xs
xsm
sm
md
lg

“อาณัติ” ชี้ต่อสัญญาจ้างบีทีเอสเดินรถ ทำให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าระดับเวิลด์คลาส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
“อาณัติ” ชี้ ต่อสัญญาจ้างบีทีเอสเดินรถ ทำให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าระดับเวิลด์คลาส “สกลธี” ชี้ เหตุดีเอสไอเลื่อนพิจารณาคดี เพราะต้องหาข้อมูลมายัดบีทีเอสเป็นคดีพิเศษให้ได้

วานนี้ (3 ก.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการเสวนา “เปิดความจริงสัญญาจ้าง 30 ปี”โดยมีการเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. นายอาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุง้ทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี นายอมร กิจเชวงกุล กก.ผอ.บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของ กทม.นายนภาพล จีระกุล อดีตรองประธานสภากทม.และ นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตข้าราชการสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นต้น ซึ่งงานเสวนาครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องบลูสกาย ชาแนล (Bluesky Channel) สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งนี้ กำหนดการเบื้องต้น แจ้งว่า ได้มีการเชิญ นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งได้ตกลงจะมาร่วมงาน แต่ในที่สุดก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานได้

ทั้งนี้ นายอาณัติ กล่าวในการเสวนาว่า การตัดสินใจของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.สมัยหน้านี้ แต่เป็นการแสดงความกล้าหาญในการตัดสินใจเพื่อเป็นการประกันที่ประชาชนจะมีรถไฟฟ้าระดับเวิลด์คลาสใช้ในอนาคตระยะยาว ขณะที่บีทีเอสซีก็มีความประสงค์ที่จะได้รับการต่อสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าระยะยาวมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่เป็นสัญญาปีต่อปี

“ตลอดช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวโจมตีเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อบีทีเอสซี ถ้าจะมีก็คือการต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นรับทราบ เพราะเราเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปลายเดือนนี้ก็จะมีการประชุมบอร์ดบีทีเอสก็จะมีการเปิดโอกาสให้บอร์ดซักถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย” นายอาณัติ กล่าว

ด้าน นางบรรณโศภิษณ์ เมฆวิชัย อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวในการเสวนาตอนหนึ่ง ว่า ในอนาคตเมืองจะเกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น รัฐบาลกลางต้องให้ความสำคัญต่อ พ.ร.บ.กระจายอำนาจให้กับท้องถิ่น เพราะอนาคต 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่เกิดใหม่ จะอาศัยในเมือง ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นกรณีศึกษาที่จะต้องดูไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นประโยชน์ของประชาชนก็ต้องดำเนินการต่อโดยเป็นผลงานของใครคนนั้นก็รับไปเลยไม่ได้เสียหายอะไร

“เลิกซะที ใครมาแล้วจะทำงานต่อคนอื่นไม่ได้ ต้องมีสัญญาสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ซึ่งเป็นสัญญาที่จะมาทำเพื่อประชาชน ดูจากกรณีหนองงูเห่าเริ่มโครงการตั้งแต่ดิฉันอายุ 18 เพิ่งจะได้ใช้ตอนแก่เพราะมันไม่มี commitment ที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่” อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ขณะที่ นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การโจมตีเรื่องบีทีเอสเป็นประเด็นทางการเมืองแน่นอน เพราะเป็นช่วงที่ใกล้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และมีชื่อ นายประพันธ์พงษ์ เวชชาชีวะ ประธานคณะกรรมการกรุงเทพธนาคมอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่า เกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน ทั้งนี้ การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามายุ่งเกี่ยว และจะพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษ ทั้งที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 66 บุคคลที่มีตำแหน่งเป็นข้าราชการการเมือง ซึ่งมีการฟ้องร้องผู้ว่าฯ กทม.และรองผู้ว่าฯ กทม.ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจะต้องดีเอสไอจึงต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เคยถามว่า ทำไมต้องกลัวที่จะเป็นคดีพิเศษ ถ้าไม่ผิดจะกลัวทำไม ซึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กลัว เพราะกังวลว่าจะเหมือนเมื่อครั้งที่มีคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และคดีไซฟอนเงินที่ดีเอสไอให้คดีไซฟอนเงินเป็นคดีพิเศษ แต่พอการสอบสวนดีเอสไอทำแต่เรื่องที่เกี่ยวโยงกับการยุบพรรคประชาธิปัตย์ จึงกลัวว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่หากให้ ป.ป.ช.ก็มีความเชื่อถือ คงไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนการที่คณะกรรมการคดีพิเศษเลื่อนการพิจารณาบีทีเอสมาเป็นวันที่ 4 ก.ค.ก็เพื่อหาช่องทางให้บีทีเอสเข้าเป็นคดีพิเศษให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น