“ยูเนสโกกรุงเทพฯ” แจงกองทุนมรดกโลกของเจฟฟ์ เป็นองค์กรเอ็นจีโอไม่เกี่ยวข้อง “เวิร์ลเฮอร์ริเทจฟันด์” ของยูเนสโกแต่อย่างใด กรมศิลปากรมั่นใจ อุทยานฯ กรุงเก่า ไม่มีวาระประชุม กก.มรดกโลก ปลายเดือนมิถุนายนนี้
สืบเนื่องมาจาก เจฟฟ์ มอร์แกน ผู้อำนวยการบริหารกองทุนมรดกโลก (Global Heritage Fund) ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า มีโบราณสถานในเอเชียจำนวน 10 แห่ง ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งกำลังเผชิญกับความเสียหายที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และภาวะเสี่ยงที่จะถูกทำลาย หรือสูญหายไปจากกระแสเชี่ยวกรากของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สงคราม และการท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นคือ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ กรมศิลปากร ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และเตรียมทำหนังสือถึงองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) สำนักงานใหญ่ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะอุทยานฯ พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม และการที่อยุธยาประสบปัญหาอุทกภัยไม่ได้หมายความว่า จะเสี่ยงต่อการถูกทำลาย ที่สำคัญ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สนับสนุนงบประจำปีต่อเนื่องมาตลอด ตั้งแต่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อปี 2534 และจัดสรรงบฯกว่า 500 ล้านบาท ฟื้นฟูโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วม
วานนี้ (5 พ.ค.) นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร ว่า ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ยูเนสโกสำนักงานกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวมาในเบื้องต้น ว่า เป็นการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน และอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องกองทุนมรดกโลกประกาศรายชื่อโบราณสถาน 10 แห่งในประเทศต่างๆ ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงถูกทำลาย หรือสูญหายนั้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าวใช้ชื่อว่า Global Heritage Fund ไม่ได้เป็นหน่วยงานในสังกัดของยูเนสโก โดยเป็นกองทุนของนักวิชาการเอ็นจีโอ
สำหรับประเด็นที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด และคิดว่า ทางยูเนสโกเป็นผู้ประกาศรายชื่อดังกล่าวออกมา น่ามาจากสาเหตุการแปลชื่อกองทุน ซึ่งกองทุนมรดกโลกของเจฟฟ์ มอร์แกน ใช้ชื่อกองทุนว่า Global Heritage Fund ส่วนกองทุนมรดกโลก ในหน่วยงานสังกัดยูเนสโก ใช้ชื่อว่า World Heritage Fund ทั้งนี้ ชื่อกองทุนทั้ง 2 กองทุน เมื่อแปลมาเป็นภาษาไทย คือ กองทุนมรดกโลก ตรงนี้จึงอาจทำให้เข้าใจผิดกันได้
นางโสมสุดา กล่าวด้วยว่า การแสดงความคิดเห็นของ เจฟฟ์ มอร์แกน เป็นความเห็นส่วนตัวและในฐานะนักวิชาการของกองทุนดังกล่าวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับยูเนสโกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 36 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 5 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือ หรือว่าประกาศรายชื่อโบราณสถานที่ได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลกและเสี่ยงต่อการถูกทำลายและต้องปรับปรุงพื้นฟู แต่ขณะนี้ยังไม่มีวาระเรื่องนี้ในการประชุมดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้าน นางมณฑิรา อุนากูล เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมยูเนสโก กรุงเทพฯ ดูแลภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า กรณีกองทุนมรดกโลกนี้มีชื่อ Global Heritage Fund เมื่อมีการแปลออกมาเป็นภาษาไทยโดยไม่ได้กำกับภาษาอังกฤษไว้ จึงทำให้อ่านเกิดความสับสน และเข้าใจผิดได้ ทั้ง Global ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ World Heritage Fund ของยูเนสโกที่รู้จักกันดี จึงได้ทำความเข้าใจกับ นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน Global นั้น เป็นองค์กรกึ่งเอ็นจีโอ ก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกา ด้วยวัตถุประสงค์สนับสนุนงานอนุรักษ์ทั่วโลก จะมีวิธีการเลือกให้ทุนที่ไหนบ้าง เช่น ที่ผ่านมา โครงการในเวียดนาม จีน กัมพูชา ดังนั้น การที่ Global แถลงข่าว 10 แห่งนั้น ไม่แน่ใจจะเป็นการให้ทุนหรือไม่ คงต้องติดตามรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ดี อุทยานประวัติพระนครศรีอยุธยา ไม่มีในวาระประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
สืบเนื่องมาจาก เจฟฟ์ มอร์แกน ผู้อำนวยการบริหารกองทุนมรดกโลก (Global Heritage Fund) ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า มีโบราณสถานในเอเชียจำนวน 10 แห่ง ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งกำลังเผชิญกับความเสียหายที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และภาวะเสี่ยงที่จะถูกทำลาย หรือสูญหายไปจากกระแสเชี่ยวกรากของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สงคราม และการท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นคือ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ กรมศิลปากร ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และเตรียมทำหนังสือถึงองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) สำนักงานใหญ่ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะอุทยานฯ พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม และการที่อยุธยาประสบปัญหาอุทกภัยไม่ได้หมายความว่า จะเสี่ยงต่อการถูกทำลาย ที่สำคัญ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สนับสนุนงบประจำปีต่อเนื่องมาตลอด ตั้งแต่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อปี 2534 และจัดสรรงบฯกว่า 500 ล้านบาท ฟื้นฟูโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วม
วานนี้ (5 พ.ค.) นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร ว่า ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ยูเนสโกสำนักงานกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวมาในเบื้องต้น ว่า เป็นการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน และอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องกองทุนมรดกโลกประกาศรายชื่อโบราณสถาน 10 แห่งในประเทศต่างๆ ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงถูกทำลาย หรือสูญหายนั้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าวใช้ชื่อว่า Global Heritage Fund ไม่ได้เป็นหน่วยงานในสังกัดของยูเนสโก โดยเป็นกองทุนของนักวิชาการเอ็นจีโอ
สำหรับประเด็นที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด และคิดว่า ทางยูเนสโกเป็นผู้ประกาศรายชื่อดังกล่าวออกมา น่ามาจากสาเหตุการแปลชื่อกองทุน ซึ่งกองทุนมรดกโลกของเจฟฟ์ มอร์แกน ใช้ชื่อกองทุนว่า Global Heritage Fund ส่วนกองทุนมรดกโลก ในหน่วยงานสังกัดยูเนสโก ใช้ชื่อว่า World Heritage Fund ทั้งนี้ ชื่อกองทุนทั้ง 2 กองทุน เมื่อแปลมาเป็นภาษาไทย คือ กองทุนมรดกโลก ตรงนี้จึงอาจทำให้เข้าใจผิดกันได้
นางโสมสุดา กล่าวด้วยว่า การแสดงความคิดเห็นของ เจฟฟ์ มอร์แกน เป็นความเห็นส่วนตัวและในฐานะนักวิชาการของกองทุนดังกล่าวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับยูเนสโกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 36 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 5 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือ หรือว่าประกาศรายชื่อโบราณสถานที่ได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลกและเสี่ยงต่อการถูกทำลายและต้องปรับปรุงพื้นฟู แต่ขณะนี้ยังไม่มีวาระเรื่องนี้ในการประชุมดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้าน นางมณฑิรา อุนากูล เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมยูเนสโก กรุงเทพฯ ดูแลภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า กรณีกองทุนมรดกโลกนี้มีชื่อ Global Heritage Fund เมื่อมีการแปลออกมาเป็นภาษาไทยโดยไม่ได้กำกับภาษาอังกฤษไว้ จึงทำให้อ่านเกิดความสับสน และเข้าใจผิดได้ ทั้ง Global ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ World Heritage Fund ของยูเนสโกที่รู้จักกันดี จึงได้ทำความเข้าใจกับ นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน Global นั้น เป็นองค์กรกึ่งเอ็นจีโอ ก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกา ด้วยวัตถุประสงค์สนับสนุนงานอนุรักษ์ทั่วโลก จะมีวิธีการเลือกให้ทุนที่ไหนบ้าง เช่น ที่ผ่านมา โครงการในเวียดนาม จีน กัมพูชา ดังนั้น การที่ Global แถลงข่าว 10 แห่งนั้น ไม่แน่ใจจะเป็นการให้ทุนหรือไม่ คงต้องติดตามรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ดี อุทยานประวัติพระนครศรีอยุธยา ไม่มีในวาระประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
