ศอ.บต.ขอโควตาพิเศษให้ผู้บริสุทธิ์แดนใต้ไปแสวงบุญฮัจญ์ วธ.จัดอบรมกลุ่มผู้นำรู้ข้อปฏิบัติก่อนพาชาวมุสลิมไปซาอุฯ ให้มีผู้นำ 1 ต่อ 50 คน
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่ โรงแรมพาวิลเลี่ยน จ. สงขลา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดอบรมผู้นำกลุ่มผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปี 2555 โดย นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ปีนี้ วธ. ได้จัดทำหลักสูตรการอบรมผู้นำกลุ่มผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ ขึ้นใหม่ ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้มีผู้นำ 1 คน ต่อ ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่จะเดินทางเป็นกลุ่มๆ ละ ไม่เกิน 50 คน เพื่อให้การเดินทางราบรื่น และปลอดภัยและผู้นำกลุ่มจะต้องผ่านการฝึกอบรม และมีบัตรประจำตัวผู้นำกลุ่ม จากสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์ฯ โดยการอบรมครั้งนี้ จัดให้มีการบรรยายด้านวิชาการ อาทิ กฎหมาย ระเบียบการจัดองค์กรกิจการฮัจญ์ พิธีการ เข้า - ออก ราชอาณาจักร และการใช้บริการท่าอากาศยาน การใช้เครื่องอำนวยความสะดวก บนเครื่องบิน การดูแลสุขภาพ ขั้นตอนการประกอบพิธีฮัจญ์ บทบาทหน้าที่และการอำนวยความสะดวกผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ตลอดจนภาษาอาหรับและอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ศอ.บต. มีแนวคิดที่จะพัฒนาส่งเสริมกิจการฮัจญ์ ด้วยการยกระดับให้เป็นมาตรฐานสากล ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการจัดสร้างสนามบินให้มีขนาดใหญ่ ครบวงจร รองจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อใช้ในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิมทั่วประเทศ โดยบริเวณสนามบินจะมีโรงพยาบาล โรงแรม สามารถเชื่อมโยงพี่น้องมุสลิม ทั้งในและต่างประเทศได้ ซึ่งเชื่อว่า ศักยภาพของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถทำได้
พร้อมกันนี้ จะมีการผลักดันให้สิทธิ์กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่ถูกจับกุม ถูกคุมขังโดยมิชอบ และศาลตัดสินยกฟ้อง จนได้รับการปล่อยตัว ได้มีโอกาสเดินทางไปแสวงบุญในโควตาของ ศอ.บต. ที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลปีละ 200 คน ซึ่งถือเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้ รวมทั้งตนยังได้มีการหารือกับนายนาบิล เอช อัชรี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย เพื่อขอโควตาพิเศษ ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นแขกพิเศษ ของประเทศซาอุดิอาระเบียในการเดินทางไปแสวงบุญอีกทางหนึ่งด้วย ขณะเดียวกัน จะเสนอให้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนใต้ จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้แสวงบุญที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 8,000 คน โดยจะต้องอบรมจำนวน 20 ครั้ง ก่อนออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์
