“สุขุมพันธุ์” เปิดหมดใจเซ็นสัญญาจ้างบีทีเอสเดินรถเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประชาชน สร้างหลักประกันค่าโดยสาร พร้อมขอบคุณดีเอสไอ เลื่อนพิจารณาคดี ระบุโตๆ กันแล้ว ยืนยันถ้าประชาชนเลือกเป็นผู้ว่าฯก็จะกลับมาสานต่อเหมือนเดิม
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการจัดการเสวนาเรื่องเปิดความจริงสัญญาจ้าง 30 ปี โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงมาโดยตลอดซึ่งคนเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะต้องไม่กังวลเรื่องนี้ นั้นคือ โครงสร้างค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งหาก รฟม.เข้ามาบริหารจัดการก็ไม่จำเป็นต้องดูแลผลประโยชน์ของประชาชนแต่ผู้ว่าฯ กทม.มาจากการเลือกตั้งต้องดูแลผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นคนที่เป็นผู้ว่าฯกทม.ต้องหาหลักประกันที่ดีที่สุดให้ประชาชน โดยตนเองเชื่อว่าผู้ว่าฯกทม.ในอนาคตก็ต้องช่วยดูแลผลประโยชน์ให้กับประชาชนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสให้ดีที่สุดเช่นกัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสัมปทาน แต่เป็นเป็นการดำเนินการที่ตรงกันข้ามซึ่งเหมือนเป็นการยืนยันว่ากทม.จะไม่ต่อสัมปทานแต่เป็นสัญญาว่าจ้างที่กทม.สามารถลดการใช้งบประมาณได้ แต่ที่สำคัญ คือ อำนาจการตัดสินใจโครงสร้างค่าโดยสารรถไฟ้ฟ้าบีทีเอสในอนาคตที่ผู้ว่าฯกทม.จะเป็นผู้กำหนดได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน
“มันเป็นไปตามเจตนารมย์ของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจท้องถิ่นในการ ฉบับ พ.ศ.2550 มาตรา 281 ที่ระบุว่า รัฐต้องให้ความเป็นอิสระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ และมาตรา 283 ที่ระบุว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีอำนาจหน้าที่โดยทั่วไปในการดูแลและจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นไปตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา 16 ที่ระบุว่า ท้องถิ่นมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะ เป็นต้น”
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตนเองดีใจและขอบคุณที่คณะกรรมการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เลื่อนการพิจารณาไปอีก 1 เดือนเพื่อศึกษาข้อมูล ซึ่งตนเองอยากให้ว่าตามกฎหมาย ว่าไปตามเนื้อผ้า อย่าเพิ่งรีบคิดว่าใครผิดใครถูก ถ้าพลาดไปแล้วผลเสียจะเกิดขึ้นกับคนกรุงเทพฯ และบีทีเอสด้วย โดยส่วนตัวไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น โตๆกันแล้ว และตนเองก็จะสู้ต่อไป และจะลงอีก ถ้าประชาชน เลือกตนเองก็จะกลับมาทำเรื่องนี้อีก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวมาโดยตลอดว่ารัฐบาลกลางจะยึดโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสไปดำเนินการเอง ไม่ใช่แค่สมัยของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รัฐบาลสมัยก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน เพราะว่าโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นของดี มีปริมาณผู้โดยสารในขณะนี้ถึงวันละ 5 แสนกว่าเที่ยวต่อวันแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครแสดงความอยากได้เลย
“ผมในฐานะผู้ว่าฯกทม.ก็ต้องหาทางอกของการแก้ปัญหาที่ดี และต้องมีความแน่นอน ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่สมควรเป็นผู้ว่าฯต่อไป และที่สำคัญทางออกในการจ้างบีทีเอสเดินรถ30ปีนี้มีการศึกษาวิธีการอย่าง รอบคอบมานาน โดยใช้วิธีการจ้างเดินรถไฟฟ้าไม่ใช่การต่ออายุสัมปทาน”ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
