว่า ควรเร่งลงมือทำ เอาจริงเอาจังในการควบคุม และหน่วยงานที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงศึกษา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
นายเอ (นามสมมติ) เล่าถึงชีวิตที่ผิดพลาดของตน ว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาครอบครัว พ่อดื่มเหล้าหนักมากและทะเลาะกับแม่บ่อยครั้ง ทำร้ายร่างกายตนและแม่ จึงทำให้ครอบครัวแตกแยก หลังจากนั้น ตนก็ดื่มหนักขึ้น และมักจะมีเรื่องทุบตีทำร้ายแฟนสาวอยู่เป็นประจำ ในที่สุดก็หลงผิดเข้าสู่วงจรยาเสพติด ซึ่งชีวิตทุกวันนี้ก็มีแต่แม่ที่คอยให้กำลังใจ และก็สัญญาว่าหลังจากพ้นโทษจะปรับปรุงตัวใหม่ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี เป็นคนดีของสังคม และเป็นลูกที่ดี แบ่งเบาภาระของแม่เพราะทุกวันนี้แม่ต้องเหนื่อยมาก แม่ทำงานหนักทุกวัน แต่ตนยังไม่สามารถช่วยอะไรแม่ได้เลย
ด้าน นายบี (นามสมมติ) เยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สะท้อนถึงช่วงชีวิตที่เคยก้าวพลาด และพร้อมที่จะเลิกเหล้าเพื่อแม่ กล่าวว่า ตนมาจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่เคยเห็นหน้าแม่ตั้งแต่เกิด แม่มีครอบครัวใหม่ทิ้งให้ตนอยู่กับย่า ในช่วงที่เรียน ม.1 เริ่มดื่มเหล้า เข้ากลุ่มกับเพื่อนทำสิ่งผิดกฎหมายคึกคะนอง ทำแล้วเหมือนให้เพื่อนยอมรับ นายแน่นายเจ๋ง ไม่สนใจใคร จนในวันหนึ่งหลังจากวงเหล้า เพื่อนๆ ก็พากันรุมโทรมผู้หญิง ซึ่งเป็นคนที่ผมชวนเธอมา แต่ด้วยความเมาผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร แถมยังยุส่ง แม้ว่าผมจะไม่ได้มีอะไรกับเธอเหมือนคนอื่น แต่ผมก็ต้องโดนข้อหารุมโทรม ทำให้ต้องสูญเสียอิสรภาพ ในวัยเพียง 16 ปี สุดท้ายต้องมาอยู่ที่บ้านกาญจนาภิเษก จนถึงทุกวันนี้ และที่นี่เองทำให้ผมคิดได้และคิดเป็น ในเรื่องความถูกหรือความผิด ใจเขาใจเรา การเคารพและให้เกียรติผู้อื่น ความเท่าเทียมหญิงชาย และอีกหลายๆ อย่าง วันนี้ผมกำลังชดใช้กับที่ทำลงไป และมุ่งมั่นที่จะเป็นคนดี นำเรื่องราวชีวิตที่ก้าวพลาดเป็นบทเรียนให้คนรุ่นหลัง และผมมั่นใจว่า ถ้าวันนั้นผมมีสติ ทุกอย่างจะไม่ลงเอยแบบนั้น
“เป็นเวลาเกือบ 7 ปี แล้วที่ตนต้องสูญเสียอนาคต เพียงเพราะความเมา ขาดความยับยั้งชั่งใจ แต่ในวันที่ก้าวเข้าสู่การคุมขัง กลับพบเรื่องดีๆ ในชีวิต เพราะแม่กลับมาหา ซึ่งตอนนั้นมองว่า แม่คือคนที่แปลกหน้า ทำไมต้องทิ้งเราไป แต่พอได้กอดแม่ครั้งแรกในชีวิตที่รอคอยมา 20 ปี ความรู้สึกที่ไม่ดีที่เคยมีต่อแม่เหมือนมันทลายกำแพงความอคติลงไปทันที รู้สึกได้ว่าแม่หรือทุกคนมีเหตุผลที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป และเมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรม “เลิกเหล้าเพื่อแม่” ก็รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ดี เพราะเหล้าเป็นสาเหตุต่างๆ ที่นำพาให้ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ และการเลิกเหล้าเพื่อแม่เป็นสิ่งหนึ่งที่ตนจะทำเพื่อแม่ ทำให้กับคนที่เรารักและเราควรทำตั้งแต่ที่เขายังอยู่ดีกว่าจะทำความดีตอนที่ไม่มีแม่อยู่แล้ว” นายบี กล่าว