วสท.ได้ข้อสรุปหลังถกร่วม 3 หน่วยงาน กทม.-กปน.-รฟม.เห็นชอบเปิดผิวจราจรถนนพระราม 4 บริเวณที่ทรุดหวังหาสาเหตุที่แท้จริง ดีเดย์หลังสงกรานต์ ขณะที่รอยรั่วท่อระบายน้ำขยายจาก 3 นิ้ว เป็น 12 นิ้ว แต่ไร้ปัญหา
รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อนุกรรมการสาขาวิศวกรรมปฐพีสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วศท.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) การประปานครหลวง (กปน.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ในการประชุมครั้งนี้ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้เห็นตรงกันว่า ไม่จำเป็นจะต้องกำหนดน้ำหนักรถที่จะวิ่งบนถนนพระราม 4 เพราะพื้นผิวถนนมีความแข็งแรงอยู่แล้ว และได้มอบหมายให้ กทม.ไปสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้ โดยเฉพาะจุดที่มีการพาดผ่านของท่อสาธารณูปโภคของ กทม. กปน.และอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน โดย กทม.จะขอความร่วมมือไปยังกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการร่วมกำหนดถนนที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เนื่องจากแนวรถไฟฟ้าใต้ดินทุกเส้น ไม่ได้มีท่อของทั้ง 2 หน่วยงานพาดผ่านอยู่เสมอไป
รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเปิดผิวจราจรของถนนพระราม 4 ในบริเวณที่มีการทรุดตัว เพื่อหาสาเหตุ ว่า เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร เนื่องจากการประชุมในวันนี้ยังไม่ได้สาเหตุที่แท้จริง โดยการดำเนินการจะเริ่มภายหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการหารือกันอีกครั้งและจะเชิญตำรวจจราจรร่วมหารือด้วย เพื่อวางแผนและกำหนดวันในการดำเนินการดังกล่าว โดยจะมีการขุดผิวจราจรในช่วงกลางคืน และในช่วงกลางวันจะมีการนำแผ่นชีสพายมาวางไว้เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติ นอกจากนี้ ในที่ประชุมรับทราบว่าท่อระบายน้ำของกทม. ที่พบว่ามีรอยรั่วกว้างประมาณ 3 นิ้วนั้น ขณะนี้ได้ขยายกว้างขึ้นเป็น 12 นิ้ว แต่ยังสบายใจได้อยู่ว่าน้ำที่ไหลมาจากท่อระบบปิด ทำให้ไม่มีการรั่วซึมหรือว่าชะล้างดินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติมอีก
รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อนุกรรมการสาขาวิศวกรรมปฐพีสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วศท.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) การประปานครหลวง (กปน.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ในการประชุมครั้งนี้ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้เห็นตรงกันว่า ไม่จำเป็นจะต้องกำหนดน้ำหนักรถที่จะวิ่งบนถนนพระราม 4 เพราะพื้นผิวถนนมีความแข็งแรงอยู่แล้ว และได้มอบหมายให้ กทม.ไปสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้ โดยเฉพาะจุดที่มีการพาดผ่านของท่อสาธารณูปโภคของ กทม. กปน.และอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน โดย กทม.จะขอความร่วมมือไปยังกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการร่วมกำหนดถนนที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เนื่องจากแนวรถไฟฟ้าใต้ดินทุกเส้น ไม่ได้มีท่อของทั้ง 2 หน่วยงานพาดผ่านอยู่เสมอไป
รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเปิดผิวจราจรของถนนพระราม 4 ในบริเวณที่มีการทรุดตัว เพื่อหาสาเหตุ ว่า เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร เนื่องจากการประชุมในวันนี้ยังไม่ได้สาเหตุที่แท้จริง โดยการดำเนินการจะเริ่มภายหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการหารือกันอีกครั้งและจะเชิญตำรวจจราจรร่วมหารือด้วย เพื่อวางแผนและกำหนดวันในการดำเนินการดังกล่าว โดยจะมีการขุดผิวจราจรในช่วงกลางคืน และในช่วงกลางวันจะมีการนำแผ่นชีสพายมาวางไว้เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติ นอกจากนี้ ในที่ประชุมรับทราบว่าท่อระบายน้ำของกทม. ที่พบว่ามีรอยรั่วกว้างประมาณ 3 นิ้วนั้น ขณะนี้ได้ขยายกว้างขึ้นเป็น 12 นิ้ว แต่ยังสบายใจได้อยู่ว่าน้ำที่ไหลมาจากท่อระบบปิด ทำให้ไม่มีการรั่วซึมหรือว่าชะล้างดินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติมอีก
