วธ.เสนอ 3 แนวทางขนส่งผู้แสวงบุญไปฮัจญ์ หลังการบินไทยปฏิเสธบินเที่ยวแรก และไม่ใช้สนามบินนราธิวาส
สืบเนื่องจากบริษัทการบินไทย ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ว่าไม่สามารถการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในระยะเริ่มแรกได้ และจะไม่ใช้สนามบินนราธิวาส โดยการบินไทยได้ชี้แจงว่ามีตารางบินปกติอยู่แล้ว จึงไม่สามารถจัดเตรียมเครื่องบินได้ทัน รวมถึงยังมีปัญหาการจำกัดจำนวนเที่ยวบินของการบินไทย ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่ใช่สนามบินนราธิวาส เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้นจึงได้เสนอแนวทางการบิน 3 แนวทาง ดังนี้ 1. ใช้มติคณะรัฐมนตรี โดยให้การบินไทยขนส่งผู้แสวงบุญรายเดียวเท่านั้น 2. ให้การบินไทย เป็นศูนย์กลางการบิน แต่อาจจะหาสายการบินอื่น เข้ามาร่วม ขนส่งผู้แสวงบุญ และ 3. ทำการเปิดประมูลสายการบินที่จะสามารถขนส่งผู้แสวงบุญได้ ซึ่งจะต้องมีการวางสัญญาการประมูลให้ชัดเจนว่าจะสามารถจัดเที่ยวบินในช่วงแรกได้กี่เที่ยว จำนวนเครื่องบินที่จะใช้ขนส่งผู้โดยสาร ตารางการบินเข้าประเทศซาอุฯ การบริการและอาหารบนเครื่องบิน น้ำหนักบรรทุกที่ผู้โดยสารสามารถขนสัมภาระไปได้ โดยไม่เสียค่าปรับ และระยะห่างของที่นั่งในเครื่องบิน
นายสมชายกล่าวว่า ปัจจุบันทางการซาอุดีอาระเบียได้มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นสายการบินแห่งชาติที่ขนส่งผู้แสวงบุญเท่านั้น เพราะสามารถหาผู้รับผิดชอบได้ง่าย แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากการบินไทยไม่สามารถจัดเที่ยวบินได้เพราะต้องรักษาเที่ยวบินหลักไว้ก่อน เราก็จำเป็นต้องหาแผนสำรองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ซึ่งอาจจะต้องมีการทบทวนมติ ครม.อีกครั้ง ถ้าสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแนวทางใหม่นี้ได้จะดำเนินการในปี 2556
อย่างไรก็ตาม สำหรับปีนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้กรมการศาสนา (ศน.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการดูแลและแก้ปัญหาฮัจญ์ทั้งระบบ ทั้งเรื่องการออกวีซ่าในระบบ และแก้ปัญหาวีซ่านอกระบบ การเช่าที่พัก การเดินทางออกจากสนามบินหลัก โดยมีนายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธาน และยังมีการตั้งคณะกรรมการฮัจญ์ที่สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินกระบี่และภูเก็ต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และสนามบินหาดใหญ่มี ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประธาน และวัฒนธรรมจังหวัดต่างๆ เป็นเลขานุการด้วย
สืบเนื่องจากบริษัทการบินไทย ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ว่าไม่สามารถการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในระยะเริ่มแรกได้ และจะไม่ใช้สนามบินนราธิวาส โดยการบินไทยได้ชี้แจงว่ามีตารางบินปกติอยู่แล้ว จึงไม่สามารถจัดเตรียมเครื่องบินได้ทัน รวมถึงยังมีปัญหาการจำกัดจำนวนเที่ยวบินของการบินไทย ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่ใช่สนามบินนราธิวาส เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้นจึงได้เสนอแนวทางการบิน 3 แนวทาง ดังนี้ 1. ใช้มติคณะรัฐมนตรี โดยให้การบินไทยขนส่งผู้แสวงบุญรายเดียวเท่านั้น 2. ให้การบินไทย เป็นศูนย์กลางการบิน แต่อาจจะหาสายการบินอื่น เข้ามาร่วม ขนส่งผู้แสวงบุญ และ 3. ทำการเปิดประมูลสายการบินที่จะสามารถขนส่งผู้แสวงบุญได้ ซึ่งจะต้องมีการวางสัญญาการประมูลให้ชัดเจนว่าจะสามารถจัดเที่ยวบินในช่วงแรกได้กี่เที่ยว จำนวนเครื่องบินที่จะใช้ขนส่งผู้โดยสาร ตารางการบินเข้าประเทศซาอุฯ การบริการและอาหารบนเครื่องบิน น้ำหนักบรรทุกที่ผู้โดยสารสามารถขนสัมภาระไปได้ โดยไม่เสียค่าปรับ และระยะห่างของที่นั่งในเครื่องบิน
นายสมชายกล่าวว่า ปัจจุบันทางการซาอุดีอาระเบียได้มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นสายการบินแห่งชาติที่ขนส่งผู้แสวงบุญเท่านั้น เพราะสามารถหาผู้รับผิดชอบได้ง่าย แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากการบินไทยไม่สามารถจัดเที่ยวบินได้เพราะต้องรักษาเที่ยวบินหลักไว้ก่อน เราก็จำเป็นต้องหาแผนสำรองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ซึ่งอาจจะต้องมีการทบทวนมติ ครม.อีกครั้ง ถ้าสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแนวทางใหม่นี้ได้จะดำเนินการในปี 2556
อย่างไรก็ตาม สำหรับปีนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้กรมการศาสนา (ศน.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการดูแลและแก้ปัญหาฮัจญ์ทั้งระบบ ทั้งเรื่องการออกวีซ่าในระบบ และแก้ปัญหาวีซ่านอกระบบ การเช่าที่พัก การเดินทางออกจากสนามบินหลัก โดยมีนายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธาน และยังมีการตั้งคณะกรรมการฮัจญ์ที่สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินกระบี่และภูเก็ต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และสนามบินหาดใหญ่มี ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประธาน และวัฒนธรรมจังหวัดต่างๆ เป็นเลขานุการด้วย