xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” ดัน กศน.เป็นแท่งที่ 6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สุชาติ” พร้อมดัน กศน.เป็นแท่งที่ 6 มีอำนาจบริหารจัดการเทียบเท่าผู้บริหารซี 11 ขณะที่อีก 5 แท่ง เตรียมปรับภายในหวังคล่องตัว โดย ก.ค.ศ.และ สช.เล็งขอยกฐานะเป็นนิติบุคคล แต่ยังอยู่ภายใต้กำกับสำนักปลัด ดังเดิม คาดไม่เกิน 1 เดือนเสนอ ก.พ.ร.ก่อนชงเข้า ครม.อีกรอบ

วันนี้ (2 พ.ค.) ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการ ศธ.ซึ่งมีตัวแทนจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก.คลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมเป็นกรรมการ ว่า คณะกรรมการได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง ศธ.หลังจากประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 โดยสาระสำคัญได้มีข้อเสนอขอแยกสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ซึ่งปัจจุบันมีฐานะเป็นสำนักงานหนึ่งในสำนักปลัด ศธ.ออกมาเป็นกรม หรือแท่งที่ 6 ของ ศธ.พร้อมทั้งยกระดับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่มีฐานนะเป็นสำนักงานในสำนักปลัด ศธ.ขึ้นเป็นกรม แต่เป็นกรมที่อยู่ภายใช้สำนักปลัด ศธ.มีฐานะเป็นนิติบุคคล เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน ทางองค์กรหลักอื่นๆ ที่เหลือ อย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะมีการปรับโครงสร้างภายในของตัวเองด้วย

“ผมเห็นด้วยและคิดว่า มีความจำเป็นที่จะต้องยกฐานะ กศน.ขึ้นมาเป็นแท่งที่ 6 เพราะ กศน.รับผิดชอบนโยบายที่สำคัญหลายเรื่อง อาทิ นโยบายเพิ่มวุฒิการศึกษาให้คนไทยที่ยังไม่จบม.6 กว่า 10 ล้านคน โดย กศน.ได้จัดทำหลักสูตร ให้จบ ม.6 ภายใน 8 เดือน และกำลังดำเนินการอยู่ รวมไปถึงโครงการคูปองอัจฉริยะ ที่แจกคูปองให้เด็กยากจนไปซื้อหนังสืออ่านฟรี นอกจากนั้น กศน.ยังรับผิดชอบดูแลโรงเรียนที่อยู่บนดอยด้วย” ศ.ดร.สุชาติ กล่าว

ด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.กล่าวว่า เนื่องจากโครงสร้างใหม่ที่ใช้มาระยะหนึ่งนี้ มีความไม่ลงตัวหลายๆ อย่าง สมควรมีการปรับแก้ไข เพื่อให้การบริหารจัดการมีความคล่องตัวขึ้น อย่างเช่น สช.และ ก.ค.ศ.ถ้าปรับให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลแต่ยังอยู่ภายใต้กำกับของ สป.ศธ.แล้ว ก็จะทำให้ ก.ค.ศ.มีอำนาจในการตัดสินใจบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่าน สป.ศธ.ทุกเรื่อง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเบื้องต้นให้แต่ละแท่ง กลับไปจัดทำรายละเอียดของตนเองมา ก่อนจะกลับมาหารือกันอีกครั้ง แต่ตามหลักการแล้ว การปรับโครงสร้างของศธ.จะต้องผ่านความเห็นจากคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างฯก่อน จากนั้นต้องเสนอความเห็นให้ ก.พ.ร.พิจารณา ซึ่ง ก.พ.ร.จะเวียนถามความเห็นจากทุกหน่วยงาน ก่อนสรุปเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป แต่ครั้งนี้มีการเสนอ แยกกศน.เป็นแท่งที่ 6 ด้วย ซึ่งจะต้องมีการแก้ พ.ร.บ.ระเบียบราชการบริหาร ศธ.รวมถึงมีการยกร่าง พ.ร.บ.การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ออกมารองรับการยกฐานะ กศน.เป็นแท่งที่ 6

ขณะที่ นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ศธ.เคยเสนอ พ.ร.บ.การศึกษานอกระบบและการศึกษาอัธยาศัย ให้ ครม.พิจารณามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ ครม.ตีกลับ และให้ไปถามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างฯก่อน จึงได้มีประชุมในวันนี้ (2 พ.ค.) และคณะกรรมการมีมติเห็นชอบแต่ให้ กศน.ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้ชัดเจน ให้เสร็จภายใน 1 เดือน ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ก็เห็นด้วย ที่จะให้ กศน.ยกฐานะเป็นแท่งที่ 6 เพราะเห็นว่า กศน.มีคนที่ไม่อยู่ในระบบการศึกษาปกติที่ต้องดูแลถึง 40 ล้านคน และยังต้องรับผิดชอบนโยบายสำคัญๆ ของรัฐบาล เช่น นโยบายให้คนไทย 10 ล้านคนได้จบ ม.6 และการส่งเสริมการฝึกอาชีพชุมชน มินิโอทอป เพราะฉะนั้น การยกระดับ กศน.เป็นแท่งที่ 6 จะทำให้ กศน.คล่องตัวมากขึ้นบริการประชาชนได้เต็มที่ขึ้น และตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้มากขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น