xs
xsm
sm
md
lg

เด็กแห่เรียนภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
สพฐ.ชี้ การก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้เด็กแห่เรียนภาษาอาเซียน โดยภาษาจีน ครองแชมป์ อันดับ 1 ตามด้วยญี่ปุ่น เกาหลี ขณะที่ภาษาฝรั่งเศส ที่เคยได้รับความนิยม ยอดผู้เรียนตกฮวบ ส่งผลให้บางโรงต้องเลิกสอน เพราะไม่มีคนเรียน

น.ส.อุษณีย์ วัฒนพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหัวหน้าสถาบันการแปลและการส่งเสริมภาษาจีน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศจีนเข้มแข็ง และเติบโตขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศทางฝั่งตะวันตกเริ่มอ่อนตัวลง ส่งผลให้ประเทศต่างๆ หันมาเรียนภาษาในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี ขณะที่ภาษาของประเทศทางฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศสที่มีคนเรียนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน โรงเรียนสังกัด สพฐ. สอนภาษาต่างประเทศทั้งหมด 11 ภาษา ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน รัสเซีย อาหรับ พม่า เวียดนาม เขมร ไม่นับรวมภาษาอังกฤษ เพราะถือเป็นวิชาบังคับที่ทุกคนต้องเรียน โดยภาษาที่มีผู้นิยมเรียนมากที่สุดขณะนี้ คือ ภาษาจีน รองลงมา คือ ญี่ปุ่น และเกาหลี มีโรงเรียนเปิดสอนภาษาจีนประมาณ 700 โรงเรียน มีนักเรียนประมาณเกือบ 300,000 คน ญี่ปุ่น มีโรงเรียนสอนประมาณ 175 โรงเรียน มีนักเรียนประมาณ 34,000 คน และภาษาเกาหลีที่เพิ่งเปิดสอนไปเมื่อปีการศึกษา 2553 แต่กลับมีผู้สนใจเรียนมากถึง 12,000 คน

“การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลให้คนหันมาเรียนภาษาในแถบประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่คนในภูมิภาคนี้เท่านั้นที่สนใจเรียนภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน แม้แต่คนตะวันตกเองก็หันมาสนใจเรียนภาษาจีนจำนวนมาก ขณะที่ภาษาฝรั่งเศสที่เดิมเด็กไทยจะสนใจเรียนมากควบคู่กับภาษาอังกฤษ แต่จากสถิติตั้งแต่ปีการศึกษา 2550-2554 พบว่า มีคนสนใจเรียนภาษาฝรั่งเศสน้อยลง โดยปัจจุบันมีโรงเรียนสังกัดสพฐ.ที่สอนยังสอนภาษาฝรั่งเศสเพียง 221 โรงเรียน มีผู้เรียน 35,490 คน และมีครูที่สอนภาษาฝรั่งเศสเพียง 383 คน จากเดิมโรงเรียนในสังกัด สพฐ.เกือบทุกโรงเรียนจะสอนภาษาฝรั่งเศสเป็นวิชาเลือก แต่หลังจากที่มีคนสนใจเรียนน้อยลงทำให้โรงเรียนต้องเลิกสอนภาษาฝรั่งเศสไปเป็นจำนวนมาก เพราะไม่มีคนเรียน” น.ส.อุษณีย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น