ยะลา - จุฬาราชมนตรี กล่าวทั้งน้ำตา แสดงห่วงใยต่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมทั้งให้กำลังใจ เลขาธิการ ศอ.บต. ในการปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่คนไทยในประเทศซาอุดีอาระเบียที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากทางภาครัฐ ศอ.บต. พร้อมประสานให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ (Conferance Room Of SBPAC) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายประมุข ละมุล รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ฝ่ายบริหาร) นายฐานิส ศรียะพันธุ์ รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ฝ่ายยุติธรรม) นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ จุฬาราชมนตรี ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยศาสนาอิสลามเน้นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สร้างไมตรีจิตระหว่างเพื่อนมนุษย์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอความร่วมมือจากคณะกรรมการอิสลามทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำหลักศาสนาอิสลาม มาเป็นแนวทางสร้างความสันติสุข โดยใช้หลักสันติวิธีในพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนการประกอบศาสนกิจของพี่น้องประชาชน
พร้อมทั้งกล่าวชื่นชม และให้กำลังใจ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยน้ำตา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างตั้งใจ และมุ่งมั่นโดยยึดหลักการบริหารงานด้วยความยุติธรรม ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทุกวันนี้ ยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ แต่เชื่อว่าอย่างไรก็ตาม หากเราทุกคน หันมาให้ความร่วมมือกันในทุกๆ ศาสนา สันติสุขย่อมเกิดขึ้นในพื้นที่บ้านเราอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้กล่าวถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา ทั้งการประกอบพิธีฮัจญ์ ของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 8,000 คน โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรม โดยจะให้โควตาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ที่ประกอบคุณงามความดีในพื้นที่ก่อน
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบียกว่า 13,000 คน ที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากทางภาครัฐ ซึ่งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถานทูต ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว
