กรีนพีซ เตรียมผลักดันกฎหมายพลังงานหมุนเวียน ตั้งเป้าขอรายชื่อสนับสนุน 55,555 รายชื่อ ลั่น พลังงานสะอาดจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป “รสนา” หนุนเต็มที่ ชี้ ต้องปฏิวัติพลังงานทั้งระบบ และผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ
นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า กรีนพีซเตรียมผลักดันกฎหมายพลังงานหมุนเวียนฉบับแรกของประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนพลังงานสกปรกเป็นพลังงานสะอาด โดยจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยมีการปฏิวัติพลังงาน เนื่องจากที่ผ่านมาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ มาจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งผลกระทบต่อประชนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพและการประกอบอาชีพของประชาชน
“กฎหมายพลังงานหมุนเวียนต้องเป็นนโยบายระดับชาติที่ยึดถือประโยชน์ของประชาชน และสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการลงทุนด้านการพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืน โดยทุกครัวเรือนสามารถผลิตและใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียนอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งการบริหารจัดการโครงข่ายไฟฟ้าต้องมีความโปร่งใส และราคาไฟฟ้าต้องมีความเป็นธรรมทั้งต่อผู้ผลิตและผู้ใช้ พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และยั่งยืนจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นความฝันอีกต่อไป แต่จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดในเร็วๆนี้” นางสาวณัฐวิภา กล่าว
ด้าน นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ซึ่งศึกษาเรื่องพลังงานของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ให้ข้อคิดเห็นว่า เห็นด้วยที่กรีนพีซรณรงค์เรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และคนไทยควรช่วยกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดขึ้น รวมทั้งกฎหมายพลังงานอื่นๆ ทั้งระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิวัติพลังงานทั้งระบบและป้องกันไม่ให้เกิดการลักลั่นในการนำไปปฏิบัติ ทั้งนี้ หากกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ต้องทำให้พลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนใหญ่ที่สุด และต้องมีการกระจายอำนาจให้ชุมชนบริหารจัดการเองภายใต้แนวคิดเรื่อง “จังหวัดจัดการตนเอง” ในโครงการ “1 ชุมชน 1 เมกะวัตต์” ที่ชาวบ้านในหลายพื้นที่เริ่มคิดกัน เพราะเห็นว่า การรวมศูนย์ไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไปแล้ว
“ประเทศไทยต้องมีการปฏิวัติพลังงานทั้งระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยต้องทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องตกผลึกให้ได้ว่าสิ่งที่เราอยากจะเห็นในอนาคตคืออะไร มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร โดยเรื่องดังกล่าวอาจจะใช้เวลาเป็นปีก็ได้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และถือเป็นปฏิบัติการที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างกฎหมายของตัวเองอย่างแท้จริง” นางสาวรสนา กล่าว
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 1-18 ส.ค.2555 กรีนพีซจะจัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ปฏิวัติพลังานผ่านกฎหมายพลังงานหมุนเวียน” ขึ้นที่ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โดยนำ “โดมกู้วิกฤตโลกร้อน” (Climate Rescue Station) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการรณรงค์เรื่องการกอบกู้วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลายประเทศ มาจัดแสดง และใช้เป็นสถานที่ในการจัดนิทรรศ การเสวนาต่างๆ เพื่อให้ความรู้และข้อมูลกับประชาชน
กรีนพีซ และ Fat Radio 104.5 ในฐานะพันธมิตรสื่อมวลชน ขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อสนับสนุนให้กฎหมายพลังงานหมุนเวียนไทยเป็นนโยบายระดับชาติที่ยึดถือประโยชน์ของประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้งอย่างน้อย 55,555 รายชื่อ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้กรีนพีซได้เริ่มรณรงค์ทางสังคมออนไลน์แล้ว โดยได้รับเกียรติจาก สิงโต นำโชค และ ตั้ม-โมโนโทน นักร้องขวัญใจวัยรุ่น ร่วมกันแต่งเพลงเพื่อใช้ในการณรงค์ครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวมิวสิกวิดิโอเพลง “ถ้าหากมีเธอก็คงดี” เร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานสตรีทมิวสิกและคอนเสิร์ตจากนักร้อง และวงดนตรีชื่อดัง อาทิ เช่น เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, วง ETC, Modern dog, Cresendo, Playground, STAMP, แป้งโกะ ฯลฯ ในสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร โดยในวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.2555 เวลา 15.30-16.30 น.วง ETC จะทำการแสดงดนตรีสดที่ ลานหน้า Digital Gateway สยามสแควร์
นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า กรีนพีซเตรียมผลักดันกฎหมายพลังงานหมุนเวียนฉบับแรกของประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนพลังงานสกปรกเป็นพลังงานสะอาด โดยจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยมีการปฏิวัติพลังงาน เนื่องจากที่ผ่านมาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ มาจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งผลกระทบต่อประชนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพและการประกอบอาชีพของประชาชน
“กฎหมายพลังงานหมุนเวียนต้องเป็นนโยบายระดับชาติที่ยึดถือประโยชน์ของประชาชน และสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการลงทุนด้านการพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืน โดยทุกครัวเรือนสามารถผลิตและใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียนอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งการบริหารจัดการโครงข่ายไฟฟ้าต้องมีความโปร่งใส และราคาไฟฟ้าต้องมีความเป็นธรรมทั้งต่อผู้ผลิตและผู้ใช้ พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และยั่งยืนจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นความฝันอีกต่อไป แต่จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดในเร็วๆนี้” นางสาวณัฐวิภา กล่าว
ด้าน นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ซึ่งศึกษาเรื่องพลังงานของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ให้ข้อคิดเห็นว่า เห็นด้วยที่กรีนพีซรณรงค์เรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และคนไทยควรช่วยกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดขึ้น รวมทั้งกฎหมายพลังงานอื่นๆ ทั้งระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิวัติพลังงานทั้งระบบและป้องกันไม่ให้เกิดการลักลั่นในการนำไปปฏิบัติ ทั้งนี้ หากกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ต้องทำให้พลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนใหญ่ที่สุด และต้องมีการกระจายอำนาจให้ชุมชนบริหารจัดการเองภายใต้แนวคิดเรื่อง “จังหวัดจัดการตนเอง” ในโครงการ “1 ชุมชน 1 เมกะวัตต์” ที่ชาวบ้านในหลายพื้นที่เริ่มคิดกัน เพราะเห็นว่า การรวมศูนย์ไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไปแล้ว
“ประเทศไทยต้องมีการปฏิวัติพลังงานทั้งระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยต้องทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องตกผลึกให้ได้ว่าสิ่งที่เราอยากจะเห็นในอนาคตคืออะไร มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร โดยเรื่องดังกล่าวอาจจะใช้เวลาเป็นปีก็ได้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และถือเป็นปฏิบัติการที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างกฎหมายของตัวเองอย่างแท้จริง” นางสาวรสนา กล่าว
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 1-18 ส.ค.2555 กรีนพีซจะจัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ปฏิวัติพลังานผ่านกฎหมายพลังงานหมุนเวียน” ขึ้นที่ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โดยนำ “โดมกู้วิกฤตโลกร้อน” (Climate Rescue Station) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการรณรงค์เรื่องการกอบกู้วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลายประเทศ มาจัดแสดง และใช้เป็นสถานที่ในการจัดนิทรรศ การเสวนาต่างๆ เพื่อให้ความรู้และข้อมูลกับประชาชน
กรีนพีซ และ Fat Radio 104.5 ในฐานะพันธมิตรสื่อมวลชน ขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อสนับสนุนให้กฎหมายพลังงานหมุนเวียนไทยเป็นนโยบายระดับชาติที่ยึดถือประโยชน์ของประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้งอย่างน้อย 55,555 รายชื่อ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้กรีนพีซได้เริ่มรณรงค์ทางสังคมออนไลน์แล้ว โดยได้รับเกียรติจาก สิงโต นำโชค และ ตั้ม-โมโนโทน นักร้องขวัญใจวัยรุ่น ร่วมกันแต่งเพลงเพื่อใช้ในการณรงค์ครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวมิวสิกวิดิโอเพลง “ถ้าหากมีเธอก็คงดี” เร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานสตรีทมิวสิกและคอนเสิร์ตจากนักร้อง และวงดนตรีชื่อดัง อาทิ เช่น เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, วง ETC, Modern dog, Cresendo, Playground, STAMP, แป้งโกะ ฯลฯ ในสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร โดยในวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.2555 เวลา 15.30-16.30 น.วง ETC จะทำการแสดงดนตรีสดที่ ลานหน้า Digital Gateway สยามสแควร์
