สปสช.เผยข้อมูลการรับบริการตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตรักษาทุกที่ทั่วถึงทุกคนตั้งแต่วันที่ 1-25 เม.ย. พบมีผู้ใช้บริการ 1,157 ราย ส่วนใหญ่เป็นการบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุต่างๆ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคระบบสมองและระบบประสาท แจงภาพรวม รพ.เอกชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เดินหน้าทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการทันท่วงทีโดยไม่สอบถามสิทธิ์
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายบูรณาการ 3 กองทุนเพื่อการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินรุนแรงเสี่ยงต่อชีวิต สำหรับประชาชนทุกสิทธิ์ของระบบประกันสุขภาพทั้ง 3 กองทุน โดยเริ่มต้นที่ผู้ป่วยฉุกเฉินโดยมีแนวคิดให้ “ผู้ป่วยฉุกเฉินเสี่ยงต่อชีวิต” ได้รับบริการโดยไม่ต้องถามสิทธิ์ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-25 เม.ย.พบว่ามีผู้ป่วยรับบริการตามนโยบายดังกล่าว 1,157 ราย เป็น สิทธิประกันสังคม 120 ราย สิทธิสวัสดิการข้าราชการ 189 ราย สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ30 บาทรักษาทุกโรค 844 ราย รัฐวิสาหกิจ 3 ราย และผู้มีปํญหารอพิสูจน์สถานะและสิทธิ 1 ราย เมื่อแบ่งตามพื้นที่พบว่า อยู่ในเขต กทม./ปริมณฑล 696 ราย เขตต่างจังหวัด 461 ราย
นพ.วีระวัฒน์กล่าวต่อว่า อาการหรือโรคที่รับบริการ มีดังนี้ 1. โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด 204 ราย 2. โรคระบบทางเดินหายใน 113 ราย 3. โรคระบบสมอง, ระบบประสาท 137 ราย 4. การบาดเจ็บรุนแรง แบ่งเป็น อุบัติเหตุจราจร 107 ราย อุบัติเหตุอื่นๆ เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย ตกจากที่สูง เหตุระเบิด ไฟฟ้าช็อต แผลไหม้ แก๊สระเบิด 206 ราย 5.อาการฉุกเฉินรุนแรงอื่นๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง ไส้ติ่งอักเสบ อาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ เลือดออกทางปัสสาวะ คลอดฉุกเฉินบนรถ ถูกงูพิษกัด ช็อก 387 ราย
“จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าโรงพยาบาลเอกชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่โรงพยาบาลในระบบได้ประสานรับย้ายผู้ป่วยบางรายไปอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป เพราะนโยบายนี้เป็นประโยชน์กับประชาชนไทยทุกคน การดำเนินการช่วงแรกๆ อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่โดยภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จดี แต่ก็ยังมีปัญหาบางประการที่ต้องประสานงานแก้ไขอย่างต่อนเนื่องต่อไป” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว
