“หึง-หวง” ชนวนรัก...รุนแรง เตือนหนุ่มๆ สาวๆ มี “รักเดียว ใจเดียว”

โดย..จารยา บุญมาก

เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลได้เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับ “ทัศนคติผู้ชายกับความรุนแรงที่ซ่อนแฝงในความรัก” พบว่า เพศชายกว่า 82% ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงกับคนรัก ในทุกสถานการณ์ ทว่ายังมีประเด็นที่น่าห่วงหลายเรื่อง โดยเฉพาะทัศนคติชายไทย พบ 31% ระบุว่า ว่าตนเองสามารถนอกใจแฟน และภรรยาได้ แต่ฝ่ายหญิงไม่มีสิทธ์นั้น และ 36.1% ยังเชื่อว่าผู้หญิงต้องแสดงออกถึงความรักด้วยการยอมมีเพศสัมพันธ์

ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้คนส่วนใหญ่เห็นว่า นิสัยผู้ชายนั้นเห็นแก่ตัว และมีการหึงหวงผู้หญิงซึ่งเป็นคนรักเพียงใด

ทว่า ในมุมของ น้องเอ (นามสมมติ ) อายุ 19 ปี เยาวชน เยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก มองว่า ปัญหาการหึงหวงย่อมเกิดขึ้นกับทุกคนโดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งตนทราบดีว่า การใช้ความรุนแรงนั้นเป็นผลด้านลบเสมอ และยิ่งเคยห้าวพลาดก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาแล้วครั้งหนึ่งในชีวิต ก็จะต้องไม่มีครั้งที่สอง เพราะรู้ว่านำมาซึ่งความสูญเสียหลายด้าน นอกจากคนรักและตัวเองจะเจ็บตัวจากการก่อความรุนแรงแล้ว ยังต้องสูญเสียแฟนไปตลอด แทนที่จะมีรักใสๆ สวยงามแบบวัยรุ่นก็กลับกลายเป็นว่า สูญเสียคนรักไปตลอดชีวิต

“ทุกวันนี้ผมใช้ชีวิตแบบใจเย็นขึ้น ทุกครั้งที่เกิดปัญหากับเพื่อน กับแฟน กับครอบครัวก็จะใช้วิธีการพูดคุย ทำความเข้าใจกันและให้เกียรติกับทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งแค่ความรักความเข้าใจที่มีให้ ผมว่ามากพอแล้ว และที่สำคัญคือจะต้องไม่พาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่นิยมความรุนแรงด้วย และหากพบเพื่อนที่มีพฤติกรมรใช้ความรุนแรงก็จะแนะนำให้ใจเย็นลง เพื่อแก้ปัญหา” นายเอ เล่า

ปัจจุบันเอและเพื่อนๆ ในบ้านกาญจนาฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์งดการใช้ความรุนแรง ป้องกันปัญหาครอบครัว และปัญหาคู่รัก โดยเจ้าตัวทิ้งท้ายไว้ว่า อย่างน้อยหากใครที่ยังมีพฤติกรรมแย่ๆ อยู่ก็ให้เริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองจากเดือนแห่งความรักนี้ สานต่อความเข้าใจมากกว่าการชวนทะเลาะ

นายพรณรง ปั้นทอง อายุ 46 ปี แกนนำผู้ชายต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ ลด ละ เลิกเหล้า : ลดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กบ้านคำกลาง จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ตนเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงอายุ 15 ปีและเริ่มดื่มหนักขึ้นเรื่อยๆจากหน้าที่การงานที่เป็นถึงระดับหัวหน้า มีรายได้เพิ่มมากขึ้น500-1,000 บาทต่อวัน มีรถประจำตำแหน่ง ส่วนใหญ่จึงเป็นการดื่มเหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับเพื่อนร่วมงานตามร้านอาหาร ชอบเหวี่ยงและแสดงพฤติกรรมรุนแรงเสมอ เพื่ออวดความเก่งกล้า และติดนิสัยอารมณ์ร้อน แม้จะแต่งงานมีลูก 2 คนแล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งพฤติกรรมเดิมคือรักสนุก ไม่มีความรับผิดชอบ มีผู้หญิงในเวลาเดียวกันถึง 3 คน เคยมีผู้หญิงตบตีกันเพราะแย่งตนเอง แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องสนุกมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งต้องตกงาน เพราะพิษเศรษฐกิจ ไม่มีเงินใช้จ่าย เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เพราะผลจากการดื่มเหล้าหนัก จึงตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน

ส่วนการที่ได้มาเป็นแกนนำผู้ชายต้นแบบฯนั้น เพราะได้เห็นตัวอย่างของกำนันที่หมู่บ้านมาทำงานช่วยเหลือผู้หญิงที่เดือดร้อน ทำให้ตนคิดถึงสิ่งที่เคยทำไม่ดีกับผู้หญิงหลายคนเพื่อจะไถ่บาปที่ตนได้เคยทำกับผู้หญิงไว้ จึงตัดสินใจเลิกดื่มเหล้าจนสำเร็จ ทุกวันนี้ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเองและใช้ประสบการณ์ชีวิตที่เคยพลาดเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นต่อไป

แม้ไม่ได้มีคุณสมบัติที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสุภาพบุรุษที่ดี 100 % แต่ทัศนคติของชายต่างวัยทั้งสองคนก็เชื่อว่า หญิงและชายต่างมีสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้นหากเลือกที่จะรักก็ต้องไม่มีการนอกใจ และต้องหมั่นสร้างสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ไม่มีช่วงเวลาพิเศษในวัน หรือ เดือนแห่งความรัก แต่อย่างน้อยมีรักเดียวใจเดียวและอยู่อย่างเข้าใจ ให้เกียรติสม่ำเสมอ ก็ถือว่า เป็นของขวัญที่สวยงามและมั่นคงพอแล้ว