วธ.ระบุ ยูเนสโก ทวงถามไทยร่วม 4 ภาคีอนุสัญญา พร้อมหนุนผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านวิชาการ ฟื้นฟูมรดกโลกที่ถูกน้ำท่วม
วันนี้ (3 เม.ย.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายฟรานเซสโก แบนดาริน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กรุงเทพฯ สอบถามความคืบหน้าการพิจารณาเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาด้านวัฒนธรรมหลายฉบับของยูเนสโก ที่ไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ แต่ยังมิได้พิจารณาเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1.อนุสัญญาว่าด้วยวิธีการในการห้ามและป้องกันการนำเข้า การส่งออกและการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2.อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำ 3.อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และ 4.อนุสัญญาว่าด้วยการปกป้องและส่งเสริมความหลากหลายของการแสดงออกทางวัฒนธรรม
นางสุกุมล ชี้แจงว่า วธ.เห็นความสำคัญการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการกระบวนการภายในที่จำเป็นต่อการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา อาทิ การจัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ การประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวกับการออกกฎหมายภายใน และการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาของฉบับต่างๆ สำหรับอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำ ไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคี แต่กรมศิลปากร ได้ให้ความร่วมมือจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางวิชาการทางโบราณคดีใต้น้ำระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของอนุสัญญาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำกรอบการเก็บข้อมูล และการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน จึงขอความร่วมมือจากยูเนสโกให้คำแนะนำในด้านการจัดเก็บข้อมูลตามกรอบอนุสัญญาฯ โดยพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมกับไทย เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาทั้ง 4 ฉบับ พร้อมกันนี้ ยูเนสโกแจ้งว่ายินดีสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ และความช่วยเหลือด้านวิชาการ ในการฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานในอยุธยาซึ่งมีความสำคัญในฐานะแหล่งมรดกโลก ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม รวมถึงการวางแผนป้องกันภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นอีก