xs
xsm
sm
md
lg

เผยโพลเด็กบ้านกาญจนาฯ อึ้งโจ๋ 84.7% เป็นผีพนันตั้งแต่เด็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
“เปิดผลโพลเด็กบ้านกาญจนาฯ” อึ้งวัยโจ๋ 84.7% เป็นผีพนันตั้งแต่ยังเด็ก เกินครึ่งเล่นครั้งแรกตอน 10 ขวบ ชี้ เล่นสูงสุด 9 หมื่นบาท พบปัญหาโยงใย ทั้ง หนี้สิน อาชญากรรม ยาเสพติด ขณะที่เยาวชนก้าวพลาดยอมเปิดใจ หนี้ท่วมหัว 8 หมื่นเพียงคืนเดียว ตัดสินใจก่อเหตุ จนต้องโทษ 7 ปี วอนภาครัฐแก้ปัญหา ปัดฝุ่นกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษ

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายละครรณรงค์ DDD จัดเสวนา “เด็กและเยาวชน...กับวิกฤตพนันในสังคมไทย” โดยมีเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ที่เคยเกี่ยวข้องกับวงจรการพนัน เข้าร่วมกว่า 40 คน ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดงละครสะท้อนปัญหาที่เกิดจากการพนันด้วย

นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า ปัจจุบันการเล่นพนันมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนที่ขาดความยั้งคิด จนพัฒนากลายเป็นนักพนันหน้าใหม่ เห็นได้จากการศึกษาวิจัยของนักวิชาการ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ระบุว่า ธุรกิจพนันออนไลน์มีการเติบโตถึงปีละ 20% ขณะเดียวกัน ปัญหาดังกล่าว กฎหมายไม่สามารถจัดการได้ เนื่องจากความล้าหลังของพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ครอบคลุมถึงการเล่นพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน จนเกิดเป็นช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย นอกกจากนี้สิ่งที่เครือข่ายฯกังวลคือแนวโน้มว่ารัฐบาลใหม่อาจจะปัดฝุ่นตู้อัตโนมัติขายฉลากกินแบ่ง รวมไปถึงหวย 2 ตัว 3 ตัว ขึ้นมาอีก ส่งผลให้สถานการณ์จากการเล่นพนันรุนแรงมากขึ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซ้ำเติมปัญหาสังคมที่ย่ำแย่อยู่แล้ว

นายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า จากการสำรวจ “พฤติกรรมและผลกระทบจากการเล่นพนัน รวมถึงความคาดหวังในการป้องกันและแก้ไขปัญหา” ในเยาวชนชายบ้านกาญจนาฯทั้งหมด 189 ราย ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ค.2554 พบว่า เยาวชนกว่า 84.7% เคยมีประสบการณ์เล่นการพนัน ขณะเดียวกัน เกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53.1% ระบุว่า เริ่มเล่นการพนันครั้งแรกตอนอายุเพียง10 ปี สำหรับพนันที่เล่นบ่อยที่สุด คือ ไพ่ ลองลงมา ตู้ม้า ตู้สล็อต พนันบอล ไฮโล หวย เป็นต้น สำหรับสถานที่ยอดฮิตที่นิยมเล่น ได้แก่ บ้านเพื่อน 48.1% บ้านตัวเอง 24.4% และบ่อนการพนัน 10.6% ส่วนปัจจัยที่ทำให้หันหน้าเข้าหาการพนัน เยาวชน ระบุว่า 48.8% เล่นแล้วสนุกสนาน 25.6% อยากได้เงิน 11.2% อยากรู้อยากลอง

“เพื่อนเยาวชน 53.1% ยอมรับว่า ภายใน 1 เดือนจะต้องเล่นการพนันประมาณ 1-5 ครั้ง รองลงมา 14.4% เล่น 6-10 ครั้ง ส่วน 8.1% บอกว่า เล่นทุกวัน และที่น่าตกใจคือ เยาวชนบางคน ตั้งใจนำเงินที่มีอยู่มาเล่นการพนันในวงเงินที่สูงถึง 30,000-90,000 บาทต่อครั้ง สำหรับผลกระทบที่ตามมาคือ ต้องหาเงินใช้หนี้พนันด้วยวิธีที่ผิด เช่น การปล้น การค้ายาเสพติด ลักขโมย หรือแม้แต่ บังคับให้แฟนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อใช้หนี้พนัน” นายเอ กล่าว

เยาวชนจากบ้านกาญจนาฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางแก้ปัญหาการเล่นพนัน เยาวชน 32.3% แสดงความเห็นว่า กฎหมายต้องเข้มงวด 22.2% เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่อย่างสุจริต นอกจากนี้เยาวชนมองว่ามีเพียงส่วนน้อย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงศึกษาจะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน 93.7% เห็นด้วยหากรัฐบาลจะมีหน่วยงานเฉพาะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนัน และสำคัญที่สุดเยาวชนส่วนใหญ่ หรือ 88.4% บอกว่าไม่ต้องการให้เมืองไทยมีบ่อนเสรี

ขณะที่นายบี (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี เยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวสะท้อนชีวิตที่เคยก้าวพลาดจากการเล่นพนันว่า ตนเริ่มเข้าสู่วงจรพนันตั้งแต่อายุได้เพียง 8 ปี เพราะชอบการเสี่ยงโชค อยากรู้อยากลอง อยากมีเงินใช้โดยไม่ต้องขอพ่อ เมื่ออายุได้ 12 ปี ก็เริ่มเล่นพนันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเปิดบ่อนเล่นไพ่ที่บ้าน เล่นพนันทายผลฟุตบอล เพียงวันเดียวติดหนี้พนันบอลกว่า 8 หมื่นบาท จนต้องหนี เพราะโดนขู่เอาชีวิต หากไม่มีเงินมาใช้หนี้ ส่วนการเรียนก็ต้องทิ้งไป ทรัพย์สินที่มีอยู่โดยเจ้ามือโต๊ะบอลยึดไว้ทั้งหมด ด้วยสถานการณ์บังคับจึงต้องหาทางใช้หนี้ด้วยวิธีที่ผิด ด้วยการปล้นรถจักรยานยนต์ ของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาเพื่อนำไปขายใช้หนี้พนัน อาทิตย์หนึ่งได้มา 3-4 คัน แต่พอใช้หนี้หมดความโลภก็ไม่สิ้นสุด ยังคงปล้นเอารถไปขายต่อไป เพราะได้เงินมาง่ายๆ ก็เอาไปเล่นพนันต่อ จนกระทั่งวันหนึ่งได้ก่อเหตุอีกครั้ง มีการต่อสู้จนเหยื่อเสียชีวิต ต้องหลบหนีการจับกุมอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ถูกตำรวจจับดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และศาลตัดสินจำคุก 7 ปี 6 เดือน

นายบี กล่าวต่อไปว่า การออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตนในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ ในการตั้งใจทำความดีด้วยความสำนึกต่อสิ่งที่เคยกระทำผ่านมา ในฐานะตัวแทนเยาวชนที่ก้าวพลาด จึงอยากสะท้อนเรื่องราวชีวิตเหล่านี้ ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคมและเยาวชนที่กำลังหลงผิด อย่างไรก็ตามเพื่อให้ปัญหาจากการพนันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เยาวชนบ้านกาญจนาฯ ขอเสนอแนวทาง ผ่านไปยังภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปพิจารณา ดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลมีนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันกับเด็กและเยาวชนโดยเร่งด่วน 2.ขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ให้ทันสมัยและ คลอบคลุมการพนันรูปแบบใหม่และพนันออนไลน์ 3.ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เสมอภาค และให้มีหน่วยงานตรวจสอบการรับผลประโยชน์จากการพนัน ถ่วงดุลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4.ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชน และ 5.ขอให้สื่อมวลชนไม่นำเสนอข่าวสารในลักษณะให้แต้มต่อ หรือยั่วยุให้เกิดการพนัน
กำลังโหลดความคิดเห็น