xs
xsm
sm
md
lg

ร้องเพลงในห้องน้ำ ช่วยให้พูดไทยได้ชัดขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิรุทติ์  อมรคณารัตน์
“มาเล่นในใจฉันเต้นแบบนี้ ฉันว่าเธอก็มีอาการใช่ไหม
ใจมันเต้น มันเต้น เป็นจังหวะรัก แล้วเธอล่ะ อ่ะ เต้นจังหวะยังไง” หลายคนอาจเคยได้ยินเสียงร้องเพลงนี้อย่างมีความสุขแบบอินสุดๆ ดังลอดมาจากห้องน้ำ แข่งกับเสียงซู่ ซู่ของฝักบัว

40 เปอร์เซ็นต์ของชาย และหญิงเอเชีย ชอบร้องเพลงขณะอาบน้ำ

การร้องเพลงในห้องน้ำ นอกจากทำให้มีความสุข ช่วยลดเครียดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้พูดภาษาไทยได้ชัดขึ้น

คุณนิรุทติ์ อมรคณารัตน์ นักกิจกรรมบำบัด โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ) กล่าวว่า “การพูดภาษาไทยให้ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญ พิธีกร, นักร้อง, นักแสดง, คุณครู, ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ เป็นอาชีพที่จำเป็นต้องพูดภาษาไทยให้ถูกต้อง การร้องเพลงในห้องน้ำมีส่วนช่วยให้พูดภาษาไทยได้ชัดขึ้น รวมถึงมีส่วนช่วยในการบำบัดผู้ป่วยกลุ่มที่มีปัญหาปลายประสาทอักเสบอย่างที่เป็นข่าวของดาราสาวชื่อดังที่เกิดขึ้นจากการพักผ่อนน้อย, รวมถึงผู้ป่วยอัมพาต อัมพฤกษ์”
ร้องเพลงในห้องน้ำช่วยให้พูดภาษาไทยชัดเจนขึ้น
“คนส่วนใหญ่ชอบร้องเพลงในห้องน้ำ เพราะมักรู้สึกว่าร้องแล้วเสียงเพราะ กังวาน เนื่องจากห้องน้ำมีขนาดเล็ก และเป็นห้องแบบปิดปูด้วยกระเบื้อง ลักษณะการสะท้อนของเสียงที่พุ่งออกไปถูกกระจาย และสะท้อนไปมาในห้องน้ำ ทำให้เกิดเสียงสะท้อนกลับ แบบก้องกังวาน รวมถึงไม่มีใครอยู่รอบข้าง ทำให้รู้สึกว่าไม่โดนจับผิด ผ่อนคลายได้เต็มที่ จึงปล่อยเสียงได้อย่างเต็มที่ น้ำหนักเสียงจึงดีกว่าการร้องโดยปกติ”

“การร้องเพลงยังช่วยให้พูดได้ชัดขึ้น เพราะคอหอย ลิ้น ริมฝีปาก กล่องเสียง ฯลฯ ได้ทำงานขณะที่หูได้ฟังไปด้วย ทำให้เกิดการออกกำลังกายเสียง และควบคุมส่วนต่างๆ ที่ใช้ในการพูดและช่วยให้เคยชินกับการควบคุม ทั้งการควบคุมลม การหายใจ การเว้นวรรค และจังหวะ”

“วิธีที่ดีในการร้องเพลงเพื่อช่วยให้พูดภาษาไทยได้ชัดขึ้น คือ การร้องเพลงตามแบบนักร้องที่ร้องเพลง และออกเสียงภาษาไทยได้ชัดเจน เช่น อุเทน พรหมมินทร์ (เท่ห์), ธนพร แวกประยูร (ปาน), ฝน ธนสุนทร ฯลฯ หรือ ธงไชย แมคอินไตย เพลงไปเที่ยวกัน, สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว (บี้ เดอะสตาร์) เพลงจังหวะหัวใจ, วิชญาณี เปียกลิ่น (แก้ม เดอะสตาร์) เพลง แค่คำคำเดียว, นภัทร อินทร์ใจเอื้อ (กัน เดอะสตาร์) เพลงหวังดีประสงค์รัก, เพื่อจะเลียนเสียงที่มักพูดกันไม่ถูกต้อง

โดยปกติแล้วการฝึกพูดจะต้องมีครูฝึก หรือผู้บำบัด การร้องเพลงในห้องน้ำ จึงเป็นการใช้เสียงสะท้อนกลับจากผนัง และหูของเราทำหน้าที่แทน ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือผู้ที่พูดไม่ชัดปกติแล้วจะอาย และกลัวที่จะถูกล้อ หรือถูกทัก ทำให้ไม่กล้าพูดเต็มเสียง แต่ถ้าร้องเพลง หรือฝึกพูดในห้องน้ำก็จะช่วยแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้

ส่วนเวลาที่ใช้ในการฝึกก็มีความสำคัญ ถ้าเป็นช่วงเช้าร่างกายจะมีความพร้อม เพราะทุกส่วนของร่างกายก็สดชื่น, แข็งแรงพร้อมสำหรับการฝึก คุณภาพเสียงน่าจะดีกว่า จะทำให้มีกำลังใจในการฝึกร้องออกเสียงมากกว่า
ห้องน้ำห้องเล็กแบบปิด
สำหรับสาวๆ ที่ถูกเพื่อนๆ ล้อว่า “ติดไมค์” อาจต้องเปลี่ยนมาซ้อมร้องในห้องน้ำกันบ้างแล้ว คุณนิรุทติ์ ยังกล่าวต่อว่า “การร้องเพลง ยังเป็นการฝึกการควบคุมอวัยวะที่ใช้ในการพูดเพื่อช่วยให้พูดได้ชัดขึ้น

* อวัยวะที่ผลิตลม เช่น ปอด กล้ามเนื้อกระบังลม ในปอดมีกล้ามเนื้อซี่โครง และกล้ามเนื้อกระบังลมออกมา ซึ่งควบคุมทั้งความแรง ความเร็ว และจังหวะ

* อวัยวะที่ทำให้เกิดเสียง เวลาพูดจะมีการสั่นสะเทือนบริเวณสายเสียงที่อยู่ภายในกล่องเสียง (ใกล้ลูกกระเดือก) การสั่นน้อยทำให้เกิดเสียงแหบ และการสั่นมากทำให้เกิดเสียงสูง

* อวัยวะที่ใช้ในการเปล่งเสียงพูด เช่น เพดานแข็ง อ่อน ปุ่มเหงือก ลิ้น ฟัน ริมฝีปาก การควบคุมอวัยวะเหล่านี้ทำให้เกิดเสียงที่แตกต่างกันไป

* อวัยวะที่ทำให้เกิดความก้องของเสียง ซึ่งเป็นโพรงต่างๆ เช่น โพรงจมูก ช่องคอ ช่องจมูก

* สมอง และเส้นประสาทที่ใช้สั่งงาน และควบคุมเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์กันของกลุ่มอวัยวะทั้งหมด

* หู ช่วยให้ได้ยินเสียงต้นแบบ เพื่อให้เลียนเสียงได้

แต่ถ้าเป็นการพูดไม่ชัดจากความเจ็บป่วย เช่น มีปัญหาเรื่องการควบคุมลิ้น, กระพุ้งแก้ม, ริมฝีปาก, ลิ้นไก่ ฯลฯ คุณนิรุทติ์ แนะนำว่า ควรต้องพบแพทย์ด้านอายุรกรรมสมองเพื่อค้นหาสาเหตุ เช่น เกิดที่ก้านสมอง ที่ไปควบคุมการทำงานส่วนไหน, เปลือกสมอง, การติดเชื้อไวรัสบางตัว, การได้รับสารพิษ ฯลฯ และเข้าพบนักกิจกรรมบำบัดเพื่อทำการบำบัด อาจต้องเข้ารับการบำบัดด้วยการฝึกการพูด การปรับการทำงานของ ลิ้น ขากรรไกร ปาก กล่องเสียง ปอด และอื่นๆ เพื่อให้พูดได้ชัดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น